Code 334 : ยืนเหนือ 1030 ได้ : เส้น 5 วัน ตัด 10 วัน

วันพฤหัสที่ 13 มกราคม 2554

ATT Code : ยืนเหนือ 1030 ได้ : เส้น 5 วัน ตัด 10 วัน
มีแรงซื้อในกลุ่มแบ้งค์เข้ามาเป็นตัวนำตลาด ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ทำให้ SET มาปิดที่ 1035 ยืนเหส้นเส้นค่าเฉลียๆ ทุกเนได้ ทำให้พร่งนี้มีโอกาสที่จะทะลุ 1040 ไปได้ต่อ

----------------------------------------------------------------------------------
Short News
Banks (Overweight) : ธนาคารปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ส่งผลต่อต้นทุนการเงินทันที
· BBL นำร่องปรับขึ้นดอกเบี้ยออมทรัพย์ 0.125% มีผลวันนี้ เราคาดว่าธนาคารอื่นจะปรับอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ตามมา
· การขึ้นอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์เป็นลบกับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ในการปรับดอกเบี้ยออมทรัพย์ครั้งนี้คาดกระทบต้นทุนดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยโดยเฉลี่ยที่ราว ~0.05%ต่อปี
· ธนาคารขนาดใหญ่จะมีต้นทุนการเงินปรับขึ้นมากกว่าธนาคารขนาดกลางและเล็กเพราะมีฐานเงินฝากออมทรัพย์เป็นหลัก
· ธนาคารยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์อีกราว 0.125% เป็น 0.75% ภายในปีนี้ โดยอาจจะปรับอีกครั้งในช่วงกลางปีนี้

TISCO (BUY) : กระจายการเติบโตสู่ภาคธุรกิจ
* การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารยังมองโอกาสทางธุรกิจเช่าซื้อเป็นบวกจากเศรษฐกิจที่ยังมีแรงส่งจากการเติบโตของการอุปโภคบริโภคแต่จะกระจายเติบโตไปยังสินเชื่อธุรกิจเพิ่มเติมด้วย เรายังคงคาดการณ์กำไรปี 2011 เดิม โดยคาดว่าการเติบโตเข้าสู่ปกติ จากที่โดดเด่นมากในปีก่อน ประเด็นการลงทุนจึงยังคงเป็นการซื้อเพื่อรับเงินปันผลที่คาดว่าจะจ่ายจากกำไรปี 2010 หุ้นละ 2.10 บาท หรือผลตอบแทนราว ~ 5.6% และอีกราว 6% ในปี 2011 คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมปี 2011 ที่ 45 บาท (PER 11X)

STA: เริ่มแผนนำหุ้นเข้าเทรดสิงคโปร์อีกครั้ง คาดแล้วเสร็จภายใน 1Q11 / ราคาเป้าหมาย 43-47 บาทก่อนเพิ่มทุน (หลังเพิ่มทุน 34-37 บาท) แนะนำเก็งกำไรจากราคายางที่มีแนวโน้มพุ่งสูงต่อ
- STA แจ้งความคืบหน้าต่อตลาดเรื่องการนำหุ้น 280 ล้านหุ้น (+28% จากทุนเดิม) เข้าจดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์ (Dual Listing) โดยบริษัทได้ยื่นร่างหนังสือชี้ชวนต่อกลต.สิงคโปร์อีกครั้ง หลังจากที่เลื่อนมาจากเดือน ส.ค. 2010 ที่ผ่านมา
- คาดจะนำหุ้นเข้าเทรดได้แล้วเสร็จภายใน 1Q11 นี้
- ปัจจุบัน เราประเมินราคาเป้าหมาย 40 บาทบนสมมติฐานราคายางจาก 110 บาท/กก. แต่วันนี้เชื่อว่าต่ำไปแล้ว ดังนั้น หากขยับสมมติฐานขึ้นเป็น 130 - 150 บาท/กก. จะทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 43 - 47 บาทก่อนเพิ่มทุน
- แนวโน้มราคาหุ้น STA สดใสตามราคายางก็จริง แต่ควรระวังเรื่อง Dilution จากการเพิ่มทุนไว้ด้วย ถ้าเป้าหมายก่อนเพิ่มทุนเป็น 43 - 47 บาท หลังเพิ่มทุนจะเหลือ 34 - 37 บาท
- แนะนำเก็งกำไรจากราคายางที่ยังพุ่งสูงต่อ

