Code122 : New High @ 842

วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม 2553

ATT Code : New High @ 842
ต้องยอมรับจริงๆ ว่า 840 นั้นมาเร็วเหลือเกิน มีการโยกไปโยกมาระหว่างกลุ่มต่างๆ ทั้ง Bank Energy Property ICT มีทั้งยก มีทั้งทิ้งแล้วลงมาก็กลับมารับใหม่ ทำให้ SET ไม่ลงเท่าไหรเวลาเจอแรงขาย และก็สามารถกลับมา New High ที่ 842 ก่อนที่จะลงมาปิดย่อลงมานิดนึงที่ 840 ใกล้เคียงกับเส้น BB TOP ที่ 841.86 สรุปแล้วพลังงานตัวใหญ่ๆ ยังไม่มา มาแต่ตัวเล็กๆ และก็กลุ่มอื่นๆ เช่น Bank Property ICT เป็นต้น ฉะนั้นในสัปดาห์หน้าวันอังคาร ก็คงจะขึ้นอยู่กับตลาดต่างประเทศเป็นหลัก และข่าวหุ้นรายตัว แต่ตัวที่สามารถเก็บระยะยาวที่ยังดูดีอยู่เช่น PTTCH ที่มีแรงรับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

****SET จะขึ้นต่อไปได้....คงต้องลุ้นการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน.....ว่าจะยกเลิกเมื่อไร่??????

-------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
23 กค .53 ( +2.08 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ยังไม่น่าผ่านจุดสูงสุดเดิมของสัปดาห์นี้ไปได้
แนวโน้มดัชนีในวันศุกร์นี้ ยังไม่น่าจะผ่านจุดสูงสุดของสัปดาห์นี้ที่ 836.82 ไปได้ และมีโอกาสที่จะปรับตัวกลับลงมาแถว 820 – 825 ใกล้จุดต่ำสุดของวันพฤหัสอีกครั้ง

รวมถึงความเป็นไปได้ว่า ตลาด“อาจจะ” ปรับตัวลงได้ลึกถึงบริเวณ 810 – 815 จุด ?? เหนือบริเวณแนวรับตามธรรมชาติของ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน

ภาพโดยรวมแล้ว ตลาดระยะหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า มีโอกาสแกว่งตัวอยู่ในกรอบประมาณ 810 – 836 หรือระหว่างจุดสูงสุดของสัปดาห์นี้ ถึงบริเวณเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน


----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-มหกรรมวิเคราะห์หลักทรัพย์!!


ดัชนีหุ้นวันที่ 22 ก.ค.53 ปิดที่ 833.01 จุด บวก 2.08 จุด มีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 42,805.63 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 243.87 ล้านบาท

หุ้น ADVANC และ DTAC พุ่งขึ้นแรง หลังบทวิเคราะห์หลายสำนักระบุเป็นผลบวก กรณีนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับการเปิดประมูลใบอนุญาต 3 จี โดยจะเป็นผลบวกต่อเนื่องกับหุ้นผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมองว่า ADVANC และ DTAC มีความพร้อมมากสุดด้านฐานะการเงิน

ขณะที่ผู้บริหาร ADVANC ระบุว่า บริษัทได้เตรียมงบลงทุนเพื่อขยายเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3.9 จี ด้วยมูลค่า 4.5 หมื่นล้านบาท ในช่วง 3 ปี

ส่วนหุ้น BCP พุ่งทำสถิติสูงสุดกว่า 4 เดือน โดย บล.เอเซียพลัส แนะลงทุนในหุ้นปันผลที่ยังปรับตัวขึ้นน้อย ซึ่งรวมถึงหุ้น BCP ขณะที่ บล.ไอร่าแนะ "ถือ" ให้ราคาเป้าหมาย 15 บาท โดยคาดว่า BCP จะจ่ายปันผลครึ่งปีแรกในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น

ด้านหุ้น PTTEP ร่วง หลังอินโดนีเซียจะเรียกร้องค่าชดเชยจาก PTTEP กรณีที่บริษัทในเครือได้ทำน้ำมันรั่วไหลลงสู่น่านน้ำลงสู่ทะเลติมอร์ของอินโดนีเซียเป็นเวลากว่า 2 เดือน ขณะที่ "อนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTTEP เผยว่ายังไม่ทราบเกี่ยวกับประเด็นการเรียกร้องค่าชดเชยดังกล่าว และไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

