Code 117 : หุ้นใหญ่นิ่งๆ หุ้นเล็กวิ่งกระจาย

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม 2553

ATT Code : หุ้นใหญ่นิ่งๆ หุ้นเล็กวิ่งกระจาย
SET วันนี้ไปแตะแนวต้านที่ BB TOP 830 และก็เป็น High ของวัน ก่อนที่จะปิดปรับลงมาเล็กน้อยที่ 827.54 จุด + 6.52 จุด โดยหุ้นที่ขึ้นก็เป็นหุ้นที่มีกองทุนสนใจเข้าซื้อและอีกส่วนหนึ่งก็เป็นผลจากการไป Road Show ของรัฐบาล ส่วนสัปดาห์หน้าก็จะมีแนวต้านอยู่ที่ 840 และแนวรัยอยู่ที่ 820 จุด

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
16 กค .53 ( +1.48 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

เคลื่อนไหวในกรอบแคบอีกระยะ …
ตลาดยังคงแกว่งตัว ในกรอบแคบ รูปแบบคล้ายสามเหลี่ยม ระหว่าง 814 – 824 หรือ ประมาณจุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุดของสัปดาห์นี้ ตราบใดไม่เกิน 828 จุดขึ้นไป ถือว่า ตลาดยังคงมีความเสี่ยง พร้อมที่จะปรับตัวลงตลอดเวลา โดยมีเป้าหมายระยะหนึ่งสัปดาห์ ข้างหน้าในการปรับตัวลงบริเวณ 791 – 799 จุด ซึ่งเป็นเป้าหมายตามเครื่องมือ Point & Figure

ณ บริเวณ 791 – 799 จุด ตลาดน่าจะดีด ตัวกลับขึ้นมาแถว 820 – 825 ใกล้จุดสูงสุดของ สัปดาห์นี้อีกครั้ง ? ... รอดูโครงสร้างภาพอีกครั้ง


----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-หุ้นรายตัว!!
ดัชนีหุ้นวันที่ 15 ก.ค.53 ปิดที่ 821.02 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 24,810.84 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 341.07 ล้านบาท

หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย TMB ปิดที่ 1.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.13 บาท, CPF ปิดที่ 21.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท, STPI ปิดที่ 37.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท, BANPU ปิดที่ 614.00 บาท ลดลง 6.00 บาท และ SSI ปิดที่ 1.66 บาท ลดลง 0.02 บาท

หุ้น KCE บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ ทะยานขึ้นทำนิวไฮในรอบกว่า 6 ปี โดยฝ่ายวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" หุ้น KCE จากเดิม "เต็มมูลค่า" โดยจะมีการปรับปรุงราคาพื้นฐานอีกครั้ง หลังมีการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเดิมที่ให้ความเห็นว่า "เต็มมูลค่า" สำหรับ KCE เพราะกังวลเรื่องที่บริษัทมีตลาดหลักคือยุโรป แต่เมื่อธุรกิจบริษัทยังเป็นไปได้ด้วยดี จึงปรับคำแนะนำเป็นซื้ออีกครั้ง เพราะคาดการณ์กำไรสุทธิบริษัทจะมีการเติบโตสูง ดีบีเอสฯยังระบุว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 จะกลับมามีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หลังคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 จะอ่อนตัวลงจากไตรมาสแรก เนื่องจากขณะนี้ทองแดงซึ่งเป็นต้นทุนหลัก ราคาได้ปรับตัวลง ส่วนค่าเงินยูโรก็กลับมาแข็งค่า ทำให้รายได้ในสกุลบาทและอัตรากำไรขั้นต้นกลับมาดีขึ้น ขณะที่บริษัทแก้ปัญหาระบบไฟฟ้าที่โรงงาน KCE Technology ได้เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ต้นทุนของคู่แข่งคือจีน ได้เพิ่มขึ้น เช่น ต้นทุนค่าแรงที่เคยได้เปรียบกลับสูงขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่ตามปกติไตรมาส 3 จะเป็นฤดูกาลที่คำสั่งซื้อ PCB ดีที่สุดในรอบปี

ขณะที่หุ้น LPN ปรับขึ้นกว่า 9% หลังผู้บริหารคาดกำไรสุทธิปีนี้ดีกว่าปีก่อน ตามรายได้ที่คาดว่าจะขยายตัว 20% ขณะที่โบรกเกอร์เพิ่มราคาเป้าหมาย

โดย บล.กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ "ซื้อ" หุ้น LPN ให้ราคาเป้าหมาย 10.80 บาท ซึ่งเป็นราคาเป้าหมายใหม่ หลังได้ปรับขึ้นประมาณการกำไรปีหน้า 7% เนื่องจากมีงานในมือ (Backlog) มูลค่ามากถึง 8.94 พันล้านบาท ที่ยกไปโอนในปีหน้า

ปิดท้าย ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส มองแนวโน้มตลาดระยะสั้นคาดว่าจะผันผวนในเชิงบวก แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เก็งกำไรหุ้นพื้นฐานดี คาดผลประกอบการไตรมาส 2 จะขยายตัวอย่างโดดเด่น และมีปันผลระหว่างกาล ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 818 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 830 จุด.