CFO ของ THCOM กลับมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง คาดปี 54 กลับมามีกำไรจากการขายแบนด์วิธดาวเทียมไทยคม iPSTAR เพิ่มขึ้น หลังเริ่มรับรู้รายได้จากอินเดียตั้งแต่ปลาย 3Q10 และคาดจะเซ็นสัญญากับลูกค้ามาเลเซีย รวมทั้งบ.ย่อย ลาว เทเลคอม มีแผนเข้าตลาดหุ้นลาว
* ราคาหุ้น THCOM ในกลางสัปดาห์ก่อน Rebound ขึ้นมา หลังจากปรับลดลงและ Underperform ตลาดฯ มานาน จากการเก็งกำไรบริษัทได้เซ็นสัญญากับลูกค้าอินเดียอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อปลายปี แต่บริษัทยังไม่ประกาศข่าว เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบจากลูกค้าอินเดีย
* บริษัทเคยแจ้งว่าแม้ยังไม่เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ แต่ได้เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แต่เป็นจำนวนน้อยมาก คาดไม่เกิน 10 ล้านบาท จากบริการเริ่มแรกประมาณ 500 เมกะบิตต์) และคาดว่าการให้เช่าช่องสัญญาน (Bandwidth) จะทยอยเพิ่มขึ้น เป็นขั้นต่ำ 1500-2,000 เมกะบิตต์ ภายในสิ้นปี 11 และ 3,000 เมกะบิตต์ต่อปี ในช่วงปี 12-15
* ระยะสั้น อาจยังมีการเก็งกำไร แต่ควรใช้ความระมัดระวังมากขึ้น จากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว ความเสี่ยง การรับรู้รายได้ช้ากว่าคาด (ผลประกอบการ 2-3 ปีที่ผ่านมา สร้างความผิดหวังให้ตลาดฯ) หากมีหุ้นที่ต้นทุนสูง "ถือ" DCF เดิม 7.90 บาท

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
13 มค. 54 ( +6.12 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ปรับตัวลง 1007 - 09 จุด
ดัชนีในวันพุธ ไม่สามารถปรับตัวขึ้นผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ ดังนั้นแนวโน้มจากนี้ไป มีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวกลับลงไปแถว 1007 – 09 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์นี้อีกครั้ง

ตลาด “อาจจะ” ใช้ระยะเวลาอีกสักพักแกว่งตัวในกรอบ 1007 – 27 หรือระหว่างจุดต่ำสุดของสัปดาห์นี้ ถึงจุดสูงสุดของวันพุธ ...

ก่อนที่จะมีการปรับตัวลงต่อแถว 990 – 1000 จุด ประมาณสัปดาห์น้า ในรูปแบบของคลื่น 5 ภาพระยะวัน May sideways 1007 – 27 ? Then correction

หุ้นเด่น
GFPT
ปรับตัวทะลุกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะสัปดาห์ขึ้นมาได้ ทยอยซื้อแถว 8.35 – 8.40หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 8.60 จุดสูงสุดวันพุธ เป้าหมายสองสามวัน 9.00 – 9.15( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 8.30 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
IVL แกว่งตัว 44.50 – 46.50
PTT ไม่น่าเกิน 330 - 334
SCB แกว่งตัว 97 – 99.50
BANPU ต่ำกว่า 834 ลง 800 - 810
IRPC แกว่งตัว 5.80 – 6.20
STA เกิน 41.25 ขึ้น 42 – 43
PTTCH ต่ำกว่า 144.50 ลง 142.50 – 143
PTTEP เกิน 159.50 ขึ้น 164 – 165.50
TOP แกว่งตัว 72.25 – 73.50
PTL ต่ำกว่า 38.75 ลง 36 - 37


----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS : เริ่มเน้นถือเพื่อรอหาจังหวะทำกำไร...มากกว่าที่จะไล่ซื้อในราคาที่สูง!!
แนวโน้ม: การประมูลพันธบัตรของโปรตุเกสประสบความสำเร็จเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลต่อปัญหาของยุโรปลงได้บ้าง ขณะที่คาดการณ์ผลประกอบการบริษัทเอกชนของสหรัฐยังมีแนวโน้มที่ดี ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเช้านี้ค่อนข้างสดใส ขณะที่ SET ก็เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาให้เห็นมากขึ้นเมื่อวานนี้หลังการปรับตัวลงรุนแรงตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน ทำให้ FSS คาดว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงรีบาวด์กลับขึ้นไปต่อเนื่องได้ โดยยังมีเป้าหมายแถว 1030จุดและลุ้นสูงกว่าได้ด้วย เราจึงยังแนะนำให้เทรดดิ้งต่อเนื่องได้ แต่ควรเน้นถือเพื่อรอขาย มากกว่าที่จะไล่ซื้อในจังหวะตลาดบวกแรง โดยยังเน้นทยอยรับเมื่อตลาดแกว่งลงอยู่เช่นเดิม
กลยุทธ์: ถ้าราคาหุ้นขึ้นสูงมากไม่ควรไล่ราคา น่ารอซื้อตอนแกว่งย้อนลง และเน้นเป็นถือเพื่อรอหาจังหวะขายทำกำไรมากกว่า โดยต้องตามระวังแรงขายจากระดับดัชนีแถว 1030 จุด(+/-) ไว้ด้วย