ปิดท้ายมีข่าวดีๆที่นักลงทุนคุณภาพไม่ควรพลาดใดๆทั้งสิ้น งาน "มหกรรมวิเคราะห์หลักทรัพย์" ในวันศุกร์ที่ 23-25 ก.ค. เวลาตั้งแต่ 10.00-17.30 น. ที่อาคารสภาวิชาชีพบัญชีฯ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 (อโศก) โดยเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของนักวิเคราะห์ชื่อดังที่สุดของวงการและนักวิเคราะห์ยอดเยี่ยมแห่งปี ฟรีตลอดงาน

โดยมีหัวข้อการสัมมนาเด็ดๆ เช่น สูตรลับจับหุ้น-ลุ้นทอง-จองคอนโด, เจาะลึกมุมมองของการลงทุนครึ่งปีหลัง, ฟันธงแนวโน้มหุ้น : ปัจจัยพื้นฐาน VS เทคนิค, เคล็ดลับกระชับหุ้นอสังหาฯและกองทุนอสังหาฯ, สูตรกระชับจับหุ้นพลังงาน, ปิโตรเคมีและกองทุนพลังงาน, จัดพอร์ตลงทุน...เลือกหุ้นให้เหมาะสมกับสถานการณ์, แนวโน้มเศรษฐกิจ ทิศทางหุ้นและทองคำ, เจาะหุ้นพื้นฐานดีมีปันผล เป็นต้น

และพิเศษสุดๆเฉพาะในงานนี้ จำหน่าย "คู่มือผู้ลงทุน ขุมทรัพย์การลงทุน" ในราคา 80 บาท จากราคาเต็ม 400 บาท สนใจโทร. 0-2229-2355-6 หรือ http://www.saa-thai.org/

