Code 111 : ถึงเป้าหมาย 822 แล้ว ระวังแรงขายเพื่อปรับฐาน

วันพฤหัสที่ 8กรกฎาคม 2553

ATT Code : ถึงเป้าหมาย 822 แล้ว ระวังแรงขายเพื่อปรับฐาน
เช้านี้ SET เปิดโดดแรงมั๊กๆ บวกไป 10 จุด เปิดที่ 824.69 แล้วยังขึ้นไป High ต่อ ที่ 826 ทะลุทะลวงแนวต้านที่คาดไว้ ที่ 822 โดยเมื่อ SET มาถึงเป้าหมายที่คาดไว้ ก็ควรต้องขายเพื่อทำกำไรออกมา และ RSI ก้ไม่ได้ทำ New High ใหม่ ทำให้อาจจะเกิด Bearish Divergence ได้ สอดคล้องกับที่นักวิดเคราะห์ได้คาดว่าอาจจะมีการปรับฐานลงไปสู่ 790-800 จุดได้

ทั้งนี้ที่ SET พุ่งขึ้นมาแรงเกินคาดเนื่องจาก
1. เมื่อวานตอนเปิดตลาดยุโรปออกมาไม่ค่อยดี ยังอยู่ในแดนลบแต่สุดท้ายพลิกกลับมาปิดในแดนบวกได้
2. DJIA พุ่งขึ้นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน หลังสเตท สตรีท คอร์ป สถาบันการเงินรายใหญ่ในนครบอสตัน ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีดีกว่าเป้าที่วางไว้
3. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.09 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 3% ไปปิดที่ 74.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis8 กค .53 ( -0.84 จุด)
โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338
ปรับฐานแถว 790 - 803 จุด
แนวโน้มในวันพฤหัสนี้ ในกรณีปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนีสามารถขึ้นต่อได้เล็กน้อยแถว 821 – 823 เหนือจุดสูงสุดเดิมของปีนี้ที่ 820.09 อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าดัชนีจะมีจุดสูงสุดใหม่หรือไม่ ? คาดว่าภาพหลังจากนั้น ตลาดมีโอกาสปรับฐานแถว 790 – 803 ใกล้จุดต่ำสุดเดิมของวันอังคาร และ เป็นบริเวณแนวรับตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน

จากนั้น สำหรับภาพหนึ่งสัปดาห์ ข้างหน้า มีโอกาสที่ตลาดจะแกว่งตัวออกด้านข้าง ในกรอบ 790 หรือ 803 - 820 เหนือเส้น ค่าเฉลี่ย 25 วัน


