Code 107 : ทดสอบแนวรับ 795 กับลุ้นยืน 800

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม 2553

ATT Code : ทดสอบแนวรับ 795 กับลุ้นยืน 800
เมื่อวันพุธที่ 30 ที่ผ่านมา ต่างชาติยังคง Net Buy 900 กว่าล้าน เหมือนว่าต่างชาติทยอยเก็บหุ้นอยู่บ้าง ส่วนเมื่อวานตลาด DJIA ลงไป -150 จุด แต่ตอนปิดตลาดมี Robound ขึ้นมาเหลือ -41 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดูแย่ลง และภาวะเงินฝืดในระบบการเงิน

ส่วนเช้านี้ HSKI ยังลบอยู่ 270 จุด ก็ยังกดดันให้ SET ยังคง Sideway อยู่ในกรอบ 795 - 800 จุด โดยมีการทดสอบแนวรับเส้น 10 วัน ที่ 795 จุด ถ้ายืนไม่ไหว ก็มีสิทธ์ที่จะลงได้ แต่ถ้าผ่านเส้น 5 วันอยู่ที่ 798 จุด ได้ ก็ให้ดูการยืนของ SET แนวที่ 800 เป็นจุดเปลี่ยน ถ้ายืน 800 ได้ นักวิเคราะห์บางท่านให้แนวต้านอยู่ที่ประมาณ 802-804 จุด ก่อนเพื่อที่จะลงต่อ แต่บางท่านก็ให้ดูที่ 808 ถ้าผ่านก็มีสิทธิ์ที่จะไปต่อได้

----------------------------------------------------------------------------------
High Light :
Posttoday.com : วิเคราะห์
ฤดูเฮอริเคนกับทิศทางน้ำมันโลกศก.ฐานไม่แกร่งราคาไม่แรงพอ
มาตรการอุ้มดะรัฐบาลตัวการสร้างกับดักเงินเฟ้อ

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ ภาวะตลาด
ยังเลือกหุ้นเข้ารับเป็นรายตัว เพื่อลุ้นขายทำกำไรเมื่อตลาดดีดขึ้นรอบใหม่...!
ยังแกว่งตัว?เก็งกำไรตามรอบไปก่อน
Play of the day
MarketCast: แนวโน้มตลาดและกลยุทธ์การลงทุน
แนวโน้มตลาดวันนี้ - 02-07-53

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ ภาวะตลาด
หยิบเงินหยิบทอง
Thanachart The Early Bird
News & Events
สวัสดีหุ้นยามเช้า:ตลาดยืน 800 จุด ซื้อเก็งกำไรได้
Morning Call (2-07-10)

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ เทคนิค
ระยะสั้นถ้าดัชนียืนเหนือ 805 จุดซื้อเก็งกำไร ต่ำกว่า 795 จุดขาย
Technical Analysis (2-07-10)

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ เทคนิค
แนวโน้มปรับตัวลง...
TECHNICAL WIZ.
Stock Tips : CPALL SINGER
คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 790 - 804
ระยะสั้นถ้าดัชนียืนเหนือ 805 จุดซื้อเก็งกำไร ต่ำกว่า 795 จุดขาย

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์
Afternoon session 2 Jul 10
ทิศทางหุ้นกู้ภาคเอกชนในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 :ได้อานิสงส์จากความต้องการลงทุนที่ยังอยู่ในระดับสูง
Afternoon Call (2-07-10)
ปรับหมากกลยุทธ์ (ภาคบ่าย): SET โชว์ความล่ำ ไม่ยอมลงง่ายๆ
AFC Gold Futures Daily 02 JUL

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์
ยังแกว่งตัว?เก็งกำไรตามรอบไปก่อน
ETRON (Underweight): Gartner ปรับลดประมาณการใช้จ่ายปี 2553 ของอุตสาหกรรม IT ทั่วโลก
ดัชนีภาคการผลิตของจีนในเดือน มิ.ย. 2553 ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ไปอยู่ที่ระดับ 52.1 จุด
Play of the day
RCL - ปริมาณขนส่ง พ.ค. ขยายตัวถึง 20%YoY?สัญญาณดี Q2

