Code 110 : HSKI ไม่เป็นใจ คงยังไม่ชน 820

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2553

ATT Code : HSKI ไม่เป็นใจ คงยังไม่ชน 820
มีหลายสาเหตุที่ทำให้ SET ยังคงไม่ชน 820 โดยสาเหตุหลักคือ ต่างชาติชะลอลงทุนหลังรัฐต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ.--รอยเตอร์
*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังไม่เข้ามาลงทุนอย่างเต็มที่ หลังจากรัฐบาลได้ต่ออายุการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับทรงตัว จึงทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานยังเคลื่อนไหวได้ไม่มาก
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกในวันอังคาร โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 0.59% แต่แรงซื้อที่แข็งแกร่งได้ลดลงในช่วงบ่าย ขณะที่แนวโน้มตลาดยังคงซบเซา
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดวานนี้ร่วงลง 16 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 71.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 810 และแนวต้านที่ 820


"ดัชนีวันนี้มีสิทธิที่ขึ้นไปทดสอบที่ 820 ซึ่งเป็น high เดิมของเดือนเมษาฯ โดย มีแรงซื้อในกลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มแบงก์หนุน แต่คงจะยืนที่ 820 ไม่อยู่ เพราะน่าจะมีแรง ขายทำกำไรออกมา ดังนั้นวันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ"นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าว เขากล่าวว่า สาเหตุที่มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ เนื่องจากเก็งกำไรในผลประกอบการ ไตรมาส 2/53 ที่ใกล้จะประกาศ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะออกมาดี ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มองว่าราคายังปรับตัวขึ้นไม่มาก รวมถึงหุ้นหลายตัวในกลุ่มดังกล่าว ยังซื้อขายในระดับ ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี


นายเกียรติก้อง กล่าวว่า นักลงทุนในประเทศอาจจะขายทำกำไรออกมา หลังจาก ที่วานนี้ดัชนีปรับขึ้นแรง ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยบวกจากภายนอกที่ชัดเจน ขณะที่ปัจจัย ภายในประเทศ การที่รัฐบาลให้ต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป ทำให้นักลงทุนต่างชาติ ยังไม่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างเต็มที่ เขากล่าวว่า นอกจากนี้การที่ราคาน้ำมันดิบ ยังอยู่ในระดับทรงๆตัว ทำให้หุ้นกลุ่ม พลังงาน ซึ่งที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ ราคาหุ้นไม่เคลื่อนไหวมากนัก ดัชนีในวันนี้ จะมีแนวรับที่ 810 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 820

สุดท้าย SET ก็ปิดตลาดไม่ไปชน 820 ตามคาด โดยไป High ที่ 818.33 และกลับมาปิด - 0.84 จุด ที่ 814.68 เจอแรงขายทำกำไรจากที่เมื่อวานขึ้นมาเยอะผิดคาด และตลาดเอเซียและยุโรปก็ยังอยู่ในแดนลบอยู่ ทำให้ปัจจัยเหล่านี้ยังกดดันตลาดหุ้นไปมีการย่อลงมานิดหน่อย แต่ก็ยังไม่เสียรูปเท่าไหร่ แต่พรุ่งนี้ก็คาดว่าน่าจะยังออก Side way ออกไปก่อน เพราะยุโรปและ DJIA ยังยืนอยู่ในแดนลบอยู่ โดยมีแนวต้านที่กลายเป็นแนวรับที่ 808-810 และแนวต้านที่ BB TOP อยู่ระหว่าง 820-822 จุด

---------------------------------------------------------------------------------
HighLight
SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ ภาวะตลาด
ไต่ระดับขึ้น
เข้าเทรดดิ้งเป็นรายตัวต่อเนื่อง แต่ที่ระดับ 820 จุดขึ้นไปควรชะลอการเข้าซื้อ..
ถ้ายืนเหนือ 810 ให้ซื้อเก็งกำไร
ปัจจัยขับเคลื่อนตลาดยังดูมีทั้งบวกและลบคละกัน (mixed)
เล่นกลุ่มในประเทศอีก