FSS: ยังเน้นขายทำกำไรต่อเนื่อง เพื่อถือเงินสดให้มากขึ้น...
แนวโน้ม: แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้จะสามารถดีดขึ้นกว่า 200 จุดซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ตอบสนองในเชิงบวกด้วยการเปิดเป็นบวกเช่นกัน แต่หลักๆ ยังเป็นการขยับขึ้นจากตัวเลขผลประกอบการของธุรกิจต่างๆ ในสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจรายสัปดาห์ของสหรัฐยังอ่อนแอต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาด , ตัวเลขชี้นำเศรษฐกิจที่ลดลง และ ยอดขายบ้านมือสองของเดือน มิ.ย.ที่ยังร่วงลงต่อเนื่องสู่ระดับต่ำสุด รวมทั้งในคืนวันนี้เวลาประมาณ 23.00 น.ของไทยจะมีการประกาศผลการทดสอบภาวะวิกฤติของแบงก์ในยุโรป ซึ่งตลาดหุ้นไทยจะติดช่วงวันหยุดในวันจันทร์นี้อีก 1 วัน อาจทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรเพื่อรอดูความชัดเจนก่อนได้ FSS จึงคาดว่าวันนี้ SET จะยังแกว่งตัวผันผวนในกรอบกว้างระหว่าง 820-840 จุด และจากระดับดัชนีปัจจุบันซึ่งขยับขึ้นมาตอบรับการประกาศผลการดำเนินงานไปพอสมควรแล้ว รวมทั้งมีส่วนต่างจากดัชนีเป้าหมายของฝ่ายกลยุทธ์เราที่ 860 จุดเพียงไม่มาก ดังนั้นตั้งแต่สัปดาห์หน้าไปจึงต้องระวังการปรับตัวย้อนลงและมีสิทธิหลุดต่ำกว่า 800 จุดไว้ด้วย
กลยุทธ์: ยังแนะนำให้ทยอยขายทำกำไรต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นที่ราคาตลาดขยับขึ้นมาแรงมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา จากนั้นเน้นถือเงินสดไว้ก่อน ส่วนหุ้นที่ยังพอมีจังหวะลุ้นขยับขึ้นได้บ้างในช่วงนี้ ได้แก่ KBANK, ROJNA, MCOT, SSI, TSTH, TKS, BECL, PDI และหุ้นในกลุ่มรับเหมา เป็นต้น ส่วน BCP ถือว่าขยับขึ้นมาแรงแล้ว จากนี้ไปต้องเริ่มระวังแรงขายด้วย
ประเด็นสำคัญวันนี้
§ หุ้น 3G จะยังเป็นที่สนใจของตลาด
และเริ่มมีความหวังกับการประมูลมากขึ้นเรื่อยๆ DTAC เป็น Top pick ส่วน TRUE เก็งกำไรได้ แต่ถ้า 3G เลื่อน ผู้ที่เก็งกำไรข่าวนี้ก็ต้องพร้อมจะขายด้วยเช่นกัน
§ PTTEP ข่าวที่อินโดนีเซียจะเรียกร้องค่าชดเชย US$55 ล้าน (~1.8 พันล้านบาท) บริษัทยังไม่ได้รับการฟ้องร้องอย่างเป็นทางการ กรณีเลวร้ายสุด 1.8 พันลบ. หลังภาษีแล้วจะมีค่าความเสียหายสุทธิประมาณ 1 พันลบ. กระทบกำไรปีนี้เพียง 3% สำหรับการสอบสวนมอนทาราของรัฐบาลออสเตรเลีย เชื่อว่า PTTEP ไม่น่าจะเสียค่าปรับมากและไม่ถึงขั้นยึดสัมปทาน เนื่องจากปริมาณน้ำมันที่รั่วเพียง 400 บาร์เรลเท่านั้น การอ่อนตัวจึงเป็นจังหวะซื้อ ราคาเป้าหมาย 175 บาท/หุ้น
§ ในกลุ่มปิโตรเคมี PTTAR แย่สุดเพราะมีแนวโน้มจะขาดทุนมากสุดใน 2Q10 ที่แย่รองลงมาคือ TOP ไม่ขาดทุนแต่กำไรลดลงมาก -47%Q-Q ส่วน PTTCH ดูดีสุดเพราะคาดกำไรลดลง 16%Q-Q แต่แนวโน้ม 3Q10 ของปิโตรเคมีแย่กว่าโรงกลั่น เป็นข่าวร้ายกับ PTTCH การลงทุนระยะนี้ยังให้หลีกเลี่ยงกลุ่มปิโตรเคมี ระยะสั้นอาจมี Technical rebound แต่แนวโน้ม 3Q10 ที่ยังไม่ดีไปกว่า 2Q10 เชื่อว่า rebound ไม่ไกล +(3-5%) และน่าจะลงต่อ (ติดตามรายงานวันนี้)
§ วันนี้ติดตาม 1) Stress Test ของ 91 แบงก์ในยุโรป 2) ธปท. รายงานแนวโน้มเงินเฟ้อรายไตรมาส และอาจปรับประมาณการ GDP ขึ้น ส่วนสัปดาห์หน้า ตัวเลขเศรษฐกิจมีแนวโน้มเป็นบวก วันที่ 30 ธปท. รายงานเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. และสหรัฐฯ รายงาน GDP 2Q10 ตลาดคาด +3.1% Q-Q ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ +2.7% Q-Q
§ Foreign Fund Flow วานนี้ถือว่าเบาบาง แต่เป็นไหลออก ขายมากสุดในตลาดหุ้นไต้หวัน เนื่องจากช่วงนี้การเคลื่อนย้ายของเงินทุนไม่มาก โดยเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่รอปัจจัยใหม่เข้าสู่ตลาด และหันไปลงทุนในบ้านของตัวเองมากกว่าการลงทุนในต่างประเทศเพราะเป็นช่วง Earnings Season ที่โดยส่วนใหญ่จะออกมาดี แนวโน้มกระแสเงินทุนต่างประเทศในช่วงนี้ก็ยังจะเบาบางต่อเนื่องจนกว่าผลประกอบการจะประกาศหมด และมีปัจจัยใหม่เข้าสู่ตลาด ที่สำคัญค่าเงินยูโรและค่าเงินในภูมิภาคเอเชียยังคงแข็งแกร่ง ทำให้เราเชื่อว่าโอกาสที่จะมีเม็ดเงินไหลออกน้อยกว่าไหลเข้า นอกจากนี้ค่าเงินบาที่ยังแข็งค่านั้น เราเชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่เทขายในช่วงเกิดเหตุการจลาจลจำนวนมากนั้นยังไม่ได้ไหลออกจากประเทศไทยเพียงแต่พักตัวอยู่ในตลาดพันธบัตร ซึ่งเราสังเกตุได้จากการรักษาสัดส่วนการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติอยู่ในระดับ 17-20% ของมูลค่าซื้อขายรวม ตามมูลค่าการซื้อขายวานนี้ที่ 4.2 หมื่นลบ.