---------------------------------------------------------------------------------
ตัวเลขเช้านี้ 8/07/53
ข้อมูลอื่นๆ ......SET ปิดที่ 814.68 จุด -0.84 จุด High 818.33 จุด low 813.02 จุด......แนวรับ 812-808 // 804 จุด แนวต้าน 820-830 // 840 จุด......PE SET 12.72 เท่า.........สัดส่วนการซื้อขาย ฝรั่งขาย 17.86 ล้าน กองทุนซื้อ 630.22 ล้าน….......โบรกเกอร์ ที่ net buy TSC 1035, PHATRA 533, KEST 437, CGS 245 และ CS 197……..โบรกเกอร์ที่ net sell KSEC -537, ASP -433, JPM -200, MACQ -179 และ PST -156........TFEX SET50 ปิดที่ 557.77 จุด -2.00 จุด.......S50U10 ปิดที่ 551.90 จุด -4.90 จุด .... high 556.20 จุด low 551.30 จุด OI 19,191 ….......status futureวานนี้ Foreign net SHORT 1024 - Fund net SHORT 1921 - Retail net LONG 2945........ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJ ปิด +274.66 จุด….ยุโรปปิด +0.5 ถึง +1.5% ......ตลาดเอเซียเช้านี้ 9.20 น. NIX +247.56 จุด, HSKI +309.17 จุด, TWSE +72.10 จุด, KOSPI +22.19 จุดและ SHCOMP +8.04 จุด.....ดาวโจนส์ในตลาดล่วงหน้า +18 จุด........ค่าเงิน - เงินบาท 32.44…เงินเยน 88.35……...COMODITY.... น้ำมัน NYMEX ส่งมอบ ส.ค. ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล +2.09 ดอลล์........ค่าการกลั่น 4.95 ดอลล์.......ทองคำ COMEX ปิดที่ 1198.90 เหรียญ +3.80 ดอลลาร์......BDI ปิดล่าสุดอยู่ที่ 2018 จุด -109 จุด ….. ราคาสังกะสีในตลาด LME ล่วงหน้า 3 เดือนปิดล่าสุดที่ 1853.00 ดอลลาร์ต่อตัน +3.00 ดอลล์
สินค้าเกษตร...ราคาตลาดจริง (หน่วย : บาท/ กก.) ….ข้อมูลจาก WEB Site ของ AFET (www.afet.or.th)
ราคาประมูลยางแผ่นรมควันชั้น 3 (7/07/10) Hatyai A.M. 107.07 บ. -0.13 บ. // FOB.BKK 112.85 บ. ไม่ ปป.
ราคาข้าวขาว 5% (7/07/10) 13.28 บ. -0.14 บ.
ราคาข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 (7/07/10) 29.15 บ. ไม่เปลี่ยนแปลง
---------------------------------------------------------------------------------
eFinancetThai : PTT ยังมีดีเพียบ
PTT ยืดอกยอมรับโรงแยกก๊าซ 6 เลื่อนผลิตเชิงพาณิชย์จากต้นปี 53 กระทบรายได้บริษัทฯ สูญหลายพันล้านบาท แต่ยันไม่มีผลต่อเป้ารายได้ทั้งปีนี้ เหตุไม่ได้คำนวณรวม หลังพิษมาบตาพุดกดดันชะงักโครงการลงทุน ฟากโบรกเกอร์ประสานเสียงเชียร์ซื้อ เหตุยังมีดีอีกเพียบ ทั้งแผนควบรวม PTTAR และ IRPC รวมถึงข่าวดีอาจรันกำลังผลิตโรงแยกก๊าซได้ทันสิ้นปี ค่ายยูไนเต็ดชี้ปีนี้สดใส ฟันกำไร 6.38 หมื่นล้านบาท ส่วนทรีนีตี้ ให้เป้าหมาย 365 บาท และนครหลวงไทย ให้ราคา 330 บาท

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-หุ้นค้าปลีก!!
ดัชนีหุ้นวันที่ 7 ก.ค.53 ปิดที่ 814.68 จุด ลดลง 0.84 จุด มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 31,565.80 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 17.86 ล้านบาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า มีแรงเข้ามาซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กรายตัว ที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาดี รวมทั้งตามข่าวที่เข้ามากระทบ แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เก็งกำไร หุ้นรายตัว เช่น SCC, TTW และหุ้น Turnaround เช่น MINT และ THAI เพราะเชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวได้ผ่านจุดที่ต่ำสุดไปแล้ว

ปิดท้ายหุ้นกลุ่มโมเดิร์นเทรดวิ่งขึ้นกันถ้วนหน้า หลังมีข่าวว่าหุ้นใน กลุ่มนี้มีโอกาสเข้าไปซื้อกิจการของห้างคาร์ฟูร์ ที่ประกาศถอนตัวการทำธุรกิจในไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยราคาหุ้น BJC ปรับตัวขึ้นแรงทันทีที่เปิดตลาด และวิ่งไปชนซิลลิ่งสูงสุดที่ 17.50 บาท เช่นเดียวกับหุ้น BIGC และ CPALL ที่ขึ้นแรงเช่นกัน แต่แรงสู้ BJC ไม่ได้ ล่าสุด BJC ปิดที่ 14.70 บาท บวก 1.20 บาท

บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า คาร์ฟูร์ดำเนินกิจการในไทยกว่า 14 ปี มี 45 สาขา ตามข่าวระบุว่า มูลค่าการขายอาจอยู่ที่ 500-600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยผู้ที่จะซื้อกิจการคาร์ฟูร์ มีความเป็นไปได้ตั้งแต่ Tesco Lotus, BIGC และ BJC แต่ถ้าพูดถึงความพร้อมทางการเงิน BIGC มีภาษีดีกว่า BJC เพราะเงินสดในมือมีมากกว่า ถ้าใช้เงินสดบางส่วน กู้บางส่วน D/E ของ BIGC เพิ่มขึ้น แต่ไม่เกิน 2 เท่า ขณะที่ BJC อาจพุ่งขึ้นไปถึง 2.3 เท่า

