Code 126 : Selective Buy

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2553

ATT Code : Selective Buy
1. หุ้นตัวที่ถูกขายออกมาเยอะ และสามารถยืนได้ พร้อมที่จะไปต่อได้ เช่น Global STA Trubb เป็นต้น
2. หุ้นปันผลต่างๆ ที่กำลังจะ XD ในเดือน ส.ค. 53
3. ลงทุนระยะยาว เช่น IRPC PTTCH BTS OFM เป็นต้น
4. ลงทุนแล้วไม่เป็นไปดังคาด ควรกำหนดจุด Stop loss สัก 3-5 %
FSS : PTTEP (BUY) - ราคาต่ำกว่าพื้นฐาน...หากไม่รวมความเสี่ยงมอนทาร

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
30 กค .53 ( +0.81 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

แกว่งตัวแคบ 5 จุด ในกรอบ 850 – 855 จุด
แนวโน้มในวันศุกร์นี้ มีโอกาสที่ดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ 850 – 855 หรือประมาณระหว่างจุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุดของวันพฤหัส

จากนั้นถ้ามีการปรับตัวลง ต่ำกว่า 849.11 จุดต่ำสุดของวันพฤหัสและเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง ภาพตลาดระยะหนึ่งถึงสองสัปดาห์ ข้างหน้า มีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงไปบริเวณ 800 – 820 จุด ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน หรือ ประมาณ Fibonacci Ratio 50% นับจากที่ปรับตัวขึ้นมารอบนี้

แต่ตราบใดไม่ต่ำกว่า 849.11 ตลาดยังพอ มีโอกาสอยู่บ้าง ( แต่ค่อนข้างน้อย ) ที่จะปรับตัวขึ้น 863 – 868 จุด ก่อนที่จะปรับตัวลง 800 – 820 จุด ต่อไป
หุ้นเด่น

BBL มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25ชั่วโมง ทยอยซื้อแถว 137.50 – 138.00 หรือซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 139.00 จุดสูงสุดวันพฤหัส เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 141.00 –143.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 136.50 )141 - 143


SCB ปรับตัวขึ้นมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมงอีกครั้ง ทยอซื้อแถว 89.50 – 89.75 หรือซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 90.25 จุดสูงสุดวันพฤหัสและเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าว เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน91.75 – 92.25( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 89.25 )

TVO
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะสัปดาห์เกิน 22.00 ขึ้น 22.40 - 24 ต่ำกว่า 21.20 ขาย

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
TRUE แกว่งตัว 4.10 – 4.40
CPF แกว่งตัว 23.70 – 24.50
SCB รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
PTTEP ต่ำกว่า 148 ลง 145 – 146
PTT ต่ำกว่า 254 ลง 249 – 250
BBL รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
SCC ปรับตัวลง 260 - 262
BTS แกว่งตัว 0.80 – 0.84
TUF ปรับตัวลง 46 – 48
KBANK ไม่น่าเกิน 104.50 - 105

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-PTTEP ใจดี!!

ดัชนีหุ้นวันที่ 29 ก.ค.53 ปิดที่ 854.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.81 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 27,623.60 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 407.66 ล้านบาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป มองแนวโน้มตลาดระยะสั้นว่า หลังดัชนีไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ระดับ 860 จุดขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดี โดยมุมมองทางเทคนิคตลาดเข้าข่ายมีแรงซื้อมากเกินไป (Overbought) จึงต้องระมัดระวังแรงขายออกมา

อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือต้องติดตามกระแสเงินทุนไหลเข้าหรือ Fund Flow ว่าจะเข้ามาอย่างจริงจังหรือไม่ เพราะยังมีความไม่แน่นอน อยู่ หาก Fund Flow ยังคงไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าดัชนีจะสามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวได้

แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรออกมา หากดัชนียังคงไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 860 จุดได้ แต่หากผ่านไปได้แนะให้ "ถือต่อเพื่อรอขาย" ส่วนในทิศทางขาลงประเมินแนวรับไว้ที่ 844 จุด
มีข่าว บอร์ด PTTEP ใจดี มีมติจ่ายปันผลงวดผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 53 หุ้นละ 2.55 บาท ให้ผู้ถือหุ้น โดยแบ่งเป็นเงินปันผลจ่ายจากกำไรสุทธิที่เสียภาษีเงินได้ตาม พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และตามประมวลรัษฎากรที่อัตราหุ้นละ 2.34 บาท และ 0.21 บาท ตามลำดับ โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 17 ส.ค. และจะจ่ายเงินปันผลวันที่ 30 ส.ค.นี้

สำหรับคำแนะนำหุ้น PTTEP ที่เกือบทุกโบรกฯเคาะถังแก๊สให้เดินหน้าซื้อได้ดั่งนี้ บล.เกียรตินาคิน ใจกล้าให้มูลค่าที่เหมาะสมสูงสุดถึง 208 บาท ตามด้วยนครหลวงไทยให้ 200 บาท, ทรีนีตี้ 198 บาท, กิมเอ็ง 195 บาท, กรุงศรีอยุธยา 190 บาท, เคจีไอ 182 บาท, ฟิลลิป 178 บาท, ทิสโก้ 177 บาท ปิดท้ายด้วยโกลเบล็กให้ราคาเป้าหมายปี 53 ที่ 176 บาท

มีอีกตัวที่ยังไม่ค่อยเห็นว่าใครจะแนะให้ขายมีแต่ให้ "ซื้อ" กับ "ถือ" คือหุ้น SCC โดยมี บล.ทิสโก้ ให้ราคาเป้าหมายสูงสุด 331 บาทตามด้วยทรีนีตี้ 316 บาท, ยูไนเต็ด 312 บาท, เกียรตินาคิน 311 บาท, บัวหลวง 306 บาท, เอเซียพลัส 302 บาท, กิมเอ็ง 300 บาท,
เคทีซี มิโก้ 285 บาท และกรุงศรีอยุธยาให้มูลค่าพื้นฐาน 255 บาท!!

FSS: คาดตลาดยังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวน..จังหวะซื้อจึงยังรอรับตอนปรับลงได้!!
แนวโน้ม:
เมื่อวานนี้รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกการใช้ พรก.ฉุกเฉินในอีก 6 จังหวัด ทำให้ปัจจุบันมีจังหวัดที่ยังอยู่ภายใต้ พรก.ดังกล่าวเหลือเพียง 10 จังหวัด แต่ยังไม่ได้มีการยกเลิกในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ทำให้ FSS คาดว่าจะไม่ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นมากนัก ขณะที่ยังมีเหตุระเบิดต่อเนื่องอีกครั้งเมื่อคืนนี้ ทำให้มองได้ว่าสถานการณ์ทางด้านการเมืองยังไม่นิ่ง นอกจากนี้แรงขายในตลาดหุ้นต่างประเทศก็ยังมีออกมาอยู่ หลังนักลงทุนกลับมากังวลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐ และจีน ทำให้ FSS ยังมองว่าโอกาสที่ SET จะเริ่มขยับตัวขึ้นได้น้อยลงและมีกรอบจำกัดมากขึ้นยังเป็นไปได้ และมีแนวโน้มที่จะมีการปรับพักตัวลงไปเคลื่อนไหวในด้านลบมากขึ้นได้ด้วย โดยเรายังคาดหมายการแกว่งตัวลงไปหา 820 จุด(+/-) ในช่วงถัดไป ดังนั้นช่วงนี้จึงยังเน้นการขายทำกำไรเมื่อตลาดขยับขึ้น และถ้าจะเข้าเทรดดิ้งยังแนะนำให้เลือกเข้าซื้อเป็นรายหลักทรัพย์มากกว่าเช่นเดิม
กลยุทธ์: การเข้าเทรดดิ้งยังแนะนำให้เลือกหุ้นที่ยังขยับขึ้นไม่มาก หรือราคามีการปรับตัวลงมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะมีข่าวสนับสนุนเพื่อความปลอดภัย เช่น CK, ITD, STEC, SEAFCO, ADVANC, DTAC, LPN, SIRI, QH, AP, ROJNA, HEMRAJ, MCOT, BEC, SSI, TSTH, TKS, BECL, PDI, MINT และ TICON เป็นต้น