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์
Derivatives Today 02-07-53
หยิบเงินหยิบทอง
Follow Up หุ้นที่มีการแนะนำไปแล้ว
Practically Economics Issue: 85
Practically Economics Issue: 84

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ หุ้นรายตัว
CK - ชนะประมูลสายสีน้ำเงินสัญญา 1 และ 2 ดัน Backlog เพิ่มขึ้นเท่าตัว
CEN-W3 - ซื้อเก็งกำไร
CEN-W3 - ประเมินราคาวอแรนท์
ADVANC - ทยอยสะสม-คาดหมายกำไรปกติไตรมาส 2/53 โต 18% yoy แต่ลดลงตามฤดูกาล 9% qoq เป็น 4.92 พันล้านบาท
PTTEP - คาดกำไร 2Q53 อยู่ที่ 9,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.3%yoy แต่ลดลง 6.2%qoq

KELive วิเคราะห์ภาพรวม
Inflation : แม้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของธปท. แต่คาดว่า ธปท. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในการประชุมรอบหน้า เพื่อลดความบิดเบือนของโครงสร้างอัตราดอกเบี้ย
Econ : แม้เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/53 และ 3/53 แต่ความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีหลังยังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

----------------------------------------------------------------------------------



----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
2 กค .53 ( -1.78 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

แกว่งตัวในกรอบ 795 - 802 จุด .. เพื่อรอลงต่อ
แนวโน้มระยะสั้นในวันศุกร์นี้ ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงแถว 795 – 796 ใกล้จุดต่ำสุดของวันพุธอีกครั้ง

จากนั้นพอมีความเป็นไปได้บ้างว่า ตลาด“อาจจะ” แกว่งตัวในกรอบ 795 – 802 จุด อีกสักพัก และเป็นการแกว่งตัวรอบๆ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 25 ชั่วโมง


ขณะที่แนวโน้มหลักของตลาด ยังคงมีโอกาสปรับตัวลง มีเป้าหมายระยะสัปดาห์แถว770 – 776 จุด ซึ่งเป็นบริเวณแนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน
----------------------------------------------------------------------------------
ตัวเลขเช้านี้ 2/07/53
ข้อมูลอื่นๆ ......SET ปิดที่ 797.31 จุด -1.78 จุด High 802.76 จุด low 794.54 จุด......แนวรับ 794 // 786-780 จุด แนวต้าน 808-812 // 820-830 จุด......PE SET 12.45 เท่า.........สัดส่วนการซื้อขาย ฝรั่งซื้อ 923.93 ล้าน กองทุนขาย 257.70 ล้าน…........โบรกเกอร์ ที่ net buy TSC 426, UBS 376, JPM 281, MACQ 248 และ CLSA 239………..โบรกเกอร์ที่ net sell DBSV -303, BLS -255, PHATRA -218, CS -189 และ TNS -167........TFEX SET50 ปิดที่ 547.46 จุด -2.55 จุด.......S50U10 ปิดที่ 542.90 จุด -2.00 จุด .... high 545.60 จุด low 541.20 จุด OI 18,033 ….......status futureวานนี้ Foreign net SHORT 165 - Fund net SHORT 424 - Retail net LONG 589..........ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJ ปิด -41.49 จุด….ยุโรปปิด -1.5 ถึง -2.5%........ตลาดเอเซียเช้านี้ 9.25 น. NIX +43.45 จุด, HSKI -88.58 จุด, TWSE +72.99 จุด, KOSPI +1.84 จุดและ SHCOMP +3.23 จุด ......ดาวโจนส์ในตลาดล่วงหน้า +42 จุด.......ค่าเงิน - เงินบาท 32.36…เงินเยน 88.15……..COMODITY.... น้ำมัน NYMEX ส่งมอบ ส.ค. ปิดที่ 72.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล -2.68 ดอลล์.....ค่าการกลั่น 4.70 ดอลล์.......ทองคำ COMEX วานนี้ปิดที่ 1206.70 เหรียญ -39.20 ดอลลาร์......BDI ปิดล่าสุดอยู่ที่ 2351 จุด -55 จุด ….. ราคาสังกะสีในตลาด LME ล่วงหน้า 3 เดือนปิดล่าสุดที่ 1740.00 ดอลลาร์ต่อตัน -52.50 ดอลล์

