ATT Code : ทดสอบแนวต้าน 822-825
SET เช้านี้เปิดบวกได้ 5 จุด ตามตลาดเพื่อนบ้าน ที่ 822.61 จุด ต่างชาติยังซื้อน้อยอยู่ แต่กองทุนกลับเป็นผู้เล่นรายใหญ่ โดยวันนี้มีแนวต้านที่ BB TOP ที่ 825 ซึ่งเช้านี้ขึ้นไป High ที่ 824.88 แล้วก็เจอแรงขายออกมา ทำให้ช่วงบ่าย SET หลุด 820 ลงมา ต้องดูว่าปิดตลาดเย็นนี้ SET ยังสามารถยืนเหนือ 816 ได้หรือไม่ ถ้าไม่สารมาถยืนได้ จากความเห็นของนักวิเคราะห์ก็คาดว่า SET น่าจะมีการปรับตัวลงได้
ช่วงบ่าย SET มีการ Sideway อยู่แถวแนวต้านที่ 822-825 แต่ท้ายสุดก็ลงมาปิดตลาดที่ 820.60 แต่ก็ยังบวกอยู่ได้ 3.03 จุด ตามตลาดเพื่อนบ้าน แต่ทั้งนี้หุ้นตัวใหญ่ก็ยังไม่ได้วิ่งเท่าไหร่ จะวิ่งก็แต่หุ้นที่เล่นตามข่าว ที่มี่ Story อยู่ แต่ก็ต้องถือว่า high Rish High Return แต่ภาพรวมก็ต้องถือว่าช่วงนี้ค่อนข้างลงทุนยากส์ ทำกำไรได้แค่นิดหน่อย แต่ถ้าลงก็จะขาดทุนมาก....
----------------------------------------------------------------------------------
Intraday - ต่ำกว่า 816 ปรับตัวลง
จากนี้ไป การปรับตัวลงต่ำกว่า 816 จุด เส้น 25 ชม.ถือเป็นสัญญาณการปรับตัวของตลาดมีเป้าหมายสัปดาห์หน้า 790 - 797 จุด แถวเส้น 25 วัน
MARKET WAVE Analysis
9 กค .53 ( +2.89 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338
ระวังการปรับฐาน
จากภาวะ RSI Overbought &Bearish Divergence ในภาพระยะวัน ตลาดพร้อมปรับฐานทุกเวลา โดยเฉพาะการปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง ( ค่านี้ ณปัจจุบันอยู่ที่ 813 จุด ) จะถือเป็นสัญญาณการ
ปรับตัวของตลาด มีเป้าหมายระยะสัปดาห์บริเวณ 790 – 803 ใกล้แนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน และจุดต่ำสุดเดิมของวันอังคาร
ณ บริเวณ 790 – 803 ตลาดน่าจะดีดตัวกลับขึ้นไป 820 – 825 ใกล้จุดสุงสุดของสัปดาห์นี้ได้อีกครั้ง ? ... รอดูโครงสร้างภาพอีกครั้ง
----------------------------------------------------------------------------------
SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ ภาวะตลาด
Daily Market Report
ขึ้นต่อ ด้วยปัจจัยบวกมากมาย
ถ้ายืนเหนือ 815 ให้ซื้อเก็งกำไร
SET มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นไปที่ระดับแนวต้าน 825 จุด อีกครั้งวันนี้
ปรับขึ้น...แต่ไม่แรง
SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ เทคนิค
?เลิก? เมื่อ ?ลบ?