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ เทคนิค
Technical Analysis
ระยะสั้นถ้าดัชนียืนเหนือ 810 จุดซื้อเก็งกำไร ต่ำกว่า 805 จุดขาย
Technical Picks
Stock Tips

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์
กลุ่มธนาคาร
ระยะสั้นถ้าดัชนียืนเหนือ 800 จุดซื้อเก็งกำไร ต่ำกว่า 795 จุดขาย
ถ้ายืนเหนือ 805 ให้ซื้อเก็งกำไร
แกว่งตัวในกรอบแคบ
SCB - ซื้อ-แนวโน้มสินเชื่อเติบโตแข็งแกร่ง

SETTRADE.COM : บทวิเคราะห์ หุ้นรายตัว
PTTEP - คาดการณ์ผลประกอบการ ไตรมาส 2/53: กำไรเพิ่ม 35.2% YoY

Bangkok Biznews : การเงิน - การลงทุน
'ประสาร'แนะ3แนวทางปฏิรูปการเงินเพื่อสังคม
'ประสาร'คาดดอกเบี้ยอาร์พีแตะ2% ในสิ้นปี
ทองร่วง200บ. รูปพรรณวันนี้ขายออก18,850
ตลาดหุ้นไทยมีลุ้นขาขึ้น ระวังแรงขายทำกำไร
บาทเปิดตลาด32.43 แนวโน้มแข็งตามภูมิภาค

RYT9.com : ข่าวหุ้น-การเงิน
TOPICS TODAY: ศาลนัดคู่กรณีคดียุบปชป.กรณีเงิน 29 ลบ./ DSI นำตัวอ้อ-อ้ายฝากขังผลัดแรก
THAI บวก 1.75% โบรกฯแนะซื้อเก็งกำไรมองธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มฟื้นขึ้น
BJC พุ่ง 23.70% หลังตกเป็นข่าวสนใจซื้อกิจการห้างคาร์ฟูร์ในไทย
ตลท.สั่ง NIPPON ชี้แจงกรณีอดีตกรรมการนำเงินบริษัทออกไปเพิ่มเติม
กูรูแนะตุนหุ้นรอรับปันผล ลดความเสี่ยงช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

KELive วิเคราะห์ภาพรวม
SBL_TOP (07/07/10)
หยิบเงิน หยิบทอง (07/07/53)

KELive วิเคราะห์รายหุ้น
RCL (15.40 บาท : ซื้อ) ปี 2553 พลิกกลับมามีกำไรครั้งแรกหลังขาดทุนติดต่อกัน 2 ปี
PS (19.00 บาท : ซื้อ) ยอดขายไตรมาส 2/53 ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท
Derivatives Today (07/07/10)
Gold Futures Today (07/07/10)

Norsorpor.com : เศรษฐกิจ
ยอดใช้น้ำมันพุ่งหลังวิกฤติคลี่คลาย
ฟอร์ดเปิดผลิต เฟียสต้า
ราคาน้ำมัน ช่วงครึ่งปีหลัง
ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินฉุดเชื่อมั่นดิ่ง
อุตฯเร่งหาน้ำตาลป้อนตลาดเพิ่ม ห่วงยิ่งปล่อยช้าราคาจะยิ่งแพง

----------------------------------------------------------------------------------
Efinance : รัฐคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินทำ Fund Flow สะดุด!

หวั่น Fund Flow สะดุด หลัง ครม. มีมติคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่ออีก 19 จังหวัดจาก 24 จังหวัดในระยะเวลา 3 เดือน ให้เหตุผลเพราะยังมีขบวนการใต้ดินเคลื่อนไหวอยู่ แต่จังหวะนี้ไม่มีผลต่อนักลงทุนไทยในประเทศ กลับมองทางบวก มั่นใจนโยบายนี้คุมสถานการณ์การเมืองได้ราบรื่นขึ้น เล็งเลือกซื้อหุ้นรับผลงาน Q2/53 แจ่มจรัส


