Code 332 : ฝรั่งยังขายต่อ เกือบ 4 พันล้าน

วันอังคารที่ 11 มกราคม 2554

ATT Code : ฝรั่งยังขายต่อ เกือบ 4 พันล้าน
มีแนวรับอยู่ 1004 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1026... ถ้ามองในแง่ดี ก็เริ่มขายน้อยลง และสถาบันก็แทบไม่ได้ขายแล้ว... มีโอกสาที่จะ Rebound ไปที่ 1020 จุด ได้อยู่
----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
11 มค. 54 ( -18.42 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

Intraday - กรอบ 1008 - 18
แกว่งตัวในกรอบ 1008 - 18
เกิน 1020 ขึ้น 1026 - 32
แต่ถ้าต่ำกว่า 1007.78 จุดต่ำสุดเมื่อวาน ลงต่อ 986 - 996

--------------------------------
มีโอกาสดีดตัวขึ้น “ชั่วคราว”
Stochastic อยู่ใน “เขตขายมาก” ภาพระยะชั่วโมง ดังนั้น ดัชนีในวันอังคารถึงพุธนี้พอจะมีโอกาสดีดตัวขึ้น “ชั่วคราว” แถว1026 – 32 ใกล้จุดสูงสุดของวันจันทร์

จากนั้น ดัชนีมีโอกาสปรับตัวกลับลงมาแถว 1007 – 10 ใกล้จุดต่ำสุดของวันจันทร์อีกครั้ง และ น่าจะใช้ระยะเวลาอีกหลายวัน แกว่งตัวย่ำฐานในกรอบ 1007 – 32 จุด

ขณะที่แนวโน้มหลักของตลาด ยังคงเป็น“ขาลง” มีเป้าหมาย 900 – 940 จุด สำหรับภาพไตรมาสหนึ่งปีนี้

หุ้นเด่น
TOP
Stochastic Bullish Divergence ภาพระยะชั่วโมง ทยอยซื้อแถว 71.00 – 71.75 หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 72.25 จุดสูงสุดวันจันทร์ เวลา 16.00 น. เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน73.75 – 74.75( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 70.50 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
SCB เกิน 100 ขึ้น 101 - 103
TRUE แกว่งตัว 6.70 – 7
PTT เกิน 319 ขึ้น 322 - 325
IVL ต่ำกว่า 47.50 ลง 45 - 46
TOP รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
BANPU ต่ำกว่า 800 ลง 760 – 780
BBL ต่ำกว่า 156 ลง 145 – 150
PTTEP ต่ำกว่า 155 ลง 140 – 145
IRPC ไม่น่าเกิน 6.20 – 6.30
KBANK ไม่น่าเกิน 127 – 129

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ยังทยอยค่อยๆ เข้ารับเมื่อ SET ปรับลงได้ แต่ต้องระวังแกว่งผันผวนบ้าง..
แนวโน้ม: แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศและสถาบันในประเทศยังมีออกมามากอย่างต่อเนื่อง จากความกังวลต่อปัญหาหนี้ในยุโรป ทำให้ SET ยังมีแนวโน้มที่จะอยู่ระหว่างการปรับพักฐานต่อ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้างจากการคาดการณ์ผลประกอบการที่ดีของบริษัทต่างๆ ซึ่ง FSS คาดว่าตลาดหุ้นไทยก็มีโอกาสที่จะอยู่ในลักษณะเดียวกัน โดยหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์
ในบ้านเราก็จะเริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงานในช่วงท้ายของสัปดาห์หน้าขณะที่ บจ.อื่นๆ ก็จะทยอยประกาศตั้งแต่ช่วงท้ายของเดือนนี้เป็นต้นไป ดังนั้นจังหวะตลาดปรับตัวลงเราจึงยังมองว่าเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้ารับ เพื่อถือลุ้นรอบรีบาวด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้
กลยุทธ์: ยังต้องระวังการแกว่งผันผวน แต่สามารถทยอยรับเมื่อตลาดปรับตัวลงได้ โดยแนะนำเลือกหุ้นในกลุ่มแบงก์(KTB, SCB) กลุ่มปิโตรเคมี(PTTCH, IVL,PTTAR) กลุ่มที่ดินและนิคมฯ (PS, AMATA) และหุ้นหลักๆ ที่ปรับตัวลงแรง.

