Code 121 : จุดเปลี่ยนที่ 820 - 830 Broker แนะเน้นขายดีกว่า

วันพฤหัสที่ 22 กรกฎาคม 2553

ATT Code : จุดเปลี่ยนที่ 820 - 830 Broke แนะเน้นขายดีกว่า
SET มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 820 - 830 อีกหนึ่งถึงสองวัน ถ้ายืน 830 ... มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปที่ 840 โดยถึง ณ จุดนี้ ถือว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างมาก เนื่องจากกรอบการขึ้นมีอยู่อย่างจำกัด เพราะหุ้นตัวใหญ่ๆ ยังไม่มีแรงซื้อเข้ามา โดยถ้า SET ต่ำกว่า 820 ลงต่อ 796 - 806 ปลายสัปดาห์

----------------------------------------------------------------------------------
ข่าวไทยรัฐออนไลน์:: ข่าวเศรษฐกิจ
หุ้นสหรัฐฯร่วง ดาวโจนส์ลด 109.43 จุด
"ตัน"เต้นมือมืดซุ่มสอย "โออิชิ" "เสี่ยเจริญ"คอนเฟิร์มบริหารได้ "ซูโก้ย"
แบงก์ไทย "ว่านอนสอนง่าย"
ตลาดเกาะติดซื้อขายหุ้นทหารไทย เตือนนักลงทุนระวังเป็นแมงเม่า
บสก.ปลื้มโชว์กำไรทะลัก

KELive วิเคราะห์รายหุ้น
DTAC (41.25 บาท : ซื้อ) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้คาดเติบโตถึง 43% เป็น 9.5 พันล้านบาท
THAI (32.25 บาท : ซื้อ) ผู้โดยสารฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ
TOP (41.25 บาท : ซื้อเมื่ออ่อนตัว) คาดไตรมาส 2/53 กำไรลดลง 48% qoq

Manager Online - ข่าวการเงิน
พบสัญญาณเงินนอกป่วนไทย ธปท.ผวาเฮจด์ฟันด์คืนชีพ-เตือนรับมือ
แบงก์กรุงศรีฯ ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.125%-ขยับดอกฝาก 0.10-0.35%
กรุงศรีฯแถลงผลประกอบการ Q2 กำไร 2.1 พันล้าน เพิ่ม 24%
ธปท.กังวลเงินนอกทะลักป่วน ศก. เสี่ยงฟองสบู่ ยันค่าบาทเป็นธรรมชาติ
ธปท.ผวาทุนไหลเข้าตลาดหุ้น หวั่นซ้ำรอยฟองสบู่-วิกฤตหนี้ยุโรป ซับไพรม์

Manager Online - ตลาดเงิน-ตลาดทุน
ตลท.ตามข้อมูลหุ้น TMB ใกล้ชิด ชี้ ราคาพุ่งสูงต่อเนื่องผิดปรกติ
ผวาโรงไฟฟ้าติดบัญชีดำ กระทบกำลังไฟสำรอง-ความมั่นคงพลังงาน
"หม่อมอุ๋ย" ชี้ กำไรหุ้นทะลักเข้าอสังหาฯ เตือนอย่าดีใจส่งออกพุ่งแรง
IRPC ล้มแผนควบรวม หากไม่คุ้ม-ทุ่ม 2.6 พันล้าน ผลิตโพรพิลีนแสนตัน
หุ้นไทยปิด 830.93 จุด เพิ่ม 6.52 จุด ดัชนีแกว่งตัวแดนบวก

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-หุ้น TMB!!