ไทยรัฐ - ยอดใช้น้ำมันพุ่งหลังวิกฤติคลี่คลาย
ยอดใช้น้ำมันเดือน มิ.ย.พุ่ง อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ชี้สถานการณ์บ้านเมืองปกติ ทำกลไกเศรษฐกิจดีขึ้น คาดแนวโน้มการใช้น้ำมันใน 6 เดือนหลัง จะขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจ

----------------------------------------------------------------------------------
ตัวเลขเช้านี้ 7/07/53
ข้อมูลอื่นๆ ......SET ปิดที่ 815.52 จุด +11.49 จุด High 815.52 จุด low 803.41 จุด......แนวรับ 812-808 // 804 จุด แนวต้าน 820-830 // 840 จุด......PE SET 12.74 เท่า.........สัดส่วนการซื้อขาย ฝรั่งซื้อ 508.58 ล้าน กองทุนขาย 519.17 ล้าน….......โบรกเกอร์ ที่ net buy CS 904, KSEC 563, ASP 336, JPM 174 และ PST 125………..โบรกเกอร์ที่ net sell TNS -789, PHATRA -583, MACQ -225, TSC -188 และ BLS -185........TFEX SET50 ปิดที่ 559.77 จุด +9.02 จุด.......S50U10 ปิดที่ 556.70 จุด +9.30 จุด .... high 557.00 จุด low 545.00 จุด OI 19,472 ….......status futureวานนี้ Foreign net SHORT 831 - Fund net LONG 734 - Retail net LONG 97........ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJ ปิด +57.14 จุด….ยุโรปปิด +2 ถึง +3% ......ตลาดเอเซียเช้านี้ 9.20 น. NIX -82.10 จุด, HSKI -213.53 จุด, TWSE -2.18 จุด, KOSPI -6.18 จุดและ SHCOMP -2.23 จุด.....ดาวโจนส์ในตลาดล่วงหน้า -38 จุด........ค่าเงิน - เงินบาท 32.44…เงินเยน 87.48……...COMODITY.... น้ำมัน NYMEX ส่งมอบ ส.ค. ปิดที่ 71.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล -0.16 ดอลล์........ค่าการกลั่น 4.01 ดอลล์.......ทองคำ COMEX ปิดที่ 1195.10 เหรียญ -12.60 ดอลลาร์......BDI ปิดล่าสุดอยู่ที่ 2127 จุด -89 จุด ….. ราคาสังกะสีในตลาด LME ล่วงหน้า 3 เดือนปิดล่าสุดที่ 1850.00 ดอลลาร์ต่อตัน +43.00 ดอลล์
สินค้าเกษตร...ราคาตลาดจริง (หน่วย : บาท/ กก.) ….ข้อมูลจาก WEB Site ของ AFET (www.afet.or.th)
ราคาประมูลยางแผ่นรมควันชั้น 3 (6/07/10) Hatyai A.M. 107.20 บ. -0.14 บ. // FOB.BKK 112.85 บ. ไม่ ปป.
ราคาข้าวขาว 5% (6/07/10) 13.42 บ. -0.03 บ.
ราคาข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 (6/07/10) 29.15 บ. ไม่เปลี่ยนแปลง

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
7 กค .53 ( +11.49 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่น่าเกิน 816 - 821 จุด
แนวโน้มในวันพุธนี้ ดัชนีไม่น่าจะปรับตัวขึ้นไปได้เกิน 816 – 821 ใกล้จุดสูงสุดเดิมของปีนี้และ เนื่องจากการเกิดสัญญาณ Stochastic Overbought & Bearish Divergence ในภาพระยะวัน ที่ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น แต่เครื่องมือทางเทคนิคดังกล่าวไม่ได้ปรับตัวขึ้นตาม ดังนั้นตลาดมีความเสี่ยงพร้อมปรับตัวลงทุกเมื่อ โดยเฉพาะการปรับตัวลงต่ำกว่า 803.41 จุดต่ำสุดของวันอังคาร และเส้นค่าเฉลี่ย 25 ชั่วโมง จะถือเป็นสัญญาณการปรับตัวลงของตลาด โดยดัชนีจะมีเป้าหมายในการปรับตัวลงสำหรับภาพเดือน กค. นี้ บริเวณ 730 – 750 จุด ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์ต่อไป

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-มีหุ้นดีๆมาแจก!!