ประเด็นสำคัญวันนี้
• (-) ทิศทางค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าแบบจำกัด แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์มีทิศทางแข็งค่าต่อแต่จะค่อนข้างจำกัดมากขึ้นซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นในเอเชียรวมทั้งไทยมีโอกาสรีบาวนด์แต่ยังไม่กลับเป็นแนวโน้มขาขึ้นได้อย่างน้อยในสัปดาห์นี้ หรือจนกว่าการออกพันธบัตรของโปรตุเกส สเปน อิตาลีในสัปดาห์นี้จะดีเกินคาด หากเป็นเช่นนั้นตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์จะกลับมาใหม่ ดังนั้น หากวันนี้ตลาดอ่อน
ตัวอีก แนะนำซื้อปิโตรเคมี (PTTCH, IVL, PTTAR) และแบงก์ (KTB, SCB) เล่นรอบ
• (0) PTTEP ในเดือน ก.พ. คาดได้ข้อสรุปทั้งจากรัฐบาลออสเตรเลียเรื่องค่าปรับของมอนทาราและกรณีค่าชดเชยที่อินโดนีเซียฟ้องร้อง เหตุการณ์ยังไม่สามารถคาดเดาได้ แม้ว่ากำไร 4Q10 น่าจะออกมาดี เพิ่มขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y แต่เชื่อว่าราคาหุ้นจะยังถูกกดดัน การลงทุนระยะสั้นๆ จึงไม่เหมาะกับ PTTEP อย่างไรก็ตาม สำหรับการถือลงทุนยาว ราคา 165 บาทเป็นกรณีเลวร้ายที่มอนทาราไม่
สามารถดำเนินต่อได้ ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าแล้ว จึงเป็นจุดที่สะสมได้
• (0) TISCO ประกาศงบเป็นแบงก์แรก โดยมีกำไรในปี 2010 เพิ่มถึง 45%น้อยกว่าที่เราคาดเล็กน้อย และถือว่าเป็นกำไรที่ดีที่สุดของ TISCO แต่เราเชื่อว่ากำไรในปีนี้จะชะลอลงเหลือเพียง +5% เพราะวงจรดอกเบี้ยที่เข้าสู่ขาขึ้น การลงทุนใน TISCO จึงควรเป็นการซื้อเพื่อเงินปันผลเท่านั้น เราคาดว่าจะจ่ายหุ้นละ2.10 บาท (yield ~ 5.7%) ราคาเหมาะสมปี 2011 เท่ากับ 45 บาท
• (+) PS แนวโน้มกำไร 4Q10 จะฟื้นขึ้น Q-Q หลังการก่อสร้างกลับเข้าที่ ส่วนปี 2011 เน้นบ้านแนวราบมากขึ้นเพราะเชื่อว่าตลาดคอนโดจะชะลอความร้อนแรงจากปีก่อน โดยบริษัทตั้งเป้า Presales ปีนี้เพิ่มขึ้น 8% และยอดรับรู้รายได้เพิ่ม37% Y-Y ซึ่งมี Backlog รองรับแล้วประมาณ 56% เราแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมาย 27 บาท ราคาหุ้นที่ค่อนข้างนิ่งมานานน่าจะมี 4Q10 เป็นตัวกระตุ้นได้
• (0) IVL-T1 เริ่มเทรดวันนี้ ราคาที่เหมาะสมของ IVL-T1 อยู่ที่ 11 – 12 บาท(ราคาแม่ – ราคาแปลงสภาพ 36 บาท) มีเวลาเทรดในตลาดฯ 15 วันทำการ ถึงวันที่ 31 ม.ค.54 โดยจะขึ้น SP วันที่ 1 ก.พ. อัตราการใช้สิทธิคือ 1:1 ราคาใช้สิทธิ 36 บาท/หุ้น
• Fund Flow วานนี้ไหลออกเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน นักลงทุนขายสุทธิเกือบทุกตลาด ยกเว้นไต้หวัน แรงขายส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มประเทศ TIP (อินโดนีเชีย ไทยและ ฟิลิปปินส์) ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในเอเชียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นพอเกิดปัญหาเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศขนาดใหญ่อาจทำให้มีนักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรและหันไปลงทุนในตลาดหุ้นอื่นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนมากกว่าแทน ระยะสั้นนี้เรามองว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอาจจะมีต่อเนื่อง จนกว่าประเทศเหล่านี้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้สอดรับกับเงินเฟ้อที่เริ่มทะยานขึ้นขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจก็ยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งผลสุดท้ายเงินก็ต้องไหลเข้าสู่ตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเสมอ ระยะสั้นรอจังหวะซื้อสะสม ยังเน้นสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะราคาสินค้าเหล่านี้ไม่ได้ปรับลงแรง โดยเฉพาะราคาถ่านหิน