สินค้าเกษตร...ราคาตลาดจริง (หน่วย : บาท/ กก.) ….ข้อมูลจาก WEB Site ของ AFET (www.afet.or.th)
ราคาประมูลยางแผ่นรมควันชั้น 3 (30/06/10) Hatyai A.M. 109.93 บ. -3.10 บ. // FOB.BKK 115.85 บ. -2.50 จุด
ราคาข้าวขาว 5% (1/07/10) 13.45 บ. +0.03 บ.
ราคาข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 (1/07/10) 29.15 บ. +0.10 บาท

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-วันเบาๆกับหุ้นรายตัว

หุ้น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ราคายังคงโดดเด้ง ด้วยมูลค่าการซื้อขายคึกคัก ขณะที่ล่าสุด บล.ฟินันเซียไซรัส ออกบทวิเคราะห์ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปีนี้เติบโตมาก จากราคาเนื้อสัตว์ที่สูงและการเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศ

โดยระบุว่า ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้ของ CPF ขึ้นอีก 9% และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 24 บาท จากเดิม 20 บาท โดยคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2 จะเติบโต 31% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้น ขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งมีสัดส่วน 19% ของยอดขายรวม ก็เติบโตดีเช่นกัน

ตามด้วย บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) ที่วันก่อนราคาดีดขึ้นแรงมาทำนิวไฮในรอบกว่า 5 เดือนนั้น บล.โกลเบล็ก แนะนำให้ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 7.80 บาท โดยคาดว่ายอดขายพรีเซลปี 53 มีแนวโน้มที่จะสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 หมื่นล้านบาท โดยในครึ่งหลัง ปีนี้จะเปิดโครงการใหม่อีก 17 โครงการ มูลค่ารวม 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันมียอดขายรอโอน 1.2 หมื่นล้านบาท

ส่วน บล.ยูไนเต็ด ให้ราคาเป้าหมายหุ้น AP ที่ 7.25 บาท ขณะที่ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า AP เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีเทคนิคดี น่าสนใจซื้อเก็งกำไร

ขณะที่ หุ้น บมจ.ทิสโก้ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป (TISCO) ปรับขึ้นดี ช่วงนี้ โดย บล.ธนชาติ ออกบทวิเคราะห์ คาดว่ากำไรไตรมาส 2 จะเติบโตอย่างน่าประทับใจ โดยขยายตัวถึง 60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และโต 13% จากงวดก่อนหน้า มาอยู่ที่ 803 ล้านบาท โดยมีปัจจัยผลักดันจากสินเชื่อที่เติบโต 9% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ในระดับสูง 5% และรายได้ค่าธรรมเนียมที่โตกว่า 20% และมีกำไรจากการขาย NPA 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนกำไรที่มีแนวโน้มดีขึ้น ฝ่ายวิจัยจึงได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น 8% ในปี 53 และ 22% ในปี 54 ส่วนปี 55 กำไรจะโต 36% จึงปรับเพิ่มคำแนะนำจากเดิม "ถือ" เป็น "ซื้อ" และราคาหุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาเป้าหมายใหม่ที่ 34 บาท

ปิดท้าย มีบทวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง ที่แนะ "ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว" หุ้น BANPU ที่ราคาต่ำกว่า 600 บาท โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 740 บาท ทั้งนี้ ได้ประมาณการผลกำไรปี 53 ของ BANPU ไว้ที่ 15,782 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 58.08 บาท โดยเติบโต 15% จากปีก่อน ทั้งนี้ เป็นผลจากราคาจำหน่ายถ่านหินเฉลี่ยที่เพิ่มสูงขึ้น.