ดัชนีหุ้นวันที่ 6 ก.ค.53 ปิดที่ 815.52 จุด เพิ่มขึ้น 11.49 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 28,452.42 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 508.58 ล้านบาท

ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ มองแนวโน้มตลาดระยะสั้นว่า ดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อหลังดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ตลาดหุ้นนิวยอร์กสดใส โดยคาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มอื่นนอกเหนือจากกลุ่มแบงก์และอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดว่าหุ้นพลังงานน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ หลังอ่อนตัวลงในช่วงที่ผ่านมา

กลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำหุ้นแบงก์และพลังงานที่เริ่มสร้างฐานได้ทั้ง PTT และ PTTEP ซึ่งในระยะยาวยังมีความน่าสนใจ

ปิดท้ายงานสัมมนาเจาะกลยุทธ์การลงทุนหุ้นไตรมาส 3 "วชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย" จาก บล.ทรีนีตี้ แนะลงทุนหุ้นที่มีความปลอดภัย ประกอบกับเป็นช่วงที่มีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับหุ้นที่แนะนำกลุ่มอาหาร ได้แก่ TVO, CPF หุ้นบันเทิง เชียร์ MCOT ส่วนสื่อสารยกให้ ADVANC หุ้นแบงก์ต้อง BBL กลุ่มพลังงานยกให้ GLOW นอกจากนี้ ยังแนะหุ้นกลุ่มยานยนต์, เดินเรือ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แถมท้ายหุ้นรายตัว อย่าง ROJNA, MAJOR และ TPIPL

ขณะที่ "สุกิจ อุดมศิริกุล" จาก บล.ไทยพาณิชย์ ประเมินหรูว่า ดัชนี ปีนี้มีโอกาสปรับขึ้นไปที่ระดับ 900 จุดได้ แม้ต่างชาติยังกังวลและไม่ มั่นใจต่อสถานการณ์ทางการเมือง แต่ราคาหุ้นไทยยังถูกและจ่ายปันผลดี

ทั้งนี้ ไตรมาส 3 แนะเล่นหุ้นปลอดภัยจากความผันผวนของเศรษฐกิจ โดยระยะสั้นเดือน ก.ค.นี้ แนะนำให้ลงทุนหุ้น TCAP, TISCO และ KBANK รวมถึง KTB นอกจากนี้ยังเชียร์ให้ซื้อ CPALL เมื่อราคาอ่อนตัว รวมทั้งหุ้น ADVANC และ MINT

ด้าน "เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม" จาก บล.เอเซียพลัส ชี้ไตรมาส 3 เป็นจังหวะทยอยซื้อหุ้นเพื่อการลงทุนระยะยาว โดยแนะหุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตราสูงแต่ราคายังต่ำ โดยเน้นที่ทำธุรกิจในประเทศ หรือ Domestic Play โดยเชียร์ PS และ LH สุดใจ ส่วนที่เหลือทั้ง SPALI, MK และ LPN ยังลงทุนได้ ส่วนหุ้นกลุ่มอื่น คือ SEAFCO, TASCO และ SHIN

ปิดท้าย บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ยังเปิดโผ 7 หุ้นเด่นที่จะ จ่ายปันผลงวดครึ่งปีแรกที่ดีที่สุด และแนะนำลงทุนนำขบวนโดย SHIN, BCP, TPC, MK, ADVANC, KK และ LH ส่วนเหตุผลสนับสนุนไปขอบทวิเคราะห์มาพินิจพิเคราะห์ทำการบ้านกันเองนะ!!