ข่าวภายในประเทศ
TSTH รายงานกำไรสุทธิ 28 ล้านบาทใน 2Q10
ความเห็น: หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน TSTH จะขาดทุน 0.5 ล้านบาท ขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่ขาดทุน 122 ล้านบาท จากปริมาณการขายที่ลดลง ราคาขายยังทรงตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อนคือ 19 – 20 บาท/กก.ขณะที่โรงถลุงใหม่ที่เริ่มผลิตตั้งแต่ปลายปีก่อนยังขาดทุน ปัจจุบันสถานการณ์ราคาเหล็กเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย และเชื่อว่าแนวโน้มของบริษัทใน 2H10จะดีขึ้น แต่เราเห็นว่ามีหุ้นเหล็กตัวอื่นที่ทำกำไรได้สูงกว่ามากและแนวโน้มดีกว่า แนะนำให้เปลี่ยนตัวเป็น SSI (เป้าหมาย 2 บาท)
TTA ราคาหุ้น rebound ตาม BDI ที่ปรับขึ้นมา 5 วันติดต่อกันหลังจากลงไปต่ำสุด 1,700 จุดวันที่ 15 ก.ค. แต่เป็นการรีบาวนด์ในกรอบจำกัดเพราะแนวโน้มเรือเทกองยังเป็นขาลงด้วย supply เรือใหม่ที่เข้าตลาดปีละ 14% - 16% แต่ Demand โต 7% BDI อาจ rebound ไปได้ถึง 2,200– 2,400 จุด ถ้า TTA วิ่งตาม น่าหาจังหวะขาย นักวิเคราะห์ในตลาดส่วนใหญ่แนะนำขาย Consensus ปรับลดเป้าหมายลงจาก 27 – 29 บาทเหลือ23 – 25 บาท
คลังโต้กลับ “จรัมพร”TMB ขึ้นตามพื้นฐาน ทำชอร์ตอะเกนพอร์ต ซื้อกลับท้ายตลาด 75 ล้านหุ้น ประธานบอร์ดทหารไทยออกโรงโต้ “จรัมพร” ราคาหุ้นขึ้นตามปัจจัยพื้นฐาน หลังแบงก์ล้างขาดทุนหมด ประกอบกับผลประกอบการกำไร 5 ไตรมาสต่อเนื่อง ระบุเนื้อหอมสถาบันการเงินต่างชาติรุมจีบ เร่งไอเอ็นจีตัดสินใจ กูรูชี้หุ้นTMB ขึ้นมามีข่าวดีสนับสนุน กลายเป็นหุ้นแบงก์เทิร์นอะราวด์ ประเด็นปั่นหุ้นยาก เหตุเป็นหุ้นมหาชนเล่น บางวันวอลุ่มเทรด 5 พันล้าน ชูประเด็น “คลัง” ได้ประโยชน์สูงสุด หากขาย 3 บาท งานนี้นักลงทุนเมินข่าวทางการเบรก พร้อมทำชอร์ตอะเกนพอร์ตเก็บหุ้นราคาถูก วานนี้ท้ายตลาดซื้อกลับ 75.40 ล้านหุ้น โบรกฯปรับราคาเป้าหมายใหม่ 2.3 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 23-07-2010)
KK ปันผลสายฟ้าแลบ ธนาคารเกียรตินาคิน (KK) ปันผลทันใจนักลงทุน งวดระหว่างกาลหุ้นละ 1 บาท ปิดพักโอนหุ้น 6 ส.ค. จ่ายปันผล 20 ส.ค. หลังกำไรไตรมาส 2/53 พุ่ง 36% ด้านโบรกฯเชียร์ซื้อ เล็งปรับเป้าราคาใหม่สูงกว่า 32.40 บาทเอกชนล้มโต๊ะแปรสัมปทาน ลุยประมูลไลเซนส์ 3จี ดีกว่า ค่ายมือถือล้มโต๊ะไม่เอาแล้วไลเซนส์ 2 จี หลังแนวทางรัฐไม่เคลียร์ หวั่นได้ไม่คุ้มเสียระบุหากรัฐบาลไร้ข้อสรุป มุ่งหน้าประมูล 3 จีของ กทช. ดีกว่า “ศุภชัย” ยอมรับหวั่นหนีเสือปะจระเข้ ฝาก “วิเชียร” ย้ำชัดเดินหน้าประมูล 3 จีดีกว่า
ขณะที่ค่าย DTAC หวั่นซ้ำรอยเดิมรัฐแก้อะไรไม่สำเร็จซักอย่าง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 23-07-2010)
PRIN เจ๋ง Q2 กำไรกระฉูด 44% “ปริญสิริ” ไตรมาส 2 แจ่ม! รายได้พุ่ง 1,500 ล้านบาท กำไรขั้นต้นเกิน 23% แถมบันทึกกลับรายการสำรองหนี้เพิ่ม 17 ล้านบาท ดันกำไรทะยาน 176 ล้านบาท โต 44% จากไตรมาสก่อน “ชัยรัตน์” แย้มครึ่งปีแรกทำรายได้ 2,800 ล้านบาท ทั้งปีมั่นใจตามเป้า 5,000 ล้านบาท โชว์แบ็กล็อก 1,400 ล้านบาทบุ๊คหมดปีนี้ ครึ่งหลังลุยเปิด 4 โครงการ 3,000 ล้านบาท โบรกฯแนะซื้อเป้าหมาย 3.63 บาทเหลืออัพไซด์ 38% จ่ายดิวิเดนด์ยีลด์สูง 7% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 23-07-2010)