ดัชนีหุ้นวันที่ 21 ก.ค.53 ปิดที่ 830.93 จุด เพิ่มขึ้น 6.52 จุด

มีมูลค่าการซื้อขาย 31,919.10 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 538.86 ล้านบาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป มองแนวโน้มตลาดระยะสั้น ปัจจัยต่างประเทศมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯและการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่ขณะนี้ยังไม่ได้เข้ามาซื้อชัดเจน ส่วนปัจจัยในประเทศจะเป็นการเล่นหุ้นรายตัวตามข่าวและผลประกอบการ

แนะกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่ดัชนีถือว่าปรับตัวขึ้นมาสูงระดับหนึ่งแล้วให้เน้นลงทุนหุ้นที่มีปันผลระหว่างกาลรองรับ และหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 โดดเด่น เช่น หุ้น TTW, MAJOR และ MCOT

ด้านเทคนิคประเมินแนวรับไว้ที่ 820 จุด และประเมินแนวต้านไว้ที่ 836 จุด

ปิดท้าย ตลาดหลักทรัพย์ออกข่าวว่าได้เข้าตรวจสอบการซื้อขายหุ้น TMB หลังมีแรงซื้อขายเข้ามาคึกคักดันราคาพุ่งกระฉูดกระฉาด เพราะนักลงทุนเก็งข่าวการขายหุ้นของกระทรวงการคลังที่ถูกปล่อยออกมาสร้างสีสันประกอบการปั่นราคาเป็นระยะ แม้ธนาคารจะออกมาปฏิเสธข่าวว่า

ยังไม่มีการเข้ามาทำดิวดิลิเจนท์ของไอเอ็นจีแบงก์ก็ตาม

แต่ก็อย่างว่า มีกรณีตัวอย่างจากการขายหุ้น SCIB มาให้เห็นแล้ว ใครจะอดใจไหว!!

อย่างไรก็ตาม มีคำแนะนำหุ้น TMB จากโบรกเกอร์หลายสำนักโดย บล.กิมเอ็ง บอกว่า ราคาหุ้นขณะนี้ "เต็มมูลค่า" แล้ว เพราะให้มูลค่าเหมาะสมปี 53 ไว้เพียง 1.54 บาท ส่วน บล.เคที ซีมิโก้ แนะ "ขาย" มูลค่าพื้นฐาน 1.35 บาท เช่นเดียวกับทิสโก้ที่สั่งเดินหน้า "ขาย" ลูกเดียว ให้ราคาเป้าหมาย 1.41 บาท ส่วน บล.ยูไนเต็ด แนะ "ขายทำกำไร"

แต่ บล.บัวหลวง สวนทางปืน แนะ "ซื้อเก็งกำไร" ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 54 เป็น 2.33 บาท โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 53 และ 54 ขึ้น 32% และ 36% มาอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท และ 4.5 พันล้านบาท สะท้อนการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นและความเสี่ยงจากการขาดทุนจาก NPL ลดลง

ทั้งนี้ ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก "ขาย" เป็น "ซื้อเก็งกำไร".