แกว่งตัว.. จับจังหวะเล่นรอบ
Technical Picks
Stock Tips
Technical Analysis
SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์
Daily Market Report
ขึ้นต่อ ด้วยปัจจัยบวกมากมาย
ถ้ายืนเหนือ 815 ให้ซื้อเก็งกำไร
SET มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นไปที่ระดับแนวต้าน 825 จุด อีกครั้งวันนี้
SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ หุ้นรายตัว
THCOM - ซื้อ-คณะกรรมการมาตรา 22 สรุป THCOM ผิดสัญญาสัมปทาน
TCAP - ซื้อ-แนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในครึ่งหลังของปี
TCAP - BUY-Strong 2H10 growth outlook
EGCO - ถือ-ราคาหุ้นได้สะท้อนการขยายธุรกิจภูมมิภาคไปค่อนข้างมากแล้ว
PS - คาดกำไรสุทธิอ่อนลงใน 2Q53
RYT9.com : ข่าวหุ้น-การเงิน
KWH พุ่ง 9.29% ผู้บริหารคาดเก็งกำไรราคายังต่ำกว่า BV.ที่ 1.7 บาท
ภาวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดพุ่ง 2.31% ขานรับแบงค์ชาติจีน
ภาวะตลาดหุ้นเวียดนาม: ดัชนี VN ปิดบวก 0.91 จุด ตามตลาดในภูมิภาค
ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้:คอมโพสิตปิดบวก 24.37 จุด ขานรับแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ย
ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: หุ้นกลุ่มพลังงานหนุน S&P/ASX 200 ปิดบวก 0.9%
KELive วิเคราะห์รายหุ้น
กลุ่มธนาคาร ( เป็นบวก ) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/53 เพิ่มขึ้นสูง YoY?พร้อมแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
SVI (3.04 บาท : ทยอยสะสม) คาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 2/53 โต 7% qoq เป็น 165 ล้านบาทและมีโอกาสจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มเติมอีก 0.10 บาท/หุ้น
TISCO (30.00 บาท : ซื้อ) กำไรสุทธิไตรมาส 2/53 เติบโตโดดเด่น
BANPU (622.00 บาท : ซื้อ) จีนเตรียมเก็บภาษีถ่านหินเพิ่ม 5% คาดเป็นบวกกับราคาถ่านหินในตลาดโลก
Derivatives Today (09/07/10)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-ตลาดนัดกองทุนรวม!!
ดัชนีหุ้นวันที่ 8 ก.ค.53 ปิดที่ 817.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 29,337.75 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 111.94 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยสดใสตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะดาวโจนส์ที่บวกแรงรับข่าวผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก รวมทั้งราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมากด้วย ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน แต่มองการฟื้นตัวครั้งนี้น่าจะยังไม่มั่นคงหรือยั่งยืน แม้จะเห็นแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ แต่น่าจะเป็นเพียงเม็ดเงินที่เข้ามาเก็งกำไรเท่านั้น
มองแนวโน้มตลาดระยะสั้น แม้ด้านเทคนิคสัญญาณยังเป็นเชิงบวก รวมทั้งตลาดน่าจะไปได้ต่อ จากการคาดการณ์ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 ที่จะออกมาโดดเด่น แต่ต้องระวังแรงขายทำกำไร ที่คาดว่าจะออกมาเป็นระลอกที่ดัชนีดีดตัวขึ้น
แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นรายตัวได้ เช่น BBL ที่ได้ปัจจัยบวกจากการประเมินว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวโดดเด่น และหุ้น KK ที่จะมีเงินปันผลระหว่างกาล ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 810 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 826 จุด
มีข่าวน่าสนใจ ช่วงระหว่างวันที่ 8-11 ก.ค.นี้ ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตลาดหลักทรัพย์ร่วมมือกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ชวนร่วมงาน "ตลาดนัดกองทุนรวม : Mutual Fund Fair @ Siam Paragon" ภายใต้แนวคิด "เริ่มต้นเดินทางสู่ความมั่งคั่งก่อนใคร กับการลงทุนในกองทุนรวม"
ที่เน้นรณรงค์ให้ประชาชนคนรุ่นใหม่ เริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมเพื่ออนาคต ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ก็สามารถลงทุนในกองทุนรวมได้ โดยงานนี้ผู้ลงทุนจะได้เลือกซื้อกองทุนกว่า 1,300 กองทุน จาก บลจ.15 แห่ง พร้อมบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน, บริการคำนวณภาษีเพื่อลงทุนในกองทุนรวม LTF-RMF วิธีการดูผลดำเนินงานของกองทุนรวม รวมทั้งยังมีการเปิดขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมใหม่ๆ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย นักลงทุนรุ่นใหม่ไม่น่าพลาด!!