ประเด็นสำคัญวันนี้
§ ราคาถ่านหินปรับลงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันจาก US$100.55/ตันในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิ.ย. เป็น US$95.05/ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เอื้อต่อราคาหุ้น BANPU และ LANNA แต่ไม่มีผลต่อกำไรในปีนี้เพราะ BANPU ล็อคราคาขายสำหรับปีนี้ไปเกือบหมดแล้ว เพียงแต่ถ้าราคาถ่านหินปัจจุบันปรับขึ้นจะเป็น upside ของกำไรปีหน้า ในด้านพื้นฐานเรายังมอง BANPU เป็นหุ้นที่เติบโต แต่ในด้านเทคนิคราคาระยะนี้จะยังแกว่งในกรอบ 600 – 650 บาทต่อไปอีกระยะ

§ SSI กำไรน้อยกว่าคาด หากไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยน จะมีกำไรปกติ 882 ล้านบาท ลดลง 34% Q-Q แต่เพิ่มขึ้น 44% Y-Y แนวโน้ม 3Q10 น่าจะแย่ลงจากราคาขายที่ไม่ได้ดีขึ้น เรายังประเมินราคาเป้าหมาย 2 บาท

§ หุ้นโทรศัพท์ 3G กลับมาคึกคักใหม่ ในที่สุด กทช. ก็ได้ลงประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่านความถี่ 2.1 GHZ ในราชกิจจาฯ แล้ว มีผลตั้งแต่ 29 ก.ค. นี้ ถือเป็นความคืบหน้าอย่างเป็นทางการของการประมูล 3G หลังจากนี้ กทช.จะเปิดให้ยื่นซองเข้าร่วมประมูลภายใน 30 ส.ค. นี้ ก่อนมีการพิจารณาคุณสมบัติขั้นแรก (Pre-qualification) และเปิดประมูลจริงภายใน 28 ก.ย.นี้ คาดว่าหุ้นกลุ่ม 3G จะกลับมาคึกคักใหม่ เพราะหากประมูล 3G ได้จริง มูลค่าหุ้นจะเพิ่มขึ้น ADVANC จะเป็น 105 บาท, DTAC 50.50 บาท, และ TRUE 3.60 บาท แนะนำ “ซื้อ” ทั้ง ADVANC และ DTAC และเลือก DTAC เป็น Top pick