ไทยรัฐ : เศรษฐกิจ -ฝรั่งผวาการเมือง-มาบตาพุด "จรัมพร" มึนต่างชาติยังคาใจลุยลงทุนตลาดหุ้น
ปัญหาสภาพคล่องหุ้นที่นักลงทุนกังวลนั้น ตลาดหลักทรัพย์มีมาตรการที่จะแก้ปัญหาอยู่แล้ว และจะหาหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาซื้อขายเพิ่มด้วย อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องในตลาดหุ้นไทยไม่ได้ ถือว่าน้อยเกินไป เพราะยังสูงกว่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นในอาเซียน ...นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวถึงผลการไปให้ข้อมูลนักลงทุน (โรดโชว์) ร่วมกับกระทรวงการคลัง บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ และ Deutsche Bank พร้อมบริษัทจดทะเบียนชั้นนำ 10 แห่ง เพื่อร่วมให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำในยุโรป ในงาน "DBTisco Access Thailand 2010" เมื่อวันที่ 12-13 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า สิ่งที่นักลงทุนเป็นห่วงและตั้งคำถามส่วนใหญ่คือปัญหาการเมืองในประเทศ ว่ามีโอกาสเกิดขึ้นอีกหรือไม่ รวมถึงปัญหาที่มีผลกระทบต่อการลงทุน เช่น กรณีมาบตาพุด ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลและเอกชนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา"ส่วนปัญหาสภาพคล่องหุ้นที่นักลงทุนกังวลนั้น ตลาดหลัก-ทรัพย์มีมาตรการที่จะแก้ปัญหาอยู่แล้ว และจะหาหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาซื้อขายเพิ่มด้วย อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องในตลาดหุ้นไทยไม่ได้ ถือว่าน้อยเกินไป เพราะยังสูงกว่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นในอาเซียน ยกเว้นสิงคโปร์ นอกจากนี้ ตลาดได้เน้นชี้แจงเรื่องความสามารถของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยชี้ให้เห็นว่า แม้จะเกิดมรสุมอะไรเข้ามากระทบ แต่ บจ.ไทยยังมีความสามารถในการบริหารเพื่อสร้างรายได้ มีกำไรต่อเนื่อง และยังจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราสูงด้วย"ด้าน น.ส.ณัฐรินทร์ ตาลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า ปัญหาการเมืองในประเทศได้ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติระยะยาว ในยุโรปและสหรัฐฯไม่กลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดังนั้น ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนซื้อหุ้นไทยในขณะนี้เป็นนักลงทุนในเอเชียด้วยกันมากกว่า และหากการเมืองไทยยังมีปัญหา อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติกลุ่มอื่นๆเลื่อนการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อไปอีก และจะทำให้นักลงทุนรายย่อยชะลอการลงทุน ทำให้ตลาดหุ้นซบเซา แต่มีความหวังว่าการเมืองจะผ่านไปด้วยดี เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์ที่ต่างชาติระยะยาวยังไม่กลับเข้ามาลงทุน แนะนำให้นักลงทุนที่ลงทุนระยะกลาง 6 เดือน-1 ปี หากเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต ให้เริ่มทยอยสะสมหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลดี เพื่อรอจังหวะตลาดหุ้นฟื้นตัว.