FSS:ยังแนะนำให้เน้นทยอยขายทำกำไรต่อเนื่อง แล้วกลับมาถือเงินสดมากขึ้น...
แนวโน้ม: เมื่อวานนี้ตัวเลขการส่งออกของไทยยังคงดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ SET สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาจากการปรับตัวลงค่อนข้างแรงวันก่อนหน้าได้ แต่แรงซื้อในตลาดก็ยังเป็นลักษณะของการเลือกซื้อเป็นรายตัวมากกว่าอยู่เช่นเดิม และยังเป็นแรงซื้อในหุ้นตัวเดิมๆ ที่ขยับขึ้นมาพอสมควรแล้วด้วย ในส่วนของหุ้นหลักๆ ของตลาดโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานแทบจะยังไม่ได้ขยับขึ้นไปไหน และกลับมีแรงขายทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย ทำให้ FSS คาดว่าแม้ว่าโอกาสของการที่จะยังมีแรงซื้อเข้ามาเลือกรับหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/53 จะดี หรือหุ้นที่คาดว่าจะมีปันผลระหว่างกาล แต่แนวโน้มที่ภาพรวมของตลาด โดยเฉพาะในส่วนของ SET INDEX ที่จะมีกรอบการขึ้นที่จำกัดมากขึ้น และมีโอกาสของการที่จะเปลี่ยนไปเป็นปรับตัวลงแทนมีความเป็นไปได้สูงมากขึ้น ขณะที่ Upside ของตลาดเมื่อเทียบกับดัชนีเป้าหมายที่ฝ่ายกลยุทธ์ของเราประเมินไว้สำหรับปีนี้ที่ 860 จุดนั้นก็ถือว่าเหลืออยู่ไม่มากแล้ว ทำให้ความน่าสนใจของการเข้าซื้อจากบริเวณนี้มีน้อยลงไปด้วย ทำให้เราคาดว่า SET จะเริ่มเน้นหนักไปทางแกว่งทรงตัวมากกว่าที่จะขึ้นต่อได้ และสุดท้ายยังมีแนวโน้มที่จะลดระดับลงไปแถว 800 จุดหรือใกล้เคียงได้ด้วย
กลยุทธ์: ยังแนะนำให้ทยอยขายทำกำไรต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นที่ราคาตลาดขยับขึ้นมาแรงมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา จากนั้นเน้นถือเงินสดไว้ก่อน ส่วนหุ้นที่ยังพอมีจังหวะลุ้นขยับขึ้นได้บ้างในช่วงนี้ ได้แก่ KBANK, ROJNA, MCOT, SSI, TSTH, TKS, BECL, BCP, PDI และหุ้นในกลุ่มรับเหมา เป็นต้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
§ มูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ส่งออกเดือน มิ.ย. 1.8 หมื่นล้านบาท +46%Y-Y, +9%M-M ดีกว่าตลาดมาก เป็นการเติบโต Y-Y สูงสุดในรอบ 18 ปี และเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สินค้าส่งออกที่เติบดีต่อเนื่องทั้ง M-M และ Y-Y ได้แก่อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ยาง เครื่องจักรกล คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก ตลาดส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มได้แก่ตลาดในเอเชีย (อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้) ตลาดสหรัฐฯ และยุโรปก็เติบโตดีเช่นกัน แต่จีน (10% ของการส่งออกทั้งหมด) เริ่มชะลออย่างรวดเร็วเหลือ +1.4%M-M ข่าวนี้เป็นบวกกับ KCE, STANLY, AH, IHL, SAT, SITHAI, TUF, CFRESH
§ หลีกเลี่ยงกลุ่มปิโตรเคมี ผลประกอบการ 2Q10 ของกลุ่มนี้แย่ลงมาก Q-Q บางบริษัทอาจขาดทุนจาก Stock loss เช่น PTTAR (ขึ้นอยู่กับการบันทึกบัญชี) ที่ยังดีกว่ารายอื่นคือ PTTCH และปลายน้ำอย่าง IVL, TPC, VNT มีแนวโน้มที่นักวิเคราะห์จะปรับเป้าหมายลง ผู้ที่ยังไม่มีหุ้น ยังไม่แนะนำให้เข้าซื้อ แต่ถ้ามีและขาดทุนมาก ไม่น่าขายแล้ว ให้รอรีบาวนด์แล้วขาย
§ มีมุมมองบวกขึ้นเรื่อยๆ กับการประมูล 3G กทช. คาดว่าจะประกาศร่าง IM ในราชกิจจานุเบกษา 25 ก.ค. และประมูลในสัปดาห์ที่ 3 ของ ก.ย. ส่วนการแปร 2G เป็น License เราเชื่อว่ายากและการศึกษาไม่น่าจะเสร็จทันภายใน 1 เดือน เลือก DTAC เป็น Top pick และเก็งกำไร TRUE และเป็นบวกกับหุ้นที่เกี่ยวข้อง AIT, JTS, SAMART, LOXLEY
§ กำไรของแบงก์ดีกว่าคาด 9 แบงก์มีกำไรรวม 2.7 หมื่นล้านบาท +3% Q-Q, +27% Y-Y เราปรับประมาณการขึ้นใน BBL, KK เลือก KBANK, SCB เป็น Top pick และชอบ BBL มากขึ้น
§ พรุ่งนี้ติดตาม 1) Stress Test ของ 91 แบงก์ในยุโรปว่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้เหมือนกรณีสหรัฐฯ หรือไม่ ที่หลังประกาศผล หุ้นขึ้นทันที 2) ธปท. รายงานแนวโน้มเงินเฟ้อรายไตรมาส และอาจปรับประมาณการ GDP ขึ้นด้วย