ปิดท้าย มีข่าวจาก ก.ล.ต.แจ้งว่า บอร์ด ก.ล.ต.มีมติเมื่อ 8 ก.ค.53 เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการตลาดหลักทรัพย์ 3 ท่าน คือ นายอัศวิน คงสิริ, นายชัยพัฒน์ สหัสกุล และนางไขศรี เนื่องสิกขาเพียร แทนนายวัลลภ วิมลวณิชย์ นายนิพัทธ์ จิตรประสงค์ และนายนิพัทธ พุกกะณะสุต ที่หมดวาระลง โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 11 ส.ค.53 ถึง 10 ส.ค.55!!
ดัชนีหุ้นวันที่ 8 ก.ค.53 ปิดที่ 817.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 29,337.75 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 111.94 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยสดใสตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะดาวโจนส์ที่บวกแรงรับข่าวผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก รวมทั้งราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมากด้วย ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน แต่มองการฟื้นตัวครั้งนี้น่าจะยังไม่มั่นคงหรือยั่งยืน แม้จะเห็นแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ แต่น่าจะเป็นเพียงเม็ดเงินที่เข้ามาเก็งกำไรเท่านั้น
มองแนวโน้มตลาดระยะสั้น แม้ด้านเทคนิคสัญญาณยังเป็นเชิงบวก รวมทั้งตลาดน่าจะไปได้ต่อ จากการคาดการณ์ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 ที่จะออกมาโดดเด่น แต่ต้องระวังแรงขายทำกำไร ที่คาดว่าจะออกมาเป็นระลอกที่ดัชนีดีดตัวขึ้น
แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นรายตัวได้ เช่น BBL ที่ได้ปัจจัยบวกจากการประเมินว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวโดดเด่น และหุ้น KK ที่จะมีเงินปันผลระหว่างกาล ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 810 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 826 จุด
มีข่าวน่าสนใจ ช่วงระหว่างวันที่ 8-11 ก.ค.นี้ ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตลาดหลักทรัพย์ร่วมมือกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ชวนร่วมงาน "ตลาดนัดกองทุนรวม : Mutual Fund Fair @ Siam Paragon" ภายใต้แนวคิด "เริ่มต้นเดินทางสู่ความมั่งคั่งก่อนใคร กับการลงทุนในกองทุนรวม"
ที่เน้นรณรงค์ให้ประชาชนคนรุ่นใหม่ เริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมเพื่ออนาคต ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ก็สามารถลงทุนในกองทุนรวมได้ โดยงานนี้ผู้ลงทุนจะได้เลือกซื้อกองทุนกว่า 1,300 กองทุน จาก บลจ.15 แห่ง พร้อมบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน, บริการคำนวณภาษีเพื่อลงทุนในกองทุนรวม LTF-RMF วิธีการดูผลดำเนินงานของกองทุนรวม รวมทั้งยังมีการเปิดขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมใหม่ๆ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย นักลงทุนรุ่นใหม่ไม่น่าพลาด!!
ปิดท้าย มีข่าวจาก ก.ล.ต.แจ้งว่า บอร์ด ก.ล.ต.มีมติเมื่อ 8 ก.ค.53 เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการตลาดหลักทรัพย์ 3 ท่าน คือ นายอัศวิน คงสิริ, นายชัยพัฒน์ สหัสกุล และนางไขศรี เนื่องสิกขาเพียร แทนนายวัลลภ วิมลวณิชย์ นายนิพัทธ์ จิตรประสงค์ และนายนิพัทธ พุกกะณะสุต ที่หมดวาระลง โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 11 ส.ค.53 ถึง 10 ส.ค.55!!