FSS:ยังเลือกหุ้นเข้ารับเป็นรายตัว เพื่อลุ้นขายทำกำไรเมื่อตลาดดีดขึ้นรอบใหม่...!
แนวโน้ม:
ความมั่นใจของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลกเริ่มสั่นคลอน หลังตัวเลขเศรษฐกิจของทั้งจีน และสหรัฐ ดูอ่อนแอลงในระยะหลัง อย่างไรก็ตามอาจถือเป็นโอกาสที่ดีกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งไทย ที่จะดูน่าสนใจสำหรับเม็ดเงินของนักลงทุนต่างประเทศในการที่จะกลับเข้ามาทยอยซื้ออีกครั้งได้ ซึ่งช่วงหลังมานี้เราก็เริ่มเห็นนักลงทุนต่างประเทศกลับมามียอดซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ บ้างแล้วด้วย ทำให้ FSS ยังคาดว่าการปรับตัวลงของ SET ในช่วงนี้จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ และยังมีโอกาสลุ้นจังหวะรีบาวด์กลับขึ้นไปใกล้ๆ จุดสูงสุดเดิมแถว 820 จุดได้อยู่ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยโดยภาพรวมก็ถือว่ายังดีอยู่ แม้ว่าจะผ่านช่วงเกิดจลาจลมาก็ตาม โดยภาคการส่งออกและการลงทุนยังขยายตัวได้ดี อย่างไรก็ตามปัจจัยลบในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมไปถึงความกังวลต่อปัญหาหนี้สินในยุโรป ก็ยังเป็นแรงกดดันอยู่บ้าง ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ทยอยเลือกหุ้นเข้ารับเป็นรายตัว ซึ่งเน้นที่หุ้นที่มีข่าวสนับสนุนเชิงบวก หรือ หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ จะปลอดภัยกว่า
กลยุทธ์: แนะนำให้เลือกหุ้นเข้ารับเป็นรายตัว เพื่อลุ้นเทรดดิ้งขึ้นไปขายทำกำไรเมื่อตลาดแกว่งขึ้นอีกครั้งได้อยู่ โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ DTAC, KK, TMB, BBL, KBANK, KH, TTW, PDI, LST, HANA, QH, BECL, TSTH, ESSO เป็นต้น