แต่ตราบใดที่ยังไม่มีความชัดเจน เท่ากับเปิดโอกาสในการเก็งกำไร ซึ่งที่ผ่านมาตลาดเก็งกำไร BJC มามากแล้ว ขณะที่ BIGC มีพื้นฐานดีแต่ราคาหุ้น laggards เราจึงแนะเก็งกำไร BIGC

ขณะที่ บล.ธนชาต คาดว่าผู้ประกอบการร้านค้าปลีกไทย ที่อาจสนใจเข้าซื้อ ได้แก่ เทสโก้ (ไฮเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่เป็นอันดับ 1) ส่วน BIGC อันดับ 2 แนะ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 55 บาท, MAKRO อันดับ 3 แนะ "ขาย" ราคาเป้าหมาย 83 บาท, CPALL แนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 33 บาท

ปิดท้าย นครหลวงไทยให้น้ำหนักการลงทุนเป็น "Bullish" หุ้นกลุ่มพาณิชย์ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมทั้งการเก็งกำไรข่าวการขายกิจการของคาร์ฟูร์ จึงแนะนำเพียง "ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว" สำหรับ BIGC ให้ราคาเหมาะสม 53 บาท เนื่องจากประเมินว่ายังไม่มีความชัดเจนว่า BIGC จะซื้อจริงหรือไม่ และมีความเสี่ยงจากการเพิ่มทุน

ทั้งนี้ นครหลวงไทยยังคงเลือก CPALL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม โดยแนะ "ซื้อ" ให้ราคาเหมาะสม 35 บาท.