FSS : เข้าเทรดดิ้งเป็นรายตัวต่อเนื่อง แต่ที่ระดับ 820 จุดขึ้นไปควรชะลอการเข้าซื้อ..
แนวโน้ม:
ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกยังอยู่ในลักษณะแกว่งตัวผันผวนเป็นระยะๆ โดยช่วงนี้ FSS คาดว่าประเด็นการทำ Stress Test ในยุโรปช่วงปลายเดือนนี้ จะเป็นปัจจัยที่นักลงทุนจับตาดูเป็นพิเศษ ซึ่งก่อนที่ผลสรุปจะออกมาคาดว่าประเด็นนี้จะยังทำให้ตลาดหุ้นแต่ละประเทศแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง แต่จากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศในบ้านเราที่ยังสลับกันเข้าซื้อ-ขายเป็นช่วงๆ รวมทั้งเข้าสู่ช่วงการเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/53 จะออกมาดี และหุ้นที่คาดว่าจะมีการจ่ายปันผลงวดระหว่างกาล น่าจะยังเป็นแรงผลักดันให้ SET อยู่ระหว่างการแกว่งตัวขึ้นได้อยู่ โดยเรายังมองว่าโอกาสที่ SET จะแกว่งไต่ระดับขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 820 จุด และลุ้นสูงกว่าได้นั้น ยังมีความเป็นไปได้อยู่ แต่มองว่าตลาดหุ้นไทยจะขยับขึ้นจากการเลือกหุ้นเข้าซื้อเป็นรายตัวมากกว่าที่จะมีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาที่หุ้นหลักส่วนใหญ่ของตลาด ดังนั้นจึงยังเน้นเลือกหุ้นเข้าเทรดดิ้งเป็นรายหลักทรัพย์เช่นเดิม อย่างไรก็ตามเราคาดว่าแรงกดดันจากผลของการทำ Stress Test ในยุโรป อาจทำให้หลังจากดัชนีขยับขึ้นไปสูงกว่า 820 จุดแล้วจะมีแรงขายกดดันให้ตลาดปรับพักตัวรอบใหญ่ได้ ดังนั้นควรชะลอการเข้าซื้อเมื่อ SET สูงกว่า 820 จุดและเปลี่ยนมาเป็นถือเพื่อรอขายมากกว่าด้วย
กลยุทธ์: จังหวะตลาดปรับตัวลงยังสามารถเลือกหุ้นเข้ารับเป็นรายตัว เพื่อลุ้นรอขายทำกำไรเมื่อตลาดแกว่งขึ้นอีกครั้งได้ แต่ควรเริ่มชะลอการเข้าซื้อในหุ้นที่มีราคาขยับตัวขึ้นมาแรงแล้ว โดยให้เน้นเป็นถือเพื่อรอหาจังหวะขายทำกำไรมากกว่า ส่วนหุ้นที่ยังน่าสนใจ ได้แก่ BBL, KBANK, KTB, KK, TCAP, PHATRA, ROJNA, KH, PDI, TVO, LST, HANA, BECL, TSTH, ESSO, PTTCH เป็นต้น
1 ประเด็นสำคัญวันนี้
§ Carrefour เล็งขายกิจการในไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดย Carrefour ดำเนินกิจการในไทยกว่า 14 ปี มี 45 สาขา ตามข่าวระบุว่ามูลค่าการขายอาจอยู่ที่ US$500-600 ล้าน และอาจมีกลุ่มทุนที่ไม่ใช่ค้าปลีกสนใจซื้อกิจการด้วย เราเห็นว่าผู้ที่จะซื้อกิจการ Carrefour มีความเป็นไปได้ตั้งแต่ Tesco Lotus, BIGC และ BJC แต่ถ้าพูดถึงความพร้อมทางการเงิน BIGC มีภาษีดีกว่า BJC เพราะเงินสดในมือมีมากกว่า ถ้าใช้เงินสดบางส่วน กู้บางส่วน D/E ของ BIGC เพิ่มขึ้นแต่ไม่เกิน 2 เท่า ขณะที่ BJC อาจพุ่งขึ้นไปถึง 2.3 เท่า แต่ตราบใดที่ยังไม่มีความชัดเจนเท่ากับเปิดโอกาสในการเก็งกำไรซึ่งที่ผ่านมาตลาดเก็งกำไร BJC มามากแล้ว ขณะที่ BIGC ก็มีพื้นฐานดีแต่ราคาหุ้น laggards เราจึงแนะนำเก็งกำไร BIGC
§ SCIB จะ delist จากตลาดฯ เดือน พ.ย. นี้ TBANK จะทำ Tender offer SCIB ครั้งที่ 2 เพื่อเพิกถอนจากตลาดฯ เบื้องต้นน่าจะทำคำเสนอซื้อเสร็จสิ้นเดือน ต.ค. นี้ และทำการเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากตลาดฯ ในเดือน พ.ย. ที่ราคา 32.50 บาท/หุ้น นักลงทุนที่ยังถือหุ้นอยู่จนถึงปัจจุบัน หรือลืมทำคำเสนอซื้อในครั้งแรก ให้รอทำ Tenderหรือ switch เป็น TCAP (ราคาเหมาะสม 34 บาท) ส่วนผู้ที่ไม่มีหุ้น ไม่แนะนำให้ซื้อ เพราะมี upside เพียง 2.4% ไม่จูงใจเท่าแบงก์อื่นซึ่งมีความน่าสนใจมากกว่า
§ แนวโน้ม Fund Flow จะยังคงเบาบางเช่นนี้อีกระยะหนึ่ง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่กระทบตลาด อย่างไรก็ตามค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมาอยู่ที่ 1.26 ดอลลาร์/ยูโร หลังธนาคารกลางยุโรปออกมาบอกว่าหลายธนาคารในยุโรปแข็งแกร่งและจะผ่านการทดสอบภาวะวิกฤติ(Stress Test) ที่จะประกาศในวันที่ 21 ก.ค นี้ จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ราคาทองอาจปรับลงอีก ส่วนเช้านี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.43 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวเมื่อเทียบกับวานนี้