ประเด็นสำคัญวันนี้
• (+) โปรตุเกสประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตร ความเชื่อมั่นในค่าเงินยูโรเริ่มกลับมา โปรตุเกสประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตรรัฐบาล1.249 พันล้านยูโร (US$1.61 ล้านเหรียญ) โดยพันธบัตรอายุ 10 ปีมี demandมากกว่าอุปทานถึง 3.2 เท่า ส่งผลให้ Yield ปรับลงเหลือ 6.719% จากที่ทำสถิติสูงสุด 7.3% ในสัปดาห์ก่อน ส่วนพันธบัตรอายุสั้น 4 ปี มี demand มากกว่าอุปทาน 2.6 เท่า ขณะที่เยอรมนีรายงาน GDP ปี 2010 โต 3.6% แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 20 ปี ทำให้ความเชื่อมั่นในค่าเงินยูโรเริ่มกลับมา และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ส่วนวันนี้สเปนและอิตาลีจะประมูลพันธบัตร
• (+) กลุ่ม Commodity จะนำตลาด เช้านี้ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่เปิดบวกนำโดยกลุ่ม Oil&Gas เพราะดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า (ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป กลุ่มFinancials เป็นตัวนำ) สำหรับตลาดหุ้นไทย คาดว่ากลุ่ม Commodity (ปิโตรเคมี+เกษตร) จะนำตลาดเช่นกันเพราะที่ผ่านมาร่วงแรงสุด ล่าสุดราคาถ่านหินที่Newcastle พุ่งสูงสุดในรอบ 28 เดือนจากภาวะน้ำท่วมในออสเตรเลีย ราคายาง
ข้าวโพด ถั่วเหลืองพุ่งต่อ (ดีกับ BANPU, LANNA, AGE, STA, TVO ลบกับ CPF,GFPT) ยกเว้นน้ำตาลที่มีแรงขายทำกำไร
• (0) ธ.กลางเกาหลีขึ้นดอกเบี้ย คาด BOE คงดอกเบี้ยวันนี้ เช้านี้ธ.กลางเกาหลีขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.75% ผิดไปจากตลาดคาด แต่ทิศทางเป็นไปตามประเทศอื่นในเอเชียที่ทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ส่วนวันนี้คาด BOE คงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ 0.50% ตามลำดับ ไม่มีผลกระทบกับตลาด ส่วนรายงานเศรษฐกิจของไทย วันนี้มีดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค คาดแนวโน้มดีขึ้น
• (+) BBL นำร่องขึ้นดอกเบี้ยออมทรัพย์ส่งผลต่อต้นทุนการเงินทันทีหลังจาก กนง.มีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายวานนี้ 0.25% เป็น 2.25% BBL นำร่องปรับขึ้นดอกเบี้ยออมทรัพย์ 0.125% มีผลวันนี้ คาดกระทบต้นทุนดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยโดยเฉลี่ยที่ราว ~0.05% ต่อปี เราคาดว่าธนาคารอื่นจะปรับอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ตามมา และยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์อีกราว0.125% เป็น 0.75% ภายในปีนี้ โดยอาจจะปรับอีกครั้งในช่วงกลางปีนี้ แต่เนื่องจากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ด้วย และในอัตราที่มากกว่าทำให้สุทธิแล้ว รายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังคงเป็นบวก และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ดี เรายังคง Overweight กลุ่มแบงก์ หุ้นเด่น: KBANK, SCB, KTB, BAY
• Fund Flow วานนี้กลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคอีกครั้งหลังจากขายหนักในช่วง 3 วันที่ผ่านมา แต่ยังมีขายสุทธิในตลาดหุ้น TIP แต่ปริมาณน้อยลงมากและเข้าซื้อสุทธิในตลาดเกาหลีใต้และไต้หวัน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการขายพันธบัตรของโปรตุเกสขายหมดและยังขายได้ในราคาที่สูงด้วย แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงทางการเงินในยุโรปผ่อนคลายมากขึ้น และจากภาวะเงินเฟ้อที่เริ่มก่อ
ตัวขึ้นในเอเชียทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เข้าสู่ระดับปกติ ซึ่งเรายังมองว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นจะยังดึงดูเม็ดเงินทุนจากต่างชาติได้ต่อเนื่อง ส่วนที่การขายสุทธิในช่วงที่ผ่านมาเป็นการขายทำกำไรบางส่วนเท่านั้น ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 30.34 บาท/ดอลลาร์เช้านี้หลังกนง. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายวานนี้ ซึ่งเรามองว่าเป็นจังหวะดีที่กนง. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อนที่จะเห็นอัตราเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นหุ้นที่น่าสนใจลงทุนก็ต้องเป็นบริษัทที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อหรืออัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น ซึ่งก็คือ กลุ่มธนาคารและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆรวมถึงสินค้าเกษตรด้วย