§ Foreign Fund Flow ยังไหลเข้าต่อเนื่องเป็นวันที่ 16 ติดต่อกัน และในช่วง 4 วันของสัปดาห์นี้มีเม็ดเงินไหลเข้าแล้วกว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่แล้วมีเม็ดเงินไหลเข้าเพียง 523 ล้านดอลลาร์เท่านั้น สาเหตุที่มีเม็ดเงินไหลเข้าเรายังมองว่ามาจาก 3 ประเด็น คือ 1) การปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีของประเทศในเอเชีย 2) ผลการปรับดอกเบี้ยนโยบายของหลายประเทศในเอเชีย 3) ระบบการเงินในยุโรปเริ่มนิ่งหลังผลการทดสอบแบงก์ไม่ได้แย่อย่างคาด สำหรับแนวโน้มกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติน่าจะยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง หากไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้าสู่ตลาด ส่วนทิศทางค่าเงินยูโรและภูมิภาคเอเชียยังแข็งแกร่งต่อเนื่องก็ยิ่งน่าเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ข่าวภายในประเทศ
BTS ขายหุ้นเพิ่มทุน 80 สต.อัพไซด์เหลือบานกว่า 33% ผู้ถือหุ้น BTS อนุมัติปรับขึ้นราคาขายหุ้นเพิ่มทุนเป็น 0.80 บาท หลังราคากระดานดี วันดีคืน “คีรี”ลั่นล้างขาดทุนสะสมหมดปีนี้ พร้อมจ่ายปันผลได้ทันที ระบุรายได้รถไฟฟ้าเฉลี่ยวันละกว่า 11 ล้านบาท โบรกเชียร์ซื้ออัพไซด์เหลือกว่า 33% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-07-2010)
สหวิริยาฯ ทำเจ๋งกำไรกระฉูด 34% ครึ่งปีหลังยังสวย SSI โกยกำไรไตรมาส 2/53 พุ่ง 34.20% ที่ 917.68 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือน พลิก เป็นกำไร 2.37 พันล้านบาท มีรายได้ 1.18 หมื่นล้านบาท จากปริมาณ-ราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้น ขณะที่บรัทย่อยสร้างผลตอบแทนดี คาดกำลังซื้อกลับมาหลังจากราคาขายเหล็กมีแนวโน้มขาขึ้น หลังจากที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หนุนครึ่งปีหลังยังคงเติบโตดี (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-07-2010)
SPALI ทำกองทุนตะลึงมาร์เก็ตแคปพุ่ง 239% หุ้นดีฟรีโฟลตกว่า 72% จ่อคิวขึ้น SET50 ปลายปีนี้ “ศุภาลัย”เนื้อหอมกองทุนไทย-เทศ สนใจลงทุน หลังตลึงดันมาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้น 239% แตะระดับ 21,000 ล้านบาท จากเดิม 6,200 ล้านบาท ปริมาณซื้อขายต่อวันเพิ่ม 175% จาก 38 ล้านบาท เป็น 104 ล้านบาท “ไตรเตชะ”เผยฟรีโฟลตหุ้นสูง 72% เชื่อเพียงพอรับรองดีมานด์การลงทุนของนักลงทุนสถาบัน ขณะที่ยอดขายไหลลื่นครึ่งแรกทำได้ 7,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% ส่งซิกงบ Q4 ทำสถิติสูงสุดนับแต่ตั้งบริษัทมา พร้อมจ่อคิวขึ้น SET50 ปลายปีนี้ (ที่มา: นสพ. ข่าวหุ้น 30-07-2010)
THAI ปรับตัวดีขึ้นผู้โดยสารขยับ 11% เชื่อไตรมาส 3 แจ่ม นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มผู้โดยสารไตรมาส 3 ของการบินไทยว่า ปรับตัวทิศทางดีขึ้น โดย 3 สัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม จำนวนผู้โดยสารปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน พบว่าผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จึงเชื่อว่าสถานการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางไตรมาส 3 จะปรับตัวทิศทางดีขึ้น โดยจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินเดือนกรกฎาคมจะอยู่ที่ร้อยละ 75-76 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-07-2010)
DRT ส่ง ”อดามัส”บุกตลาดโครงการมั่นใจครึ่งหลังแจ่มยอดขายโต 10% DRT บุกตลาดลูกค้าโครงการ ส่งสินค้ากระเบื้องคอนกรีตแบบเรียบ “อดามัส” รับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน การันตีคุณภาพสินค้าได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เชื่อตลาดวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังดีขึ้น จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล มั่นใจยอดขายเติบโต 10% ตามเป้า โบรกฯ คาดไตรมาส 2/53 จะทำนิวไฮทั้งยอดขายและกำไร (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 30-07-2010)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
หุ้นมะกันปิดลบ น้ำมันเพ่ิม1.37ดอลล์

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,467.16 จุด ลดลง 30.72 จุด ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 78.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล....