ข่าวภายในประเทศ
นายกฯ ไฟเขียวเปิดประมูล 3G ก.ย.นี้: การพูดคุยกันระหว่างนายกฯ กับกทช. เมื่อวานนี้ นายกให้อิสระ "กทช." เดินหน้าประมูลไลเซ่นในประมาณสัปดาห์ที่ 3 ก.ย.นี้ ตามกรอบเวลาประมูลตามเดิม และคาดวันที่ 25 ก.ค.นี้ จะประกาศ IM ลงราชกิจจานุเบกษา ส่วนเรื่องการแปลงสัมปทาน 2G เป็นใบอนุญาต กทช.มีท่าทีรับในแผนและจะให้ความร่วมมือ ความเห็น: ท่าทีเห็นด้วยกับการเดินหน้าประมูล 3G น่าจะเป็นปัจจัยเชิง
บวกต่อเนื่องต่อกลุ่มมือถือ ส่วนกรณีแผนการแปลงสัมปทาน 2G เป็นใบอนุญาต มองว่าค่อนข้างยากและอาจไม่ทันเนื่องจากมีระยะเวลาศึกษาเพียง1 เดือน โดยเฉพาะประเด็นด้านกฎหมาย เนื่องจากเอกชนสามารถเลือกได้ว่าจะแปลงหรือไม่ จึงยังไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเชิงลบต่อเอกชน
คำแนะนำ:คง “Overweight” กลุ่มมือถือ โดยยังมองว่า ADVANC กับ DTAC มีความพร้อมมากสุดด้านฐานะการเงิน ขณะที่ DTAC และ TRUE มีโอกาสลดต้นทุนดำเนินงานเชิงเปรียบเทียบมากกว่า หากรวมมูลค่าเพิ่มจาก 3G ของ ADVANC, DTAC, และ TRUE ที่ 11 บาท, 7 บาท, และ 0.60 บาท เข้าไป ราคาเป้าหมายของหุ้นดังกล่าว จะเพิ่มจากเดิม 94 บาท, 43.50 บาท, และ 2.74 บาท เป็น 105 บาท, 50.50 บาท, และ 3.34 บาท ตามลำดับคงแนะนำ “Buy” ทั้ง ADVANC และ DTAC โดยเลือก DTAC เป็น Top-Pick ส่วน TRUE ยัง Rating “Sell” แม้ระยะสั้นอาจมีการเก็งกำไรมากขึ้นจากประเด็นพันธมิตรที่กลับมาอีกครั้ง
เขยเจริญลุยค้าปลีกซื้อคาร์ฟูร์หมื่นล้าน ส่ง BJC เทกโอเวอร์ สยายปีกเครือข่ายธุรกิจ BJC ประกาศสู้ศึกชิง “ห้างคาร์ฟูร์” ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าระยะยาว เชื่อใช้เงินไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท หลังล่าสุดเข้าซื้อกิจการ “มาลายากล๊าสโปรดักส์” โรงแก้วยักษ์ใหญ่มาเลเซีย ดันยอดขายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วเติบโตกว่า 20% พร้อมเดินหน้าลงทุนเวียดนาม 400 ล้านบาท ใช้ฐานขยายตลาดลาว-กัมพูชา การันตียอดขายปีนี้โต 10% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 22-07-2010)
ชายน้อยเบรกโบรกเกอร์ มองหุ้น PTTAR ร้ายเกิน PTTAR ลั่นไตรมาส 2/53 ผลประกอบการไม่เลวร้ายอย่างนักวิเคราะห์มอง เนื่องจากมาร์จิ้นโรงกลั่นยังดี แม้มาร์จิ้นอะโรเมติกส์แคบลง ราคาน้ำมันจะผันผวน เผยยังไม่สามารถประเมินรายได้ครึ่งปีหลัง เหตุมีโรงกลั่น โรงปิโตรเคมีปิดตัวลงหลายราย รวมทั้งรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจก่อน ด้านโบรกฯ มอง Q2/53 พลิกขาดทุน จากกำไร 2.3 พันล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 22-07-2010)
SYNTEC งานแน่นเอี้ยดจ่อเซ็นสัญญาอีกพันลบ. SYNTEC หุ้นรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากภาคอสังหาฯที่ฟื้นตัว ลูกค้าแน่นเอี้ยด โชว์ Backlog 6.5 พันล้านบาท บวกงานที่เพิ่งเซ็นสัญญาไปแล้วในไตรมาส 2 อีก 285 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 เตรียมเซ็นสัญญาก่อสร้างคอนโดฯใหญ่ มูลค่า 1 พันล้านบาท เบ็ดเสร็จรวม 7.8 พันล้านบาท กินยาวไปถึงปี 2555 แถมราคาหุ้นเทียบกับกลุ่มรับเหมาฯ ถือว่าราคาถูกที่สุดPER ที่ 5.64 เท่า ส่วน PBV ที่ 0.76 เท่า ให้ราคาพื้นฐาน 1.45 บาท ต่ำกว่าบุ๊คอีกต่างหาก (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 22-07-2010)