ข่าวภายในประเทศ
กลุ่มมือถือ: กทช.ออกร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประมูล 3G (IM) ฉบับปรับปรุง วันที่ 6 ก.ค.10 เวลา 13.27 น. เพิ่มในส่วนเงื่อนไข ก่อนรับใบอนุญาต เกี่ยวกับการส่งคืนคลื่นความถี่ โดยให้ผู้ชนะประมูลรวมถึงผู้ที่มีความเกี่ยวโยง ขออนุมัติแผนการส่งคืนคลื่นความถี่เดิม (2G) ต่อกทช. ก่อนที่จะนำคลื่นความถี่ 3G ที่ได้รับจัดสรรใหม่ออกให้บริการ และจัดส่งคลื่นความถี่เดิมตามที่ได้รับอนุมัติให้แก่ TOT หรือ CAT
ความเห็น: การเพิ่มเงื่อนไขดังกล่าว เราเข้าใจว่าเพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น ว่าการส่งคืนคลื่นความถี่เดิม จะเกิดขึ้นหลังหมดสัมปทาน 2G เดิม จากร่าง IM เดิม ที่ระบุแต่การส่งคืนคลื่นความถี่ ซึ่งอาจเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้มีการขายทำกำไรหุ้นมือถือเมื่อวาน นอกจากราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาที่ ปรับขึ้นค่อนข้างเร็ว และคาดรมว.ICT จะมีการสรุปประเด็นการแก้ไขสัญญาสัมปทานมือถือและดาวเทียมในอดีต ในวันนี้ (7 ก.ค.) << จากคาดเดิม กทช.จะสรุปร่าง IM ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 15-20 ก.ค.นี้ และวันประมูล 3G จะเลื่อนไปเป็นประมาณ 15-20 ก.ย.10 โดยมีปัจจัย เสี่ยง เนื่องจากใกล้ช่วงเร็วสุดหากร่างพ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ฯ และความเห็นของรัฐบาลเรื่องการแปรสัมปทานก่อนการประมูล คำแนะนำ: ราคาหุ้น ADVANC 2 วันที่ผ่านมา ลดลง 3% ขณะที่ DTAC ปรับขึ้น 2.5% ที่ราคาปัจจุบัน มี Upside 8% และ 2% ตามลำดับ แต่ระยะสั้น จาก ประเด็นเชิงบวกความคืบหน้าของกทช.ในการประมูล 3G แนะนำเชิง “Trading Buy”