ประเด็นสำคัญวันนี้
-ตลาดหุ้นไทยเดือน ก.ค. ยังผันผวน
วันนี้ฝ่ายวิเคราะห์ออกบทวิเคราะห์รายเดือน ก.ค. ประเมินว่ายังเป็นเดือนที่ผันผวนเพราะมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายปฏิรูปสถาบันการเงินของสหรัฐฯ Stress Test ของแบงก์ในยุโรปซึ่งจะประกาศในช่วงครึ่งหลังเดือน ก.ค. เศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว รวมถึงในด้าน Valuation ที่ระดับปัจจุบันไม่ได้ถือว่า ‘ถูก’ มากพอที่จะคุ้มค่าความเสี่ยง (PE 12.4 เท่า) อย่างไรก็ตาม ด้วยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของเอเชีย และเราไม่คิดว่าโลกจะเกิดเศรษฐกิจถดถอย (Double dip recession) อีกครั้ง ประกอบกับแนวโน้มเงินหยวนที่แข็งค่า จะทำให้ดัชนีตลาดปรับลงไม่ลึก เนื่องจากเรามองดัชนีปลายปีที่ 860 จุด จุดที่แนะนำให้เริ่มซื้อคือ 770 จุด (upside 10%) หรือซื้อเมื่อมีข่าวร้ายที่สุดซึ่งน่าจะอยู่ใน 3Q10 หุ้นเด่นที่เราแนะนำในเดือนนี้ได้แก่ MAJOR, PS, PTTCH, TCAP, TVO
-เศรษฐกิจชะลอในเดือน พ.ค. เพราะการเมือง แต่กลุ่มยานยนต์และเกษตรยังโตดี เศรษฐกิจเดือน พ.ค. ขยายตัวชะลอลงจากเดือน เม.ย. จากผลกระทบทางการเมืองซึ่งทำให้ภาคการท่องเที่ยว (6% ของ GDP) ได้รับผลกระทบเต็มที่ การผลิตลดลงเพราะขนส่งทำได้ลำบากโดยเฉพาะการผลิตเพื่อบริโภคในประเทศ เพราะการบริโภคในประเทศก็ชะลอลง แต่การผลิตเพื่อส่งออกยังขยายตัวได้ สอดคล้องกับการส่งออกที่ขยายตัวได้ดี แลการลงทุนก็ขยายตัวเช่นกัน จากตัวเลขที่ประกาศ ที่น่าสนใจคือกลุ่มยานยนต์เป็นกลุ่มเดียวที่ใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งที่สุดคือ 77% จากเดือน เม.ย. ที่ใช้กำลังการผลิต 61% สอดคล้องกับการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เราเห็นว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ยังน่าสนใจ – STA, STANLY, KCE, TISCO, KK นอกจากนี้กลุ่มเกษตรก็น่าสนใจเพราะดัชนีราคาปรับสูงขึ้นมาก ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเกษตรต้นน้ำจะได้รับประโยชน์เต็มที่ – CPF, GFPT, TVO, TUF
-CK ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้งสัญญา 1&2 รวม 20,781 ล้านบาท
คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ภายในเดือน ต.ค. และเริ่มก่อสร้างเดือน พ.ย. นี้ เมื่อรวมกับโครงการที่รอเซ็นสัญญาอีก 3 โครงการ (โรงไฟฟ้า SPP ทั้งในไทยและลาว) อีก 8.2 ล้านบาท จะทำให้ Backlog ของ CK เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 1 แสนล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 5 – 8 ปีข้างหน้า แต่คาดว่าผลประกอบการปีนี้ยังขาดทุน แต่ปีนี้เป็นต้นไปดีขึ้นมาก เราประเมินราคาเป้าหมายที่ 7 บาท แนะนำ Sell on fact
-สหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP กุ้งปรุงแต่งและยางเรเดียล (ยางล้อ) ของไทย
เพราะส่งออกเกินโควต้าที่กำหนด ทำให้ผู้ส่งออกกุ้งปรุงแต่งและยางเรเดียลของไทยต้องเสียภาษีนำเข้า 5% และ 4% ตามลำดับ จากเดิมที่ไม่ต้องเสียภาษี เราคาดว่าผลกระทบที่มีต้อง CPF, CFRESH, ASIAN, TUF, STA มีจำกัดเพราะ CPF มีสัดส่วนการส่งออกสัตว์น้ำทั้งหมดเพียง 4% ของยอดขายรวม ส่วน CFRESH และ ASAIN ตลาดอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่สินค้ากุ้งของ TUF เป็นแช่แข็งไม่ปรุงแต่ง ประมาณ 20% ของยอดขายรวม ส่วน STA ส่งออกเป็นยางแท่ง ไม่ใช่ยางล้อ และตลาดส่วนใหญ่อยู่ที่จีน