AGE ลั่นกำไรปีนี้เกิน 10 ล้านบาท ขานรับศก.ฟื้นตัว ยอดขายถ่านหินครึ่งแรก 6 แสนตันAGE ลั่นปี 2553 กำไรสุทธิเกิน 10 ล้านบาท ขานรับเศรษฐกิจฟื้นตัว ไตรมาสแรกตุนกำไรในกระเป๋า 25 ล้านบาท โปรยข่าวดียอดขายถ่านหินครึ่งปีแรกแตะ 6 แสนตัน ย้ำเป้าทั้งปียอดขาย 1.2 แสนตัน ส่งผลมีรายได้รวม 2.5-2.6 พันล้านบาท เผยอยู่ระหว่างศึกษาส่งออกถ่านหินไปจีน หลังความต้องการใช้สูง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 23-07-2010)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
FSS - ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา:
เบอร์นันเก้เตือนศก.สหรัฐเผชิญความไม่แน่นอนอย่างไม่ปกติ ขณะอัตราว่างงานยังสูง-ตลาดอสังหาฯตกต่ำ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ หลังจากเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับ"ความไม่นอนอย่างไม่ปกติ" เบอร์นันเก้กล่าวว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐขยายตัวในอัตรา 4% ต่อปี ในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว จากนั้นก็ขยายตัวขึ้นอีก 2.75% ในไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าจีดีพีจะขยายตัวอีกในระดับปานกลางในไตรมาส 2 เพราะได้แรงหนุนจากการที่ภาคเอกชนปรับเพิ่มสินค้าในสต็อก รวมทั้งการขยายตัวของอัตราการใช้จ่ายด้านการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล และอัตราการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้นด้วย (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-07-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้น 37,000 ราย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 17 ก.ค. พุ่งขึ้น 37,000 ราย สู่ระดับ 464,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 445,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 429,000 ราย สะท้อนให้เห็นถึงภาวะอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า (ที่มา: อินโฟเควสท์ 23-07-2010)
จีน: ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนแข็งค่าขึ้นวันนี้ที่ $6.7790 ธนาคารกลางของจีนกำหนดค่ากลางของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนประจำวันนี้ที่ระดับ 6.7790 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับวานนี้ที่ 6.7859 ดอลลาร์ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 23-07-2010)
เอเชีย: เยนแข็งค่าจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดความเสี่ยง หลังปธ.เฟดชี้ศก.สหรัฐเผชิญความไม่แน่นอน เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ และพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินที่ทำการซื้อขายในตลาด ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงหลังนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน (ที่มา: อินโฟเควสท์
22-07-2010)
เอเชีย: ธนาคารกลางเกาหลีใต้เผยมีธุรกิจเปิดใหม่เพิ่มขึ้น 16% ในครึ่งปีแรก ธุรกิจเปิดใหม่ในเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่รวดเร็วเกินคาด ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ธุรกิจที่เริ่มเปิดดำเนินการในเดือนม.ค.-มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 31,176 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 15.8% จากปีก่อนหน้านี้ และเฉพาะในเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียว เกาหลีใต้มีธุรกิจเปิดใหม่เพิ่มขึ้น19.3% ต่อเดือน ทำสถิติขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลให้การสนับสนุนการจัดตั้งธุรกิจใหม่ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-07-2010)

----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น