ข่าวภายในประเทศ
SMT ไตรมาส 4 พีคสุด Q1 ลุยซื้อกิจการเพิ่ม สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์โชว์กำไรสุทธิไตรมาสที่ 4 สูงสุด ในรอบปี 2553 เกือบ 200 ล้านบาทตั้งเป้าปีนี้โตอีก 35% สายพานผลิตแทบไหม้ เตรียมรุกซื้อกิจการอิเล็กทรอนิกส์เพิ่ม ดีลจบภายในไตรมาสแรก รับออเดอร์ต่างประเทศเข้าไม่หยุด ราคาเป้าหมาย 24 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-01-2011)
SGP ได้ดีลอยตัว LPG ดันกำไร-ยอดขายพุ่ง SGP ได้ดีรัฐบาลลอยตัว LPG ภาคอุตสาหกรรม ส่งผลกำไร-ยอดขายเพิ่มขึ้น เหตุมีสัดส่วนรายได้ขายภาคอุตสาหกรรม 10% พร้อมตั้งเป้าปีนี้รายได้โต 30-40% หลังบันทึก BP Zhuhai LPG ใน Q1/54 และ Q2/54 เชฟรอนเริ่มส่งเงินเข้ากระเป๋า โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 25.38 บาทต่อหุ้น (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-01-2011)
CCP พลิกกำไรบุ๊คพิเศษ 110 ล. ปีนี้รายได้โต 20% CCP ย้ำงบปี'53 พลิกกำไร หลังไตรมาส 4/53 บันทึกกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างหนี้110 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้ารายได้โต 15-20% จากปี'53 ที่ทำได้ 2,200 ล้านบาท เหตุมีงานรอเซ็นสัญญา 500-600 ล้านบาทในไตรมาส 1/54 ดันงานในมือทะลุ 2,000 ล้านบาท หวังสิ้นปีแบ็กล็อกแตะ 2,300 ล้านบาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-01-2011)
ROBINS ตะลุยเพิ่ม 3 สาขา ตั้งเป้ารายได้กวาด 100 ล้าน ROBINS มองปีนี้เติบโต เศรษฐกิจดี กำลังซื้อเพิ่ม พร้อมเตรียมเปิดอีก 3 สาขาเชียงราย-พิษณุโลก-พระราม 9 ล่าสุดทุ่มกว่า 30 ล้านบาท ขยายธุรกิจใหม่ “เดอะเบดดิ้ง สโตร์” ที่โรบินสัน ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ตั้งเป้ากวาดยอดขายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และวางแผนเปิดธุรกิจใหม่อีก 3 แห่ง เชื่อไตรมาส 2/54 เปิดสาขาซีคอน สแควร  (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 11-01-2011)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ดัชนีดาวโจนส์ยังปรับตัวลงต่อเนื่องอีก 100 จุดในระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาปิดลบเพียง37.31 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง โดยความวิตกต่อปัญหาของโปรตุเกสยังกดดันตลาด แต่พอจะมีแรงหนุนจากแนวโน้มผลประกอบการของ บจ.ที่คาดว่าจะแข็งแกร่ง
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปยังดิ่งลงรุนแรง จากความกังวลต่อวิกฤติหนี้สินในยูโรโซนก่อนการเปิดประมูลขายพันธบัตรในสัปดาห์นี้ โดยตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ก็ยังคงมีแรงขายกดดันให้เปิดปรับตัวลงอยู่ แต่ยังไม่รุนแรงนัก
VIX Index ดีดตัวขึ้นถึง 2.33% หลังความวิตกต่อปัญหาในยุโรปกลับมากดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนอีกครั้ง แต่ดัชนี VIX ยังเคลื่อนไหวไม่สูงนักที่ระดับ 17.54
ราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดีดกลับขึ้นมาถึง1.22 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 89.25 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการปิดท่อส่งน้ำมันในอลาสก้าเนื่องจากมีการรั่วไหล
ราคาทองคำล่วงหน้าในตลาด COMEX ดีดกลับขึ้นมา 5.20ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1374.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังนักลงทุนกังวลต่อปัญหาหนี้สินในยุโรป ทำให้กระตุ้นแรงซื้อในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยอีกครั้ง

ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: ข่าวปิดท่อส่งน้ำมันในอะแลสกาหนุนน้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.22 สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% เมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.)หลังจากมีรายงานว่าบริษัท Alyeska Pipeline Service Co. ซึ่งเป็นผู้ให้บริการท่อส่งน้ำมัน Trans Alaska Pipeline System ประกาศปิดท่อส่งน้ำมันในรัฐอะแลสกาตั้งแต่เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาเนื่องจากพบรอยรั่ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้บริษัทบีพีและเอ็กซอนโมบิลต้องระงับการผลิตน้ำมันในเขตนอร์ธสโลป สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.25 ดอลลาร์/บาร์เรล(ที่มา: อินโฟเควสท์ 11-01-2011)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยดัชนีการจ้างงานเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการจ้างงานเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนพ.ย. แตะระดับ 99.3 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี การเปิดเผยดัชนีการจ้างงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด มีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) เดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับ 9.4% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในปี 2553 ที่อัตราว่างงานรายเดือนร่วงลงมาอยู่ต่ำกว่า 9.5% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 11-01-2011)
จีน: จีนเผยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขยายตัว 26.7% ในเดือนธ.ค. สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีนเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศปรับตัวสูงขึ้น 26.7% ในเดือนธันวาคม 2553 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แตะที่ 1.5 ล้านคัน สำหรับยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลตลอดทั้งปี 2553 อยู่ที่ 13.3 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 30.5% จากปี 2552 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวรวมรถเก๋งและรถมินิแวน แต่ไม่รวมรถบรรทุกและรถบัส (ที่มา: อินโฟเควสท์ 10-01-2011)
จีน: ยอดเกินดุลการค้าจีนแคบลง ขณะจีนมีแนวโน้มส่งออกอันดับหนึ่ง 2 ปีซ้อน ข้อมูลของกรมศุลกากรจีนแสดงในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลการค้าในเดือนธ.ค.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 1.308 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนพ.ย.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.29 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนยอดเกินดุลการค้าตลอดปี2553 อยู่ที่ 1.831 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 6.4% จากปี 2552 รายงานของกรมศุลกากรจีนระบุว่า ยอดการส่งออกในปี 2553 เพิ่มขึ้น 31.3% แตะระดับ 1.5779 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งนำหน้าเยอรมนีและก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่สุดของโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ส่วนยอดการส่งออกในเดือนธ.ค.ขยายตัว 17.9% จากปีที่แล้ว ลดลงจากเดือนพ.ย.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 34.9% ขณะที่ยอดการนำเข้าในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 25.6% ลดลงจากเดือนพ.ย.ที่พุ่งขึ้น 37.7% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 10-01-2011)
เอเชีย: ญี่ปุ่นเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนธ.ค.ลดลงเป็นเดือนที่ 2 กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัฐบาลญี่ปุ่นยืนอยู่ที่ระดับ 1.09619 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนธ.ค. ลดลงจากเดือนพ.ย. ซึ่งทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน เนื่องจากมูลค่าการถือครองพันธบัตรต่างประเทศของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง การเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและยุโรปปรับตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับภาวะถดถอยในสหรัฐและวิกฤตหนี้สาธารณะในประเทศยูโรโซนบางประเทศ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 11-01-2011)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น