STAR ออเดอร์นอกพุ่ง ครึ่งหลังรายได้สวยหรูคลอดสินค้าใหม่ 7 รุ่น STAR ออเดอร์ตะวันออกกลางเข้าปลายปีนี้ หนุนผลประกอบการครึ่งปีหลังสวย โดยเฉพาะไตรมาส 4/53 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น “สมชัย” มั่นใจรายได้เข้าเป้า 10-15% จาก 206.42 ล้านบาท ขณะที่ยังเดินหน้าคุยลูกค้าใหม่และขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง เล็งออกสินค้าใหม่ 7-8 รุ่นในไตรมาส 3/53 เจาะตลาดระดับกลาง-บน ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 22-07-2010)
TICON ซื้อเก็งกำไรลุ้น 11.60 บาท ปีนี้ฟันกำไร 800 ล้าน โต 22% รับดิวิเดนด์ยีลด์สูง 8% “ไทคอน” เทคนิคหุ้นยังซื้อเก็งกำไรได้ ลุ้นขึ้นทดสอบแนวต้าน 11.60-12.50 บาท ส่วนงบ Q2 คาดโกยกำไร 89 ล้านบาท เพิ่ม 30% จาก Q2 ปีก่อน แต่ลดลงจาก Q1 เหตุไม่มีบุ๊ครายได้ขายโรงงาน ส่วนทั้งปีดูดีรับแรงหนุนธุรกิจยานยนต์ขยายตัว โบรกฯคาดปีนี้ฟันกำไร 800 ล้านบาท โต 22% จากปีก่อน แนะนำซื้อเป้า 13.60 บาทรับดิวิเดนด์ยีลด์สูง 8% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 22-07-2010)
IRPC อนุมัติการผลิตโพรพิลีนแสนตัน รับแผนควบรวมเลื่อนยาว แนะถือเป้าหมาย 4 บาท บอร์ด IRPC ปัดฝุ่นโครงการผลิตโพรพิลีน 1 แสนตันต่อปี มูลค่า 80 ล้านเหรียญ หลังดองมาตั้งแต่ปี 2551 แจกเอกสารมติ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดอดีตนายกฯทักษิณให้กระทรวงการคลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ TPI รับทราบ เพื่อดูรายละเอียด พร้อมศึกษาข้อกฎหมาย “ประเสริฐ” ลั่นไม่สามารถตอบได้เลยแผนควบรวมนานขนาด
ไหน โบรกฯแนะนำถือให้ราคาเป้าหมาย 4 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 22-07-2010)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ไทยรัฐ - หุ้นสหรัฐฯร่วง ดาวโจนส์ลด 109.43 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณไม่มั่นคง...
ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีปรับตัวกระจัดกระจายในช่วงแรก จากรายผลประกอบการของหลายบริษัทที่มีทั้งน่าพอใจและไม่เป็นไปตามเป้า ก่อนที่นักลงทุนจะเทขายหุ้น หลังนายเบน เบอร์นานกี ประธานเฟด จะยอมรับระหว่างให้ปากคำต่อกรรมาธิการวุฒิสภา ว่า เศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ในภาวะไม่มั่นคง แม้จะไม่ระบุอย่างชัดเจนว่าเลวร้ายถึงขั้นถดถอยอีกหรือไม่ ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 1.02 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 76.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ 10,120.53 จุด ลดลง 109.43 จุด แนสแดคปิดที่ 2,187.33 จุด ลดลง 35.16 จุด และเอสแอนด์พีปิดที่ 1,069.59 จุด ลดลง 13.89 จุด


ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา:
สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล สต็อกเบนซินพุ่ง 1.1 ล้านบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศการพลังงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 16 ก.ค.เพิ่มขึ้น400,000 บาร์เรล แตะระดับ 353.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 1.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 166.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 222.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1% แตะระดับ 91.5% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 22-07-2010)
จีน: ซินหัวเผยสต็อกน้ำมันเดือนมิ.ย.ของจีนเพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายเดือน ข้อมูลสถิติสต็อกปิโตรเลียมจีน (CPSS) ระบุว่า สต็อกมันดิบเชิงพาณิชย์ของจีน ซึ่งไม่นับรวมสต็อกในคลังเก็บน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ อยู่ที่ระดับ 28.8 ล้านตันเมื่อสิ้นสุดเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น.3 ล้านตันหรือ 4.7% จากสิ้นเดือนพฤษภาคม ขณะที่สต็อกผลิตภัณฑ์น้ำมันของจีน ซึ่งรวมถึงน้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันก๊าด อยู่ที่ระดับ17.27 ล้านตันเมื่อสิ้นสุดเดือนมิถุนายน ลดลง 330,000 ตัน หรือ 1.9% จากสิ้นเดือนพฤษภาคม (ที่มา: อินโฟเควสท์ 21-07-2010)
เอเชีย: ญี่ปุ่นคงประมาณการณ์เศรษฐกิจเดือนก.ค.ที่ระดับเดิม หลังศก.ในปท.ส่งสัญญาณชะลอตัว รัฐบาลญี่ปุ่นคงประมาณการณ์เศรษฐกิจรายเดือนไว้ที่ระดับเดิมในเดือนนี้ ระบุการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศขาดปัจจัยหนุน ขณะที่สหรัฐเผชิญความเสี่ยงในช่วงขาลงและยุโรปประสบปัญหาหนี้สาธารณะ คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุในรายงานการประเมินเศรษฐกิจประจำเดือนก.ค.ว่า "แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะเริ่มกระเตื้องขึ้นและมีปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน แต่เศรษฐกิจยังเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายในส่วนของอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง" (ที่มา: อินโฟเควสท์ 21-07-2010)
เอเชีย: รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมชะลอการใช้นโยบายกระตุ้นตลาดอสังหาฯ รัฐบาลเกาหลีใต้จะชะลอการประกาศใช้นโยบายกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในภาวะที่ซบเซา หลังจากที่กระทรวงต่างๆยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องนโยบายดังกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ชุง จอง-ฮวาน รัฐมนตรีกระทรวงที่ดิน ขนส่ง และกิจการทางน้ำของเกาหลีใต้ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า หลังจากที่ได้หารือเกี่ยวกับนโยบายตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน เช่น นโยบายหนี้ต่อรายได้ และมาตรการทางภาษีต่างๆแล้ว ที่ประชุมเห็นว่า ควรจะมีการทบทวนผลพวงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้นโยบายดังกล่าวมากขึ้น (ที่มา: อินโฟเควสท์ 21-07-2010)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น