FSS:ยังตามเทรดดิ้งขึ้นไปเพื่อรอหาจังหวะทำกำไรเมื่อดัชนีเข้าใกล้ 840 จุดได้!!
แนวโน้ม: หลังจาก SET ขยับขึ้นไปเคลื่อนไหวสูงกว่าจุดสูงสุดเดิมที่ 820 จุดแล้ว เริ่มมีแรงขายออกมากดดันให้ตลาดหุ้นไทยเริ่มผันผวน และย้อนกลับมาปิดต่ำกว่าอีกครั้ง แสดงถึงแรงขายที่ระดับดัชนีสูงกว่า 820 จุดนี้มีอยู่พอสมควร ดังนั้นจึงยังต้องระมัดระวังการปรับพักตัวลงของตลาดต่อเนื่องตามที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม FSS คาดว่า SET จะยังไม่ปรับตัวลงทันที และมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นไปแกว่งสูงกว่า 820 จุดได้อีก เนื่องจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศยังคงมียอดซื้อสุทธิให้เห็นเป็นระยะๆ อยู่ และเป็นช่วงใกล้ประกาศผลการดำเนินงานรายไตรมาสด้วย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกใหม่จากการที่ IMF ประกาศปรับประมาณการ GDP โลกขึ้น พร้อมกับการขยับขึ้นคาดการณ์จีดีพีของอีกหลายประเทศ ซึ่งมีทั้งสหรัฐ และไทยด้วย รวมทั้งการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงนี้จากตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาดูดีขึ้น ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่คาดว่าจะยังหนุนให้ SET แกว่งบวกได้ต่อ อย่างไรก็ตามในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีเรื่องการทดสอบภาวะวิกฤติของแบงก์ในยุโรปที่อาจจะส่งผลกดดันต่อความมั่นใจของนักลงทุน และทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงได้ ดังนั้นถ้า SET ขยับขึ้นไปใกล้ 840 จุดควรชะลอการเข้าซื้อ และเริ่มเตรียมมองหาจังหวะขายทำกำไรด้วย
กลยุทธ์: ยังเลือกเทรดดิ้งเป็นรายหลักทรัพย์ได้ แต่ก็ควรเริ่มมองหาจังหวะขายทำกำไรไว้ด้วย โดยหุ้นที่ยังน่าสนใจในช่วงนี้ ได้แก่ BBL, KBANK, KTB, KK, TCAP, PHATRA, ROJNA, KH, PDI, TVO, LST, HANA, BECL, AOT, TSTH, ESSO, PTTCH, GLOW, CPN เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
§ IMF ปรับประมาณการ GDP โลกในปี 2010 ขึ้นเป็น 4.6% จาก 4.2% ที่คาดการณ์ในเดือน เม.ย. โดยปรับ GDP ของประเทศในเอเชียขึ้นมากที่สุด คาดว่าเศรษฐกิจในเอเชียปีนี้จะโต 7.5% ดีขึ้นจากเดิมที่คาด +7.0% ประเทศที่ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์มากที่สุดคือบราซิล อินเดีย และจีน โดยคาดว่าจีนจะขยายตัวได้สูงถึง 10.5% ในปีนี้ แต่จะชะลอลงเหลือ 9.6% ในปีหน้า สำหรับไทย IMF คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะโตถึง 7% (เดิมคาด 5.5%) แต่จะชะลอลงเหลือ 4.5% ในปีหน้า การขยายตัว 7% ของไทยในปีนี้เป็นอัตราที่สูงสุดในกลุ่ม ASEAN-5 (อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไทย) ดีขึ้นจากที่คาดครั้งก่อน +5.5% เท่ากันทั้งปีนี้และปีหน้า และเป็นอัตราสูงสุดเป็นอันดับ 5 ในเอเชีย รองจากจีน สิงคโปร์ อินเดีย และไต้หวัน
§ กลุ่มนิคม หุ้นกลุ่มนิคมฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการเมืองคลี่คลาย ล่าสุด AMATA กำลังเจรจาขายที่ดินอีก 500-600 ไร่ให้กับ Holley ซึ่งน่าจะทำให้ทั้งปี 2009 ขายได้ 900 ไร่ตามเป้าที่บริษัทตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นขยับขึ้นมาจนเต็มมูลค่าแล้ว หุ้นในกลุ่มนี้ยังสดใสแต่เราเลือก HEMRAJ เป็น Top pick ในแง่กำไรที่ Turnaround และราคาหุ้นที่ยังมี upside จากราคาเป้าหมายที่ทำไว้ 1.75 บาท