FSS:ที่ระดับดัชนี 820 จุดขึ้นไปควรชะลอการเข้าซื้อ...และเริ่มมองหาจังหวะขาย!!
แนวโน้ม: แม้ว่าเมื่อวานนี้จะมีแรงขายในตลาดหุ้นไทย และภูมิภาคพอควร จนทำให้ SET ปิดเป็นลบ แต่ก็ถือว่าตลาดหุ้นไทยยังค่อนข้างแข็งแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ซึ่งนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศยังสลับกันเข้าซื้อ-ขายอยู่ จึงยังดูไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ประกอบกับเข้าใกล้ช่วงประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/53 ของ บจ. ต่างๆ ซึ่งหลายบริษัทก็จะมีการประกาศจ่ายปันผลงวดระหว่างกาลด้วย ทำให้ยังคงมีแรงซื้อเข้ามาเลือกหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการดี หรือมีปันผลน่าสนใจ FSS จึงยังคาดว่า SET จะยังเน้นหนักทางด้านแกว่งตัวขึ้นต่อได้ รวมทั้งเช้านี้ทางด้านตลาดหุ้นต่างประเทศถือว่าบรรยากาศการลงทุนค่อนข้างสดใส หลังนักลงทุนกลับมามีความมั่นใจมากขึ้น เนื่องจากผลประกอบการรายไตรมาสของ บจ. ในสหรัฐมีแนวโน้มที่ดี ยิ่งทำให้สนับสนุนโอกาสที่ SET จะยังบวกต่อได้ตามคาด อย่างไรก็ตามถ้า SET ขยับขึ้นสูงกว่า 820 จุดขึ้นไป เราแนะนำให้เริ่มชะลอการเข้าซื้อ และควรเริ่มมองหาจังหวะขายทำกำไรบ้าง เพราะคาดว่าประเด็นการทำ Stress Test ในยุโรปช่วงปลายเดือนนี้ อาจจะส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง และกลับไปถือเงินสดเพื่อรอดูความชัดเจนอีกครั้งได้
กลยุทธ์: ยังเน้นเลือกหุ้นเข้ารับเป็นรายตัว เพื่อรอขายทำกำไรเมื่อตลาดแกว่งขึ้น แต่ที่ระดับดัชนี 820 จุดขึ้นไป ควรเริ่มชะลอการเข้าซื้อโดยเฉพาะในหุ้นที่มีราคาขยับตัวขึ้นมาแรงแล้ว และเปลี่ยนมาเป็นเริ่มมองหาจังหวะขายทำกำไรมากกว่า โดยหุ้นที่ยังน่าสนใจในช่วงนี้ ได้แก่ BBL, KBANK, KTB, KK, TCAP, PHATRA, ROJNA, KH, PDI, TVO, LST, HANA, BECL, AOT, TSTH, ESSO, PTTCH เป็นต้น ส่วน THCOM แม้จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้งในช่วงนี้ซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการเก็งกำไรเนื่องจากมีสิทธิที่จะหลุดจากบัญชี Cash Balance ของตลาดฯ ในสัปดาห์หน้า แต่ต้องระวังแรงขายจากประเด็นที่คณะกรรมการตามมาตรา 22 ชี้ว่าบริษัททำผิดสัญญาฯ ซึ่งแนวต้านทางเทคนิคจะอยู่ในกรอบ 6.50-7 บ. แนวรับ 5.90-5.50 บ.
1 ประเด็นสำคัญวันนี้
§ The Laggards ดัชนีที่กำลังจะขึ้นไปทดสอบ 820 จุดนี้ เราเชื่อว่ายังคงเป็นการสลับกลุ่มเล่นเหมือนในช่วงที่ผ่านมา และผสมด้วยกลุ่ม Commodity รับข่าวดีที่น้ำมันบวก US$2 เมื่อคืน แต่เชื่อว่าการปรับขึ้นของกลุ่มพลังงานจะถูกจำกัดด้วยมุมมองของราคาน้ำมันที่แย่ลงกว่าเดิม โดยหุ้นที่ laggards ได้แก่ PTT, PTTAR, GLOW, TOP, PTTCH, SEAFCO, SPALI, PS, HEMRAJ, GFPT, TCAP, KBANK
§ THCOM คณะกรรมการมาตรา 22 สรุปว่า THCOM ทำผิดสัญญา 3 ข้อคือ 1. ไม่ได้คืนเงินประกันกรณีที่ไทยคม 3 เสียหาย แต่เอาไปใช้คืนหนี้แทน ดังนั้น THCOM จะต้องคืนเงินประกัน US$6.7 ล้าน 2. IPSTAR ผิดสเปก ไม่ใช่ดาวเทียมสำรอง ดังนั้น ต้องสร้างดาวเทียมใหม่ 3. ปัจจุบันสัดส่วนการถือหุ้นของคนไทยถืออยู่ 40% ลดลงจาก 51% ซึ่งไม่เป็นไปตามสัญญา ขั้นตอนต่อไปคือคณะกรรมการฯ จะนำเสนอ ก.ไอซีทีเพื่อเสนอต่อ ครม.อีกที หากก.ไอซีที เห็นว่าผิด ก็อาจดำเนินการฟ้องร้อง เข้าสู่กระบวนอนุญาโตตุลาการและศาลปกครอง หากต้องเข้าสู่กระบวนการศาล แม้ต้องใช้เวลานานเป็นปีในการตัดสิน แต่ราคาหุ้นจะ underperform ตลาด ข่าวนี้เป็นข่าวร้ายที่กลบข่าวดีเรื่องตลาดใหม่ในอินเดีย ราคาหุ้นอาจปรับลงมาเหลือ 5.40 – 5.60 บาทเท่ากับช่วงที่จะเก็งกำไรว่าไม่ผิดสัญญา เราแนะนำขายและยังไม่เข้ารับจนกว่าจะเห็นความชัดเจน นอกจากนี้ SHIN อาจถูกดึงเข้าไปเกี่ยวโยงเรื่องการถือหุ้นด้วย ให้ระวังเช่นกัน
§ วานนี้ Foreign Fund flow ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน แต่ปริมาณการซื้อขายเบาบางมาก เนื่องจากทิศทางตลาดไม่ชัดเจนหลังตัวเลขเศรษฐกิจหลายประเทศชั้นนำบ่งชี้ออกมาชะลอตัวทำให้นักลงทุนยังไม่ค่อยกล้าลงทุนในช่วงนี้ แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มวันนี้กระแสเงินทุนต่างชาติน่าจะไหลเข้าตลาดหุ้น เนื่องจากคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงไตรมาส 2 จะออกมาดี และมีบางประเทศอาจจะออกมาดีกว่าคาด ค่าเงินยูโรยังแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 1.26 ยูโรต่อดอลลาร์สหรัฐจากยอดขายพันธบัตรสเปนยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก ซึ่งเช้านี้ค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 32.43-32.45 บาท/ดอลลาร์ซึ่งสัญญาณว่าจะมีเงินไหลเข้า