FSS: ดัชนีเริ่มยืนเหนือ 820 จุดอีกครั้ง ดังนั้นยังลุ้นขยับเข้าใกล้ 840 จุดได้...
แนวโน้ม: เมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์ยังโดนกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนกังวลต่อภาวะเงินฝืดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่หลังจากเจพี มอร์แกนประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีเกินคาด ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาเก็งกำไรอีกครั้ง ตลาดหุ้นสหรัฐจึงปิดเป็นลบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งในคืนวันนี้(16 ก.ค.) จะมี แบงก์ ออฟ อเมริกา และซิตี้ กรุ๊ปที่จะประกาศผลประกอบการ ขณะที่ โกลด์แมน แซคส์ จะประกาศในวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งต้องตามดูว่าจะยังสามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้หรือไม่ เพราะประเด็นตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่อ่อนแอลงยังกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนอยู่ ส่งผลให้ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้ยังปรับตัวลงต่อเนื่องจากเมื่อวาน ส่วนตลาดหุ้นไทยที่เมื่อวานนี้แกว่งตัวแข็งแรงกว่าตลาดภูมิภาคพอควร เพราะสามารถยืนปิดบวกได้นั้น FSS คาดว่าก็คงจะมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนให้เห็นในระหว่างวันเช่นเดิม แต่ยังคาดหมายโอกาสที่จะเป็นการแกว่งตัวเพื่อค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปหา 840 จุดหรือใกล้เคียงได้ อย่างไรก็ตามเช้านี้(เวลาประมาณ 10.00 น.) คงต้องจับตาดูการแถลงของ ปปช. เกี่ยวกับเรื่องการส่ง SMS ของนายกฯ เมื่อตอนเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ ว่าจะมีการชี้มูลความผิดหรือไม่ เพราะถ้ามีการชี้มูลฯ ปปช.จะต้องส่งเรื่องให้วุฒิสภาลงมติถอดถอนโดยใช้เสียง 3 ใน 5 ของจำนวน สว.ทั้งหมด ซึ่งตามข่าวแจ้งว่าระหว่างการรอลงมติของ สว.นั้น ผู้ถูกชี้มูลความผิดจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีจนกว่าวุฒิสภาจะมีมติออกมา อาจส่งผลลบต่อ SET ได้ถ้าเช้านี้ ปปช.ชี้มูลความผิดของนายกฯ และ รมว.คลัง
กลยุทธ์: ยังเลือกเทรดดิ้งเป็นรายหลักทรัพย์ และหาจังหวะขายทำกำไรเมื่อ SET เข้าใกล้ 840 จุดด้วย โดยหุ้นที่ยังน่าสนใจในช่วงนี้ ได้แก่ KBANK, BBL, KTB, KTC, KK, ROJNA, KH, PDI, LST, TKS, TRC, IHL, VNG, BECL, SSI, TSTH, ESSO, GLOW, CPN, QH, DTAC เป็นต้น ส่วน TVO และ HANA น่าเริ่มมองหาจังหวะขายทำกำไรบ้างแล้ว

ประเด็นสำคัญวันนี้
§ สว. สหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกม.ปฏิรูปการเงินด้วยคะแนน 60 ต่อ 39 คาดว่า Obama คาดลงนามเป็นกฏหมายในสัปดาห์หน้า ผลกระทบต่อตลาดทุนอาจไม่มากอย่างที่ตลาดกลัวเพราะมีการผ่อนปรนเงื่อนไขที่เข้มที่สุดออกไป และไม่ต่างจากร่างเดิมมากนัก
§ KCE ทั้งปัญหาเครื่องจักร การขาดแคลนวัตถุดิบ และผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่หมดไปตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันสามารถใช้กำลังการผลิตได้เต็ม 100% ยอดขายในเดือน ก.ค. กลับมาดีมาก เราคาดว่ากำไรใน 3Q10 จะเป็น Peak ที่สุดเป็นประวัติการณ์ ปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น 15% ปีหน้าขึ้น 22% เพิ่มเป้าหมายเป็น 12 บาท อาจมีปันผลกลางปี 0.15 – 0.20 บท/หุ้น Yield ~2%
§ 10.00 น. วันนี้ ปปช. จะแถลงข่าวกรณีนายกฯ และนายกรณ์ส่ง SMS ให้ประชาชน 17.2 ล้านเลขหมายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ว่ามีความผิดหรือไม่
§ 3G 19 ก.ค. นายกฯ จะประชุมพิเศษครม.เศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาการประมูล 3G กำชับให้เป็นไปอย่างเป็นธรรม ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งเรื่องการแปรสัมปทาน การแทรกแซงของรัฐบาลก่อนการประมูลเป็น Sentiment ลบกับหุ้นในกลุ่มนี้ซึ่งทำให้เราและตลาดไม่มั่นใจกับช่วงเวลาในการประมูล ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่า กทช.จะกล้าเดินหน้าประมูล 3G ต่อไปหรือไม่ ติดตามว่าภายในวันที่ 20-30 ก.ค. ว่า กทช. จะสรุปร่าง IM ลงในราชกิจจานุเบกษาหรือไม่ เราแนะนำเพียงถือทั้ง ADVANC และ DTAC เพราะมี Upside ประมาณ 8% จากเป้าหมายที่ไม่รวม 3G ถ้าราคาอ่อนตัว DTAC น่าสนใจ
§ วานนี้ Foreign Fund Flow ยังไหลเข้าต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน แต่ปริมาณชะลอตัวและขายสุทธิตลาดหุ้นไทย 2 วันติดต่อกัน ค่าเงินภูมิภาคเอเชียที่ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากผลการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าในตัวมันเองจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทำให้ยังกระแสเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเนื่องจากช่วงนี้ไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสู่ตลาด กลับมีแต่ปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวทำให้กลายเป็นช่วงหัวเลี่ยวหัวต่อหรือในช่วงที่ตลาดยังไร้ทิศทาง ซึ่งหากมองไปในอนาคตในระยะกลางจะพบว่ามีแต่ปัจจัยเสี่ยงที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งวันนี้เราเริ่มสังเกตเห็นสัญญาณการปรับตัวลงของตลาดหุ้น เช่น ดัชนีวัดความกลัวหรือ VIX Index ที่ปรับขึ้นแสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความกลัวการลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี กลับลงมาต่ำกว่า 3% อีกครั้งแสดงว่าเงินทุนเคลื่อนย้ายกลับเข้าตลาดพันธบัตร ดังนั้นจึงยังไม่แนะนำให้ลงทุนในหุ้นตัวใหญ่ เน้นตัวเล็กที่เติบโตดี