§ Foreign Fund Flow วานนี้กลับมาไหลเข้าเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วัน เนื่องจาก risk appetite หรือความกระหายความเสี่ยงเริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังการคาดการณ์เศรษฐกิจของปีนี้ยังดีกว่าคาดไว้เดิม ซึ่งผลของการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ ยุโรปและจีนออกมแย่ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ราคาพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับขึ้นมากส่งผลให้ Yield ต่ำกว่า 3% ซึ่งกลายเป็นจุดที่ต่ำเกินจนไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ทำให้นักลงทุนหันเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น แนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติยังน่าจะไหลเข้าโดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียเพราะเศรษฐกิจโตมากสุดในโลก ค่าเงินยูโรแข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงเช้านี้ค่าเงินบาทแข็งค่าตามภูมิภาคด้วย
ข่าวภายในประเทศ
กองทุน-ประกันลุย TMB ขาใหญ่แจมดันวอลุ่มโป่งใส่กันเต็มเหนี่ยว หุ้นปลอดแคชบาลานซ์ วงในเผยกองทุน-กลุ่มประกัน ขาใหญ่ร่วมวงเก็บหุ้นทหารไทยเข้าพอร์ต เก็งกำไรกลุ่มไอเอ็นจีขอซื้อหุ้นเพิ่ม 5% และ 21% มั่นใจคลังจะขายที่ราคา 3 บาท ดันมูลค่าซื้อขายสูงสุดอันดับหนึ่งเมื่อวันที่ 7 ก.ค.กว่า 5 พันล้านบาท หรือ 16% ของปริมาณซื้อขายทั้งตลาดฯ ขณะที่หุ้นทีเอ็มบีไม่ต้องกลัวถูกสั่งให้ซื้อบัญชีเงินสด เพราะบริษัทมีกำไรต่อเนื่อง 4 ไตรมาส (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-07-2010)
AMATA ได้อีก 600 ไร่ขายที่ดินกลุ่ม Holley AMATA ซุ่มเจรจาขายที่ดินแปลงที่สองให้ Holley อีก 500-600 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง วงการเงินชี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะขายที่ดินเพิ่มเติมให้ Holley เหตุดีมานด์ลูกค้าจีนยังสูง-ที่ดินแปลงแรกขายใกล้หมดแล้ว คาดยอดขายที่ดินปีนี้ทะลุเป้า 900 ไร่ โบรกฯคาดกำไรปีนี้ 719 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 126% จากปีก่อน แนะซื้อเพิ่มเป้าใหม่ 11.60 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าว หุ้น 9-07-2010)
“ทวีฉัตร”กวาดหุ้น SAMART “ทวีฉัตร” ดอดเก็บหุ้น SAMART อีก 2.57% รวบเสียงข้างมากมาบริหารรวมกว่า 6% แล้ว “วัฒน์ชัย” ฉายภาพปีหลัง จ่อเข้าประมูลงานอีกเพียบ ล่าสุดคว้างานบริษัทลูกคว้างานทีโอที มาแล้วกว่า 500 ล้านบาท ส่วนแผนเปิดโรงไฟฟ้ายังคงแนวทาง 2 แบบ ทำเอง-ร่วมทุน มั่นใจชัดเจนได้ในไตรมาส 3 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-07-2010)
คลังต่ออายุภาษีบจ .- MAI จ้างล็อบบี้ยิสต์ดึงต่างชาติ “กรณ์” พร้อมต่ออายุมาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดฯและ mai จูงใจลดภาษีนิติบุคคล เหลือ 20-25% ระบุอยากเห็นบริษัทนอกตลาดฯเข้ามาเพิ่ม ส่งคณะอนุกรรมการด้านภาษีไปพิจารณาภายใน 1 เดือน ขณะที่คลังติดต่อจ้างที่ปรึกษาสหรัฐ มาประชาสัมพันธ์ไทยในสื่อต่างชาติ เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับคืน (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-07-2010)