ข่าวภายในประเทศ
CK ฮุบสีน้ำเงิน 2 สัญญาหุ้นวิ่งกระฉูดเกิน 7 บาท : เซ็นสัญญาต.ค.นี้ BMCLพร้อมรับอานิสงส์ CK วันนี้วิ่งแรงเชื่อเกิน 7 บาท หลังกินรวบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสัญญา 1-2 มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ดันงานในมือพุ่งเป็นกว่า 4 หมื่นล้านบาท ลั่นพร้อมเริ่มงานทันที หลังเซ็นสัญญากับ รฟม. ช่วงเดือนต.ค.นี้ จับตาหุ้น BMCL ขานรับข่าวดีแนวโน้มได้ต่อยอดวิ่งบริการรับส่งผู้โดยสารใต้ดินเพิ่ม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-07-2010)
CEN-W3วันนี้คึก!ราคาเกิน 90 สต.รายได้ 2 พันล้าน CEN-W3 เทรดวันแรกให้เต็มที่ 0.94 บาท คาดปรับตัวดีทั้งแม่และลูก หวังนำเงินที่ได้ใช้ ในการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคต “วุฒิชัย” การันตีทั้งปีฟันรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมลุยงานทั้งในและต่างประเทศ รุกงานด้านพลังงานทดแทนมากขึ้น โดยเฉพาะในแถบประเทศเพื่อนบ้าน อย่างลาว กัมพูชา พม่า และเวียดนาม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-07-2010)
กลต.ประกาศคิดค่าฟีใหม่ บล.-บลจ.อ่วมบังคับปี’54 ก.ล.ต.ลั่นเตรียมปรับวิธีจัดเก็บค่าธรรมเนียมกับ “บล.”และ “บลจ.” คิดจากวอลุ่มเทรดของบล. ส่วน บลจ.ให้คิดจากเอยูเอ็มเป็นหลัก จากคิดเพียง 1% ของรายได้รวม งานนี้พอร์ตเทรด บล. ต้องโดนร่างแห หลังลูกค้าโวยพอร์ตเทรดเอาเปรียบลูกค้าเทรดช่องเดียวออกได้ เพราะไม่มีต้นทุน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-07-2010)
ADVANCเ ป้าสูง 99 บาทครึ่งปีแรกจ่ายปันผล 3 บ. AIS ดีดคึกผลจาก window dressing โบรกฯชี้ครึ่งแรกน่าจะปันผล 3 บาท ส่วนประเด็นปันผลพิเศษใหม่ ไม่อยากให้หวังมากนัก เพราะมีความชัดเจนเรื่อง 3 จีแล้ว ระบุราคาปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาเหมาะสมมาก 99 บาท “วิเชียร” ไม่ขอออกความเห็นหลัง กทช. เปลี่ยนราคาไลเซนส์ เป็น 12,800 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-07-2010)
IVL บันทึกกำไร Q3 โรงงานใหม่อิตาลีรายได้ปีนี้โต 20% บอร์ด IVL ไฟเขียวตั้งบริษัทย่อยในยุโรปชื่อ 'IVL Belgium N.V.' อนุมัติเงิน 5 หมื่นยูโร ร่วมทุน 'UAB Polimeri Europe' ซื้อกิจการ PTA ประเทศอิตาลี ถือหุ้น 50% พร้อมปรับปรุงคุณภาพหวังกำลังผลิตเพิ่ม เผยบันทึกกำไรสุทธิเข้ามาไตรมาส 3/53 ด้านผลประกอบการ Q2/53 ดีกว่าไตรมาส 1/53 หลังมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามา ย้ำเป้ารายได้ทั้งปีเติบโต 20% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-07-2010)
TTCL คั่วอีกหมื่นล้านโรงไฟฟ้าปทุมธานีราคาเป้าหมาย 9 บาท TTCL ประมูลงานใหม่ 2 โครงการ มูลค่าหมื่นล้านบาท งานแรกกลางเดือนนี้ โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ จ.ทุมธานี มูลค่า 4 พันล้านบาท งานที่สองยื่นซองปลายเดือน โครงการปิโตรเคมีของเครือซิเมนต์ไทยมูลค่า 6.5 ล้านบาท ในประเทศเวียดนาม ผู้บริหารคาดปีนี้กำไรดีกว่าปีก่อน มีสิทธิปันผลเพิ่ม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-07-2010)