ข่าวภายในประเทศ
SGP เทกปิคนิคแก๊สเบียดปตท.ตกแชมป์:มาร์เก็ตแชร์แอลพีจี 55% ราคาเหมาะสม 21 บาท “ศุภชัย” บิ๊กสยามแก๊สยอมรับสนใจซื้อ PICNI พร้อมหาช่องเจรจา หวังดันมาร์เก็ตแชร์ตลาดผู้ค้าก๊าซพุ่ง 54.6% แซงหน้า ปตท. ตลาดก๊าซในครัวเรือน งานนี้รับหลายเด้งทั้ง สินทรัพย์และฐานลูกค้า อีกทั้งเชื่อมโยงตลาดก๊าซเวียดนามให้ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ เสริมเขี้ยวเล็บในธุรกิจค้าก๊าซที่เวียดนามเพิ่ม ปีหน้ากำไรโตก้าวกระโดด 47% ดันราคาพื้นฐานเหมาะสม 21 บาท คิดพีอี 10 เท่า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-07-2010)
TCAP กำไรอ้วนอีกรอรับต๋งจาก ‘SCIB’ “ทุนธนชาต” (TCAP) ไตรมาส 2 เตรียมรับอีกเด้ง รอบุ๊คกำไรจากแบงก์นครหลวงไทย (SCIB) บางส่วนหลังคาด SCIB จะรายงานกำไรสุทธิกว่า 1.22 พันล้านบาท ส่งผล TCAP มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้กว่า 1.36 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 83% จากช่วงเดียวกันของปี’52 ด้าน “ชัยวัฒน์” ยันกำไรไตรมาส 2 เป็นไปตามเป้า (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-07-2010)
GLOW เป้าใหม่ 52 บาทครึ่งปีแรกปันผล 75 สต. GLOW ลุ้นไตรมาส 2/53 กำไร 1,600-1,700 ล้านบาท คาดครึ่งปีแรกจ่ายปันผล 0.75 บาท ต่อหุ้น “ณัฐพรรษ” ย้ำปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ โดยที่ผ่านมามีนโยบายจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และเพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 5% คาดทั้งปีน่าจะจ่ายปันผล 1.915 บาท ดิวิเดนด์ยีลด์ 5.14% โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 52 บาท อัพไซด์ 41% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-07-2010)
LOXLEY กำไรโตปี 53 กระฉูด 33% DSIถอดคดีหวย บอร์ดสอบสวนคดีพิเศษ หวั่นคดีหวยออนไลน์กระทบการลงทุนจากต่างประเทศ สั่งดีเอสไอเบรกทำคดีต่อ ล็อกซเลย์เชื่อสัญญาณดี มั่นใจประมูลงานโปร่งใส ด้านบอร์ดสลากฯเลื่อนประชุมจากวันที่ 7 ก.ค. เดือนนี้นัด 2 รอบ เตรียมเสนอบอร์ดเรื่องชดเชยค่าเสียหายหวยออนไลน์ 3 พันล้าน ด้านโบรกมองLOXLEYปีนี้กำไรดีกว่าที่คาดโต 33% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-07-2010)
PTT ตั้งเป้าติด FORTUNE100 “ประเสริฐ”เตรียมดันปตท.ขึ้นทำเนียบ Fortune 100 วาดฝันยอดขายอีก 10 ปีข้างหน้า ทะลุ 4-5 ล้านล้านบาทพร้อมทุ่มเงินลงทุนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 2 ล้านล้านบาท ขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้ไม่น่าห่วง เหตุดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-07-2010)