BCP ครึ่งปีแรกปันผล 65 สต. “อนุสรณ์” ยันครึ่งหลังสดใส BCP ตีโค้งสวยลุ้นครึ่งแรกจ่ายปันผล 65 สตางค์ ยีลด์สูง 4.74% “อนุสรณ์” มั่นใจ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น หนุนค่าการกลั่นสูงกว่า 5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ได้เห็น Stock gain แน่นอน ย้ำนักลงทุนเชื่อมั่น การดำเนินงานยังเจ๋ง ประเมินราคาน้ำมันทรงตัว 75-76 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 7-07-2010)

CPALL ปันผลพิเศษกำไรหุ้นเจียไต๋ 4 พันล. รับสองเด้งรวม2.23บ.เป้าหมาย 36.25บาท CPALL เตรียมจ่ายปันผลพิเศษ 0.89 บาทต่อหุ้น หลังรับรู้ผลกำไรจากการขายหุ้นบุริมสิทธิ แปลงสภาพในเจียไต๋หรือ CTEI รับเงินสด 4 พันล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลสูงกว่าปี 2552 ถึง 79% พร้อมบุ๊คไตรมาส 3 ปีนี้ ดันให้ปันผลรวมปีนี้พุ่งจาก 1 บาทเป็น 1.34 บาทต่อหุ้น เท่ากับรับสองต่อรวมปันผลธรรมดากับปันผลพิเศษคิด เป็น 2.23 บาทต่อหุ้น หนุนกระแสเงินสดดีขึ้นกำไรปีนี้เติบโต 23.8% ราคาเป้าหมายปีนี้พุ่ง 36.25 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 7-07-2010)

SIRI สวยทุกสัดส่วนเป้าหมาย 9.40 บาท SIRI น่าเล่นราคาหุ้นต่ำบุ๊คแวลู 7 บาท ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ผลประกอบการปีนี้ดีกว่าปีก่อน “เศรษฐา” ย้ำครึ่งแรกยอดขาย-รายได้แจ่ม ครึ่งแรกยอดทะลัก 10,000 ล้านบาท ครึ่งหลังเล็งเปิดโครงการใหม่ 30 โครงการ โบรกฯเชียร์ SIRI น่า ซื้อเหตุยอดกำไรทั้งปีโตอีก 1.7 พันล้านบาท แถมพีอีต่ำสุดในกลุ่ม แบ็กล็อกสูงสุด 1.6 หมื่นล้านบาท อัพไซด์กว่า 66% ราคาเป้าหมาย 9.40 (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 7-07-2010)

UVหุ้นเด่นจิ๋วแต่แจ๋ว! กำไรปรี๊ดมีอัพไซด์ 60% UV หุ้นเล็กที่กลายเป็นดาวเด่นของกลุ่มอสังหาฯ ประเมินปีนี้กำไรพุ่ง 430 ล้านบาท สูงสุดใน รอบ 5 ปี หลังกำไรแค่ไตรมาสแรกทุบสถิติงบพุ่งสูงกว่าทั้งปี 51-52 งานนี้ดันมูลค่าทางบัญชี (BV) ปลายปี'53 พุ่งจาก 2.58 บาท เป็น 3.37 บาท ส่วนธุรกิจสังกะสีออกไซด์ดันกำไรพุ่ง ราคาพื้นฐานเหมาะสม 4 บาท อัพไซด์ 60% แถมราคาหุ้นยังต่ำบุ๊คอีกต่างหาก (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 7-07- 2010)

ไอเอ็นจีขอซื้อ TMB ตามข้อตกลงที่ 5% คลังยันราคา 3 บาท ประธานบอร์ดทหารไทยเผยไอเอ็นจีขอเจรจาซื้อหุ้นTMB 5% แรกตามสัญญา ก่อน ที่เหลืออีก 21% เจรจาล็อตหลัง ด้านปลัดส่งสำนักรัฐฯไปศึกษาข้อดีข้อเสีย และตีราคา ก่อนเสนอ “กรณ์” ตัดสินใจ ด้านพันธมิตรใหม่มีสิทธิ์ สูงหากคลังต้องการขายยกล็อต ส่วนราคาขายคาดใกล้เคียง 3 บาทต้นทุนของคลังหลังจากเพิ่มทุนหลายรอบ ด้านโบรกฯเชียร์หุ้นกลุ่มแบงก์ ทหาร ไทยติดโผผลประกอบการไตรมาสสองดี (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 7-07-2010)