“กรณ์” ทุบหุ้นไทยคมโบรกหั่นราคา 4.4 บ. “กรณ์” โยนเรื่องไทยคมทำผิดสัญญาสัมปทานให้ ครม. ตัดสินแนวทางแก้ไข ก่อนตัดสินใจว่าควร ซื้อบริษัทไทยคมต่อไปหรือไม่ ด้านบิ๊ก THCOM ยันเสียงแข็งไม่เคยผิดสัญญา ปฏิเสธลั่นทุกข้อกล่าวหา ระบุผลสรุปจากคณะกรรมการมาตรา 22 ไม่ถือเป็นคำตัดสิน อาจต้องสู้ถึงอนุญาโตฯ ชี้การยิงไอพีสตาร์ ลดสัดส่วนหุ้น ผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาลทั้งสิ้น เผยแนวทางการแก้ไขปัญหา ถ้าต้องการให้ยิงดาวเทียมใหม่เพื่อเป็นทางออกก็พร้อม ด้านโบรกฯปรับลดมูลค่าหุ้น THCOM ลงอีก4.48 บาท จาก 10.10 บาท งานนี้แนะ “ขาย” ลูกเดียว วันนี้แคชบาลานซ์วันสุดท้าย (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-07-2010)
CCET ยอดขาย Q2 พุ่ง 3 หมื่นล. ลุ้นปันผลระหว่างกาล 7 สตางค์ ราคาหุ้นยังต่ำบุ๊ค CCET ยอดขายไตรมาส 2 พุ่ง 29,191 ล้านบาท โชว์ยอดขายหรูก่อนก้าวเข้าสู่ไฮซีซั่น วงการชี้ยอดขายโตมีสิทธิ์ดันกำไรเกินระดับ 400 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายครึ่งปีทะลัก 56,541 ล้านบาท มีโอกาสจ่ายปันระหว่างกาลอีก 7 สตางค์ ราคาหุ้นยังต่ำกว่าบุ๊คแวลู 4 บาท ทิศทางออเดอร์ไตรมาส 3 ยังไปได้สวย หนุนยอดขายทั้งปีทะลุเกินแสน
ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-07-2010)
TRC ลุ้นคว้างานท่อปตท .3 พันล้าน ไตรมาส 2 พลิกกลับมีกำไร เล็งปรับเป้ารายได้ใหม่ TRC จ่อได้งานท่อก๊าซเส้น 4 ของปตท. มูลค่า 2-3 พันล้านบาท ภายในเดือนนี้ หลังโครงการชะลอมานาน ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/53 พลิกเป็นกำไร เพราะไม่ต้องตั้งสำรอง เตรียมปรับเป้ารายได้ใหม่จากเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้ 1,724 ล้านบาท ขณะที่ยังมีงานที่ยื่นประมูลไปแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท หวังได้งาน 30% เร่งขยายตลาดสู่
ตะวันออกกลางมากขึ้น (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-07-2010)
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิ.ย.ฟื้น – ปรับเพิ่มเป็น 69.1 จาก 67.6 ติดต่อเป็นเดือนที่สอง ม.หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 69.1 จาก 67.6 ต่อเนื่อง เหตุกระแสปรองดองส่งผลเชิงจิตวิทยา ขณะที่เศรษฐกิจไทยโตดีกว่าที่คาด ดอกเบี้ยคงที่ ส่งออกขยายตัวดี ส่วนปัจจัยลบมีเรื่องน้ำมัน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน ดังนั้น จึงส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นยังคงต่ำกว่า 100 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 71 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 9-07-2010)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ไทยรัฐ : หุ้นสหรัฐฯบวก-น้ำมันปิด75.44ดอลลาร์
ตัวเลขผู้ว่างงานยื่นเอกสารขอความช่วยเหลือจากทางการลดลง ดันดาวโจนส์ ปิดบวก กว่า 120 จุด ขณะราคาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น ปิดที่ 75.44 ดอลาร์สหรับฯ...