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ดัชนีปรับลดลงหลังข้อมูลตัวเลขผู้ว่างงานยื่นขอความช่วยเหลือในสัปดาห์ที่ ผ่านมาลดลงเพียง 11,000 คนไปอยู่ที่ 457,000 คน แต่ยังมีปัจจัยบวกจากผลประกอบการไตรมาส 2 ที่น่าพอใจของหลายบริษัททั้งเอ็กซอนโมบิล เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ และโซนี่ ช่วยให้ดัชนีลดลงไปไม่มากนัก ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 2 ของปีออกมาในวันนี้

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 78.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,467.16 จุด ลดลง 30.72 จุด หรือ 0.29% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,2251.69 จุด ลดลง 12.87 จุด หรือ 0.57% และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,101.53 จุด ลดลง 4.60 จุด หรือ 0.42%

ตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 5,313.95 จุด ลดลง 5.73 จุด หรือ 0.11% ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 6,134.70 จุด ลดลง 44.24 จุด หรือ 0.72% และดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 3,651.91 จุด ลดลง 18.45 จุด หรือ 0.50% ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ปิดที่ 77.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปรับขึ้น 1.53 ดอลลาร์สหรัฐ

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 1,168.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 8.00 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตลาดลอนดอน ปิดที่ 1,164.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 4.15 ดอลลาร์สหรัฐ.

ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยุโรปดีดตัวขึ้น หลังภาคการผลิต-บริการฟื้นตัว ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยุโรปพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ที่ 101.3 จุดในเดือนก.ค. จากระดับเดือนมิ.ย.ที่ 99 จุด คณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า ความเชื่อมั่นของประเทศส่วนใหญ่ในยูโรโซนนั้นปรับตัวขึ้น โดยความเชื่อมั่นในเยอรมนีเพิ่มขึ้นสูงสุด ขณะที่สเปนมีดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลง ขณะที่อัตราการขยายตัวของภาคธุรกิจบริการและการผลิตของยุโรปนั้น ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา (ที่มา: อินโฟเควสท์ 29-07-2010)
จีน: จีนเตรียมควบคุมกำลังการผลิตถ่านหินในปี 2554-2558 หลังเผชิญภาวะการผลิตล้นตลาด นายวู ยิน รองผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานแห่งชาติของจีน กล่าวว่า จีนกำลังพิจารณาเรื่องการควบคุมปริมาณการผลิตถ่านหิน และการวางแผนด้านกำลังการผลิตอย่างเป็นระบบในช่วงเวลาตามแผนเศรษฐกิจระยะ 5 ปีฉบับที่ 12 (2554-2558) หลังจากที่ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมถ่านหินของจีนกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก
เรื่องกำลังการผลิตที่ล้นตลาด วูกล่าวว่า ความเสี่ยงด้านการกำลังผลิตถ่านหินที่ล้นตลาดในปี 2554-2558 มีสาเหตุหลักมาจากการพัฒนาโครงการเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ของจีนในปัจจุบัน รวมถึงการเพิ่มกำลังการผลิตของผู้ประกอบการเหมืองถ่านหินหลังจากที่มีการปรับโครงสร้างองค์กรและปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานในเหมือง ตลอดจนการมีส่วนร่วมขององค์กรนอกภาคอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่บางรายที่สนใจในธุรกิจดังกล่าวซึ่งให้ผลกำไรสูง (ที่มา: อินโฟเควสท์ 29-07-2010)
เอเชีย: ญี่ปุ่นเผยดัชนี CPI เดือนมิ.ย.ลดลง 1.0% บ่งชี้ญี่ปุ่นยังเผชิญภาวะเงินฝืด กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ทั่วไปในเดือนมิ.ย.ของญี่ปุ่น ลดลง 1.0% จากปีที่แล้ว ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืด แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1.1% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 30-07-2010) เอเชีย: สนง.สถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นเกินคาด 16.9% สำนักงานสถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 16.9% จากปีที่แล้ว ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 16.5% สะท้อนให้เห็นว่าเกาหลีใต้สามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ได้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป (ที่มา: อินโฟเควสท์ 30-07-2010)


----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น