SAT ฮุบออเดอร์มิตซูบิชิซื้อเก็บลุ้นปันผล 0.30 บ. SAT จ่ายปันผลครึ่งปี 30 สตางค์ ”วีระยุทธ”การันตีถ้ามีกำไรพร้อมจ่ายแน่ ลั่นฟาดงานจากมิตซูบิชิเพิ่มมาแล้วอีก 1 โมเดล ชี้ความสัมพันธ์แน่น ช่วยหนุนมีสิทธิได้ออเดอร์งานใหม่เพิ่มไม่หยุด มั่นใจยอดขายไตรมาส 2 พุ่งกระฉูดขานรับออเดอร์ล้น ฟากวงการเงินชี้หุ้นยานยนต์จ่ายปันผลระหว่างกาลแน่ AH มีสิทธิจ่ายงวดครึ่งปีขั้นต่ำ 8 สตางค์ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-07-2010)
ไอซีทีสรุป THCOM ทำผิดสัญญา! คณะกรรมการมาตรา 22 สรุปรายงานสัญญาไทยคม ระบุไม่ยอมปฏิบัติตามสัมปทาน เล็งเสนอ “จุติ” ให้ชงเข้าครม. คืนเงินประกันกว่า 200 ล้านบาท ยิงดาวเทียมสำรองไทยคม 3 และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นให้เท่าเดิม ยันอิงแนวทางตามคำตัดสินของศาลฎีกาฯ ย้ำชัดไอพีสตาร์เป็นดาวเทียมนอกสัมปทาน ต้องเขียนสัญญาแนบท้ายเพิ่มเติม (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-07-2010)
ROJNA เปิดคอนโด 2 พันล้าน Q3 เจาะลูกค้าระดับกลาง ย้ำบุ๊คคอนโดปีนี้ 1.5 พันลบ. “โรจนะ” เตรียมเปิดคอนโดฯใหม่ย่านรัตนาธิเบศร์มูลค่า 2,000 ล้านบาทปลายไตรมาส 3/53 ชูจุดขายใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง เล็งเปิดพรีเซลเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ราคาขายต่อยูนิตล้านบาทต้นๆ ส่วนกรณีเศรษฐกิจจีนชะลอการเติบโต-คุมเข้มปล่อยสินเชื่อ “อมรา” รับกระทบการทำตลาดล่าช้า-ยอดขายไม่ร้อนแรง แต่เชื่อยังขายได้ ย้ำบุ๊ครายได้ขายคอนโดฯปีนี้ตามเป้า 1,500 ล้านบาท โบรกฯแนะซื้อราคาเป้าหมาย 12.30 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-07-2010)
SC รุกครึ่งปีหลังผุด 9 โครงการขยายฐานลูกค้าซูเปอร์ไฮเอนด์ “SC” รุกหนักครึ่งปีหลัง เตรียมผุดโครงการใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า7,000 ล้านบาท ประเดิมเดือนนี้เปิดจอง 2 โครงการใหม่ คือ “โครงการไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 23” บ้านเดี่ยว 2 ชั้นใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว และ “โครงการวิสต้า อเวนิว รัชวิภา” ทาวน์โฮม 2 ชั้น ซีรี่ส์ใหม่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนไตรมาส 4/53 พร้อมเปิดอีก 7 โครงการ เน้น
ขยายฐานระดับพรีเมี่ยมถึงซูเปอร์ไฮเอนด์ ชูคอนเซ็ปต์ซูเปอร์ไฮเอนด์ไม่เหมือนใคร (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-07-2010)
CPF กระทบสิทธิ GSP น้อยชี้ส่งออกกุ้งไปสหรัฐแค่ 1% แนะซื้อเป้าหมาย 24.30 บ. CPF ได้รับผลกระทบน้อยกรณีถูกตัดสิทธิจีเอสพีกุ้งปรุงแต่งและแปรรูปจากไทยไปสหรัฐ เหตุมียอดส่งออกกุ้งไปสหรัฐเพียงแค่ 20% ของยอดส่งออกกุ้งรวม หรือคิดเป็นเพียงแค่ 1% ของยอดขายทั้งหมด โบรกฯเชียร์ซื้อเป้าหมาย 24.30 บาท คาดกำไรสุทธิปี 2553 แตะ 1.49 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากประมาณการเดิม 8% สะท้อนกำไร Q2/53
และแนวโน้มครึ่งปีหลังดี(ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 8-07-2010)