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ว่า ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีปรับเพิ่มจากข้อมูลของกระทรวงแรงงาน ซึ่งเผยว่าตัวเลขผู้ว่างงานยื่นเอกสารขอความช่วยเหลือจากทางการในสัปดาห์ที่ ผ่านมา ลดลงมาอยู่ที่ 454,000 คน ถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,138.99 จุด ปรับขึ้น 120.71 จุด หรือ 1.20% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,175.40 จุด ปรับขึ้น 15.93 จุด หรือ 0.74% และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,070.25 จุด ปรับขึ้น 9.98 จุด หรือ 0.94%
ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ระดับ 75.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 1,195.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง 2.80 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตลาดลอนดอน ปิดที่ 1,194.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง 1.35 ดอลลาร์สหรัฐ
ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป: ธนาคารกลางยุโรปมีมติตรึงดอกเบี้ยที่ 1% ตามคาด ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรปคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1% มาตั้งแต่เดือนพ.ค. 2552 และเนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน หรือ 16 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร ยังคงเป็นไปอย่างเชื่องช้า และเงิน
เฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้มีการคาดหมายกันว่า อีซีบีจะคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปอีกหลายเดือน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 08-07-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วร่วงเกินคาด 4.96 ล้านบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ก.ค.ร่วงลง 4.96 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 358.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 2.6 ล้านบาร์เรล (ที่มา: อินโฟเควสท์ 09-07-2010)
สหรัฐอเมริกา: FED เผยยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ค.ร่วงลงเกินคาด $9.1 พันล้าน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า ยอดการกู้ยืมเงินผู้บริโภคในสหรัฐเดือนพ.ค.ร่วงลง 9.1 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคจำนวนมากลังเลที่จะกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจ และตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังคงอ่อนแอ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 09-07-2010)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วลดลงมากกว่าคาด 21,000 ราย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ก.ค. ลดลง 21,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 454,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. เป็นต้นมา และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 460,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราการเลย์ออฟพนักงานในสหรัฐกำลังปรับตัวลดลง (ที่มา: อินโฟเควสท์ 09-07-2010)
เอเชีย: ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.25% หลังศก.ฟื้นตัวเร็วเกินคาด ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.25% ในการประชุมวันนี้ หลังจากที่เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวได้เร็วเกินคาด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางประกาศขึ้นดอกเบี้ยนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก (ที่มา: อินโฟเควสท์ 09-07-2010)
เอเชีย: ไต้หวันเผยยอดส่งออกพุ่งในเดือนมิ.ย. หลังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว กระทรวงการคลังของไต้หวันเปิดเผยว่า การส่งออกของประเทศทะยานขึ้น 34% แตะ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นช่วยกระตุ้นให้ความต้องการสินค้าของไต้หวันโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์และสินค้าไฮเทค เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ขณะที่การนำเข้าในเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 40% จากปีก่อน แตะ 2.13 หมื่นล้านดอลลาร์ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 08-07-2010)
----------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น