IFEC ยอดขายโต 15% ชูบริการมัลติฟังก์ชั่นจับลูกค้าอินเตอร์เน็ต IFEC ผู้แทนจำหน่ายเครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอล มัลติฟังก์ชั่นโคนิก้า มินอลต้า งัดบริการหลังการขายฉีกหนีคู่แข่ง ชู “ไอเฟค ดิจิตอล ด็อกเตอร์ เซอร์วิส” ให้บริการดูแลเครื่องผ่านระบบอินเตอร์เน็ต พร้อมเพิ่มทีมบริการหลังการขาย รองรับการให้บริการลูกค้า หลังแนวโน้มความต้องการใช้เครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลมัลติฟังก์ชั่นเพิ่ม มั่นใจสิ้นปียอดขายโต 15% ตามเป้า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-07-2010)
ผู้บริหาร TRUBB เทขายกว่าล้านหุ้น “วรเทพ”ออกตัวเพื่อเพิ่มสภาพคล่องหุ้นในตลาด 2 ผู้บริหาร TRUBB ขายหุ้นช่วงเดือนมิ.ย.กว่า 1.11 ล้านหุ้น “วิโรจน์” นำขาย 1.01 ล้านหุ้นในช่วงราคาระหว่าง 67.60-126.39 บาท “วรเทพ” แจง เป็นการกระจายหุ้น เพิ่มสภาพคล่องหุ้นในตลาด การันตีธุรกิจยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ย้ำเป้ายอดขายปีนี้โต 25% พร้อมลุยขยายธุรกิจตามแผน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-07-2010)
MILL ผนึกดานิลี่ผุด Green Mill Project เดินเครื่องผลิตปี’55 ดันมาร์จิ้นพุ่ง 20% MILL ผนึก “ดานิลี่เทคโนโลยี” ผุดโครงการยักษ์ “Green Mill Project” ผลิตเหล็กคุณภาพสูงพิเศษ ด้วยเศษเหล็ก พร้อมติดตั้งโรงงานบำบัดไอเสียรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีสามารถรับประกันคุณภาพอากาศดีกว่ามาตรฐานการควบคุมระดับโลก "สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล" คาดเริ่มเดินเครื่องผลิตเหล็กคุณภาพสูงพิเศษได้ปี
2012 โดยมีกำลังผลิต 500,000 ตันต่อปี เชื่อผลักดันอัตราการทำกำไรเพิ่มสูงขึ้นเป็นประมาณ 15-20% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-07-2010)
HMPROโกอินเตอร์ผุดสาขาอาเซียนลุ้น Q2 กำไร 300 ล้าน น่าซื้อเป้าหมาย 8.10 บาท HMPRO เตรียมขยายสาขาต่างประเทศ รุกแถบอาเซียน คาดเปิดสาขาแรกในปี 2555 ช่วยผลักดันการเติบโตระยะยาว ส่วนตลาดในประเทศปลายเดือนก.ค.นี้เปิดสาขาที่โคราชเพิ่ม มั่นใจยอดขายปีนี้โต 10% ด้านกำไร Q2/53 ลุ้นแตะ 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 23.2% ได้ยอดขายสาขาเดิมและอัตราการทำกำไรหนุน โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.10 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 2-07-2010)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ไทยรัฐ - หุ้นมะกันปิดลบ ฉุดน้ำมัน ร่วงลงต่อเนื่อง
หุ้นสหรัฐฯปรับลดลงต่อเนื่อง โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ 9,732.53 จุด ลดลง 41.49 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบลงไปเคลื่อนไหวที่ 72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว....