---------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ไทยรัฐ : หุ้นมะกันปิดบวก น้ำมันเพิ่มขึ้น2.09ดอลล์
ดัชนีหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 270 จุด โดยปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,018.28 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.09 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 74.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล....

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ดัชนีพุ่งขึ้นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน หลังสเตท สตรีท คอร์ป สถาบันการเงินรายใหญ่ในนครบอสตัน ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีดีกว่าเป้าที่วางไว้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.09 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 3% ไปปิดที่ 74.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,018.28 จุด ปรับขึ้น 274.66 จุด หรือ 2.82% ดัชนีแนสแดคปิดที่ 2,159.47 จุด ปรับขึ้น 65.59 จุด หรือ 3.13% และดัชนีเอสแอนด์พีปิดที่ 1,060.27 จุด ปรับขึ้น 32.21 จุด หรือ 3.13%

ตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 5,014.82 จุด ปรับขึ้น 49.82 จุด หรือ 1.00% ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 5,992.86 จุด ปรับขึ้น 51.88 จุด หรือ 0.87% และดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 3,483.44 จุด ปรับขึ้น 60.08 จุดหรือ 1.76% ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ปิดที่ 73.51 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปรับขึ้น 2.06 ดอลลาร์สหรัฐ

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 1,198.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 3.80 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตลาดลอนดอน ปิดที่ 1,195.75 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 60 เซนต์.

FSS:ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป:
ทูตอียูเผยการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสิงคโปร์และอียูคืบหน้า คาดตกลงได้ต้นปีหน้า โฮลเกอร์ สแตนเดอร์สโจลด์เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปหรืออียูประจำสิงคโปร์เปิดเผยว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างสิงคโปร์และสหภาพยุโรปนั้น จะแล้วเสร็จในช่วงต้นปีหน้าหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้เจรจาร่วมกันเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และได้จัดการเจรจาเป็นรอบที่ 2 เมื่อเดือนมิ.ย. ส่วนการเจรจารอบที่ 3 จะจัดขึ้นในเดือนก.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เอกอัครราชทูตอียู กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาในการสรุปข้อตกลง แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าจะสามารถสรุปข้อตกลงได้ในช่วงต้นปีหน้า (ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-07-2010)
จีน: จีนเผยราคานำเข้าน้ำมันพืชพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือน กรมศุลกากรกว่างโจวเปิดเผยว่า ราคาเฉลี่ยของน้ำมันพืชนำเข้าอยู่ที่ระดับ 812.7 ดอลลาร์สหรัฐ/ตันในเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือน ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ จีนนำเข้าน้ำมันพืชราว 700,000 ตันผ่านทางท่าเรือหลายแห่งในมณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้ของจีน หรือลดลง 30% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่มูลค่าการนำเข้า
เพิ่มขึ้น 20% ทะลุ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-07-2010)
จีน: จีนเตรียมใช้นโยบายสนับสนุนการควบรวมและซื้อกิจการวิสาหกิจขนาดใหญ่ ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่ากระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนได้ร่างนโยบายในการสนับสนุนการควบรวมและซื้อกิจการในภาคอุตสาหกรรม และได้มีการส่งนโยบายให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อขออนุมัติแล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นโยบายดังกล่าวจะให้การสนับสนุนการควบรวมและซื้อกิจการของวิสาหกิจขนาดใหญ่ในด้านของการเงิน การจัดเก็บภาษี และการจัดสรรทรัพยากร ขณะที่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับนโยบายดังกล่าวมีจำนวน10 อุตสาหกรรม ได้แก่ ยานยนต์ เหล็ก สิ่งทอ การผลิตอุปกรณ์ การต่อเรือ อิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูล ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเบา โลหะนอกกลุ่มเหล็กและอุตสาหกรรมใหม่ คือ วัสดุก่อสร้าง ซึ่ง 9 อุตสาหกรรมดังกล่าวนั้นได้มีการบรรจุไว้ในแผนการปรับปรุงและปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมเมื่อปีที่แล้ว(ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-07-2010)
เอเชีย: ญี่ปุ่นเผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ค.ร่วงลง 8.1% หลังมูลค่าการนำเข้าสูงขึ้น กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่ายอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นดุลการชำระเงินที่ประกอบไปด้วยรายการสินค้าและการบริการทั้งในฝั่งนำเข้าและส่งออก ร่วงลง 8.1% ในเดือนพ.ค. มาอยู่ที่ระดับ 1.2053 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน หลังจากอัตราการขยายตัวของภาคการส่งออกชะลอตัวลง
และมูลค่าการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่พุ่งขึ้น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 08-07-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น