ข่าวภายในประเทศ
CPF เข้าตาต่างชาติ CLSA ให้ราคา 30 บาท ชู CP Fresh Mart ดันกำไร-โรดโชว์นอกสำเร็จ! CPF เข้าตาต่างประเทศ หลังโรดโชว์ประสบความสำเร็จ ต่างชาติกลับมาวิเคราะห์พื้นฐานเชียร์ลงทุนระยะยาว บล.เครดิต ลียองเนส์ (CLSA) แนะซื้อหุ้น CPF ให้เป้าหมายสูงถึง 30 บาท มั่นใจปีนี้กำไรเติบโตแข็งแกร่ง ชู CP Fresh Mart ธุรกิจใหม่ดันกำไรพุ่งกระฉูด วงการเชื่อโบรกฯ ฝรั่งเชียร์ซื้อหลัง CPF โรดโชว์สหรัฐกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาฉลุย (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 16-07-2010)
SAMTEL ลูกเทวดา! ทีเด็ดเครือสามารถฯ SAMTEL พระเอกเครือสามารถฯ ขานรับงานภาครัฐเป็นตัวหนุน เชื่อกำไรปีนี้โตกว่า 60% ส่งผลแม่SAMART กำไรแจ่มตามไปด้วย ขณะที่ SIM ฟุ้งยอดขายมือถือครึ่งแรกสวยยอดขายรวมกว่า 2 ล้านเครื่อง เตรียมขยับเพิ่มยอดขายใหม่เป็น 3.7ล้านเครื่อง ระบุขายต่างจังหวัดทำได้มากกว่า 70% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 16-07-2010)
HANA เป้า 32 บาทขานรับงบ Q2 หรู! คำสั่งซื้อทะลักเข้า HANA เด่นหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ โบรกฯ วางเป้าใหม่ 32 บาท อัพไซด์เหลือเพียบขณะที่งบไตรมาส 2 สุดหรู กำไรปกติจ่อทำสถิติสูง 668 ล้านบาท ชี้คำสั่งซื้อยังแกร่งตลอดครึ่งปีหลัง หนุนกำลังการผลิตแน่นถึง 88% พร้อมปรับประมาณการทั้งปีใหม่ เชื่อยอดขายปี 53 เกิน 16,000 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิพุ่งทะลุ 2,300 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 16-07-2010)
7 กองทุนลุย GLOBAL กำไรพุ่งเป้าใหม่ 6.70 บ. 7 กองทุนไทย-เทศสนใจแห่ขอข้อมูลอัพเดท GLOBAL แถมนักลงทุนสิงคโปร์-ฮ่องกงสนใจสั่งโบรกเกอร์ทำบทวิเคราะห์พื้นฐาน ด้าน CIMB มั่นใจพื้นฐานแข็งแกร่ง รับผลดีจากประชานิยมรัฐบาล และเป็นหุ้นราคาถูกที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน เชื่อ EPS โต 43% ในช่วง 3 ปีต่อเนื่อง ส่วนรายได้เติบโต 3 เท่าภายใน 4 ปีข้างหน้า ราคาเป้าหมาย6.70 บาท พีอีแค่ 8.7 เท่า ต่ำกว่า HMPRO พีอี 14 เท่า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 16-07-2010)
SMT ปันผลครึ่งปี 20 สต.ออเดอร์ไหลถึงปีหน้า SMT ผุดสินค้าใหม่ “โปรเจ็กเตอร์ขนาดพกพา” เริ่มผลิตไตรมาส 3/53 ดันผลประกอบการครึ่งหลังแจ่ม และส่งผลต่อเนื่องถึงปีหน้า “พลศักดิ์” การันตีรายได้-กำไรเติบโตแบบขั้นบันไดทุกไตรมาส ขณะที่โบรกฯ คาดยอดขายไตรมาส 2/53 ไม่ต่ำกว่า 3.8 พันล้านบาท กำไรเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท จึงแนะซื้อ เป้าหมาย 10.80 บาท ลุ้นจ่ายปันผลครึ่งปีที่ 0.20 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 16-07-2010)
PTTAR บอร์ดประชุมสัปดาห์หน้า ถกแผนควบกิจการ IRPC ลั่นไม่เกิน 5 เดือนได้ข้อสรุป PTTAR ลุ้นประชุมบอร์ดต้นสัปดาห์หน้าอาจพิจารณาแผนควบรวม IRPC ได้ หลังที่ปรึกษากลับไปพิจารณาข้อกฎหมายเสร็จ ลั่นหากสรุปทันเดือนนี้ พร้อมเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเดือนหน้าเชื่อ 4-5 เดือนกระบวนการเสร็จ “ดร.ไพรินทร์” เผยควบรวม 2 บริษัท ไม่ถือเป็นการผูกขาดกิจการปิโตรเคมีและการกลั่น (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 16-07-2010)