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันแรกของไตรมาส 3 ของปี ดัชนียังคงดิ่งลงจากแรงขายต่อเนื่อง หลังนักลงทุนไม่พอใจข้อมูลทั้งจำนวนคนว่างงานที่ยื่นเอกสารขอรับความช่วย เหลือจากทางการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้เซ็นสัญญาซื้อบ้านใหม่ในเดือนที่ผ่านมาลดลง เช่นเดียวกับดัชนีชี้วัดการผลิต

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 2.68 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 72.95 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ 9,732.53 จุด ลดลง 41.49 จุด แนสแดคปิดที่ 2,101.36 จุด ลดลง 7.88 จุด และเอสแอนด์พีปิดที่ 1,027.37 จุด ลดลง 3.34 จุด.

ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป:
ธนาคารกลางยุโรปเตรียมปล่อยกู้แบงค์ 1.11 แสนล้านยูโร ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยว่า จะปล่อยกู้ให้แก่ธนาคารต่างๆ 1.112 แสนล้านยูโร (1.365 แสนล้านดอลลาร์) เป็นเวลา 6 วัน เพื่อช่วยให้ธนาคารเหล่านี้สามารถแก้ปัญหาเรื่องการชำระคืนเงินกู้อายุ 12 เดือน มูลค่า 4.42 แสนล้านยูโรที่จะหมดอายุลงในวันนี้ (1 ก.ค.) อีซีบีเผยว่า ธนาคาร 78 แห่งได้ขอกู้เงิน อายุ 6 วัน ที่อัตราดอกเบี้ย 1% ซึ่งความ
เคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่วานนี้ อีซีบีเพิ่งประกาศว่าจะปล่อยกู้แก่ธนาคารต่างๆในวงเงิน 1.319 แสนล้านยูโร (1.615 แสนล้านดอลลาร์) เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 01-07-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเหนือ ความคาดหมาย 13,000 ราย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผย ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 472,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 452,000 ราย และเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ประกอบการ
ยังคงเลย์ออฟพนักงานมากขึ้น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 02-07-2010)
สหรัฐเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.อยู่ในระดับขยายตัว แต่อ่อนแรงลงจากเดือนก่อน ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐในเดือนมิ.ย. ยังคงอยู่ในระดับของการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 โดยดัชนีเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวได้ อย่างต่อเนื่อง สำนักงานจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.เคลื่อนไหวที่ระดับ 56.2 จุด ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 59.7 จุด และอยู่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 59 จุด (ที่มา: อินโฟเควสท์ 02-07-2010)
จีน: ผู้เชี่ยวชาญจีนคาด GDP จีนไตรมาส 2 โตกว่า 10% หลังภาคอุตสาหกรรมขยายตัว สำนักงานสถิติแห่งชาติของ จีน (NBS) เตรียมเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนประจำไตรมาส 2 ในช่วงกลางเดือนนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีไตรมาส 2 ของจีนจะขยายตัวมากกว่า 10% ต่อปี (ที่มา: อินโฟเควสท์ 01-07-2010)
จีน: จีนเริ่มขึ้นค่าแรงแล้ว 9 มณฑล หลังเกิดเหตุประท้วงเรื่องค่าแรงถี่ มณฑลต่างๆของจีนอย่างน้อย 9 มณฑลจะเริ่มขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยปรับขึ้นสูงสุดถึง 1 ใน 3 หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุประท้วงของพนักงานมากไปกว่านี้ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 01-07-2010)

FSS
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงต่อเนื่องทั้ง 2 วันในช่วงวันหยุด ของไทย โดยปรับตัวลงวันแรกเกือบ 100 จุด ส่วนเมื่อคืนนี้ปรับตัวลงอีกกว่า 100 จุดในระหว่างวัน ก่อนที่จะกลับมาปิดเป็นลบไป 41.49 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดูแย่ลง และภาวะเงินฝืดในระบบการเงิน

ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐช่วงนี้ดูแย่ลงกว่าที่ตลาดคาดไว้โดยล่าสุดดัชนีกิจกรรมการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. , ยอดทำสัญญาขายบ้านเดือน พ.ค. ก็ปรับลดลงมากเป็นประวัติการณ์ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดกันว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย.จะลดลงกว่าแสนตำแหน่ง


สองวันที่ผ่านมา Fund Flow ของนักลงทุนต่างขาติยังไหลออกต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐแย่กว่าคาด เฉพาะตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนที่ชะลอตัว หลังจากจีนแตะเบรกเศรษฐกิจ

แนวโน้ม Fund Flow น่าจะยังคงไหลออกแต่ปริมาณน่าจะชะลดตัว เนื่องจากค่าเงินยุโรกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสหรัฐหลังจากที่การกู้ยืมเงินเพื่อชำระคืนหนี้ของธนาคารยุโรปให้กับ ECB น้อยกว่าที่คาด แสดงให้เห็นว่าธนาคารในยุโรปยังแข็งแรงดี

-ราคาน้ำมัน NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อวานนี้ยังดิ่งลงต่ออีก 2.68 ดอลลาร์หรือคิดเป็น 3.54% มาปิดตลาดที่72.95 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก หลังตัวเลขเศรษฐกิจของทั้งจีน และสหรัฐดูอ่อนแอลง
-ราคาทองคำส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด COMEX ปิดดิ่งลง39.20 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,206.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจเช่นกัน
-BDI ปิดที่ 2351 จุด ลบอีก 55 จุด

----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น