ออฟฟิศเมทไอพีโอไม่เกิน 5.20 บาทมั่นใจเข้าเทรดตลาด mai ปลายก.ค. “ออฟฟิศเมท” เคาะราคา IPO สัปดาห์หน้า คาดขายไม่เกิน 5.20 บาท ให้ส่วนลด 10-20% เปิดจองน่าจะเป็นวันที่ 14-16ก.ค. มั่นใจเข้าเทรด mai ได้ปลายเดือนก.ค.นี้ หวังระดมทุน 100 ล้านบาทขยายธุรกิจและ ชำระหนี้เงินกู้ “วรวุฒิ” ตั้งเป้าปีนี้ยอดขายโต 15-20% แตะ 1,000 ล้านบาท รุกเพิ่มฐานลูกค้าภาครัฐ พร้อมขยายตลาดต่างประเทศ (ที่มา: นสพ. ข่าวหุ้น 7-07-2010)

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา:
สหรัฐเผยดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย.ขยายตัวในอัตราที่ช้าลง สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ภาคบริการเดือนมิ.ย.ของสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ช้าลง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาคบริการอาจจะชะลอตัวลงอีกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้ ดัชนีภาค
บริการและกิจกรรมทางธุรกิจเดือนมิ.ย.ขยายตัวที่ระดับ 53.8 จุด ซึ่งแม้ว่าดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดจะบ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงมีการขยายตัว แต่ดัชนีเดือนมิ.ย.ขยายตัวในอัตรที่ช้าลงเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.ที่มีการขยายตัว 55.4 จุด และต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ 67.7 จุดของเมื่อปี 2547 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-07-2010)
สหรัฐอเมริกา: ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ เหตุวิตกเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวช้า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่ขยายตัวในอัตราที่ช้าลง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง
หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 07-07-2010)
เอเชีย: ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ย 6.5% ในการประชุมวันนี้ (6 ก.ค.) ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 6.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 สวนทางกับธนาคารกลางไต้หวัน อินเดีย และมาเลเซีย ที่ตัดสินใจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยโดยพิจารณาจากเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวแข็งแกร่ง มากกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวรวดเร็วขึ้น ธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดการณ์ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจะปรับตัวขึ้นใกล้กับตัวเลขที่ประมาณการไว้ที่ 5.5 - 6% ในปีนี้ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 06-07-2010)
เอเชีย: IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ปีนี้เป็น 5.75% กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเกาหลีใต้ เป็นขยายตัว 5.75% ในปีนี้ จากระดับเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 4.5% เนื่องจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่สถานการณ์ด้านการค้าทั่วโลกก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น IMF ยังคาดการณ์ด้วยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปีหน้า จะ
อยู่ในระดับปานกลางที่ 5% โดยการปรับเพิ่มคาดการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการปรับเพิ่มคาดการณ์ครั้งล่าสุดสำหรับเศรษฐกิจเกาหลีใต้ และสอดคล้องกับที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้คาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 5.8% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 06-07-2010)

----------------------------------------------------------------------------------

2 ความคิดเห็น:

  1. อ่านเว็บนี้แล้วไม่ต้องไปอ่านหนังสือพิมพ์เลย
    ข้อมูลดีๆเยอะแยะเลย

    ขอบคุณมากนะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ7 กรกฎาคม 2553 เวลา 23:05

    มาทักทายครับพี่อรรถ ^ ^ ผมยังไม่มี Blog แต่มีอะไรก็จะโพสต์ใน FB ถ้าพี่มี FB ก็ Add ผมเข้ามาด้วยนะพี่ จะได้ทักทายกันง่ายขึ้น http://www.facebook.com/#!/?ref=home

    ตอบลบ