CPALL การันตีไตรมาส 2 โตต่อโบรกเชียร์ซื้อเป้าหมาย 32 บาท CPALL ยันไตรมาส 2 ดีต่อเนื่อง ปีนี้มั่นใจรายได้โต 15-16% จากการขยายสาขา 500 สาขา เชื่อปีนี้ได้ตามเป้าหมาย ส่วนสาขาเดิมยอดขายโตไม่หยุด มองเศรษฐกิจฟื้น โบรกฯคาดเปลี่ยน CB เป็น CPS ในหุ้นบุริมสิทธินำไปสู่โอกาสการจ่ายเงินปันผลพิเศษได้ในปีนี้ แนะนำ “ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 32 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 16-07-2010)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐ
เผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.1% บ่งชี้ภาคการผลิตยังอ่อนแอ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเดือนมิ.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.1% ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตทรงตัวอยู่ที่ 74.1% นอกจากนี้ เฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกร่วงลงสู่ระดับ 5.1 จุดในเดือนก.ค. จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 8.0 จุด (ที่มา: อินโฟ
เควสท์ 16-07-2010)
จีน: จีนเผยรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า รายได้ของชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองและชนบทยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยในช่วงหกเดือนแรกของปี 2553 รายได้สุทธิเฉลี่ยต่อหัวประชากร (percapitadisposable income) ที่อาศัยในเขตเมือง อยู่ที่ 9,757 หยวน (1,428.55 ดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน และหลังจาก
หักลบอัตราเงินเฟ้อ การขยายตัวของรายได้ที่แท้จริงอยู่ที่ 7.5% ส่วนรายได้ที่เป็นเงินสดเฉลี่ยต่อหัวประชากรในชนบท อยู่ที่ 3,078 หยวน และอัตราการขยายตัวที่แท้จริงหลังหักเงินเฟ้ออยู่ที่ 9.5% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 15-07-2010)
จีน: สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเผย GDP ช่วงครึ่งปีแรกขยายตัว 11.1% สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวในอัตรา 11.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมูลค่าจีดีพีช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่17.28 ล้านล้านหยวน หรือ 2.55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนจีดีพีไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัว 10.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจากไตรมาสแรก
ที่ขยายตัว 11.9% เนื่องจากผลกระทบในเชิงบวกของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มลดน้อยลง (ที่มา: อินโฟเควสท์ 15-07-2010)
เอเชีย: ที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.10% ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 0.10% ในวันนี้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของศรษฐกิจของประเทศในปีงบประมาณ 2553 เป็น 2.6% จากระดับที่ได้มีการคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ 1.8% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 15-07-2010)
เอเชีย: IMF แนะรัฐบาลญี่ปุ่นเดินหน้าขึ้นภาษีปีงบการเงินหน้า เพื่อลดปัญหาหนี้สาธารณะ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)ออกโรงแนะให้รัฐบาลญี่ปุ่นเดินหน้าแผนขึ้นภาษีการขายแบบค่อยเป็นค่อยไปในปีงบการเงิน 2554 โดยชี้ว่า รัฐบาลควรกำหนดตัวเลขการจัดเก็บภาษีดังกล่าวที่ระดับ 15% เพื่อรับมือกับหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 15-07-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น