ข่าวภายในประเทศ
ผู้บริหารปากเป็นพิษหุ้น IVL ร่วงหนัก 7% นักลงทุนแพนิก หลังลือหุ้นใหญ่ขายทิ้งล็อตใหญ่ รายย่อยแพนิกข่าวลือผู้ถือหุ้นใหญ่ IVL ขายหุ้นล็อตใหญ่ให้นักลงทุนสถาบัน แห่เทขายหุ้นล้นหลาม กดราคาหุ้นร่วงหนัก 7% "ผู้บริหาร" ยันไม่ทราบข่าว การันตีปีนี้รายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% เหตุได้แรงหนุน จ่อเข้าซื้อกิจการ PET ในจีน-อเมริกาแล้วเสร็จต้นปีนี้ พร้อมบุ๊ครายได้ Q2/54 โบรกฯ เซียร์ซื้อเป้า 67.50 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-01-2011)
SVI มุ่งเป้า 4 บาทออเดอร์เข้าเพียบปี 53 กำไร 700 ล้าน SVI เป้าหมาย 4 บาทไม่เกินฝัน ปัจจัยบวกรอหนุนเพียบ ยอดขายไตรมาส 4/53กระฉูด 80 ล้านดอลลาร์หนุนกำไรทั้งปี'53 พุ่งแตะ 700 ล้านบาท ปัญหาขาดวัตถุดิบคลี่คลาย ออเดอร์ไหลเข้าเพียบ แถมมีลุ้นจ่ายปันผลครึ่งหลังขั้นต่ำ0.11 บาท งบปี’54 สวยหรูโตไม่มีหยุด (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-01-2011)
LANNA ส่งสัญญาณข่าวดีราคาถ่านหินพุ่ง 140 เหรียญ LANNA เผยทิศทางราคาถ่านหินขาขึ้นอาจแตะ 140 เหรียญสหรัฐต่อตันช่วง 2-3 เดือนนี้หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในออสเตรเลีย หนุนกำไรจากการขายในตลาด spot ขยับเพิ่ม โบรกฯแนะซื้อ เป้าหมาย 24.85 บาท ด้าน BANPU ยันน้ำท่วมไม่กระทบการผลิต
JUBILE ลั่นปีนี้โต15% เปิดสาขาใหม่ 10 แห่งรับตลาดเพชรยังสดใส JUBILE ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โตไม่น้อยกว่า 15% พร้อมรุกตลาดเครื่องประดับเพชรมาตรฐานระดับโลก หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 13% จากเดิมอยู่ที่ 11% พร้อมเปิดแฟล็กชิบสโตร์ 10 สาขา เล็งเปิดตัวสินค้าคอลเล็กชั่นใหม่อีกกว่า 100 รายการ ขณะที่คาดตลาดเพชรกะรัตและเพชรประดับปีนี้โต 10% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-01-2011)
CFRESH ลุ้นจ่ายปันผล 50 สต.โบรกเชียร์ซื้ออัพไซด์กว่า 20% CFRESH ลุ้นจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการปี'53 ไม่ต่ำกว่า 0.50 บาทต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 0.41 บาทต่อหุ้น คาดยอดขาย 2,517 ล้านบาท ส่วนกำไรน่าจะแตะ 176 ล้านบาท พร้อมรับอานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน เชื่อทำให้คำสั่งซื้อปีนี้เพิ่มขึ้น โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6 บาท อัพไซด์กว่า 20% (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 13-01-2011)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 83.56 จุด หลังการประมูลพันธบัตรโปรตุเกสประสบความสำเร็จเกินคาด ทำให้ความวิตกเกี่ยวกับหนี้สินในยุโรปผ่อนคลายลง ขณะที่คาดการณ์ผลประกอบการบริษัทเอกชนในสหรัฐยังมีแนวโน้มที่ดี โดยมีแรงซื้อนำในหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นมาปิดทีระดับปิดสูงสุดในรอบ28 เดือน จากความเชื่อมั่นที่สูงมากขึ้นหลังการประมูลพันธบัตรของโปรตุเกส
ส่งผลให้ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้เปิดบวกในระดับ 0.5-1%เป็นส่วนใหญ่ คาดส่งผลดีต่อ SET ด้วย
VIX Index ร่วงลงต่ออีกกว่า 3.8% มาเคลื่อนไหวแถว16.24 หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อปัญหาในยุโรป และคาดหวังต่อผลประกอบการที่ดีของบริษัทเอกชนสหรัฐที่เริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงาน
ราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้า NYMEX ยังบวกต่ออีก 0.75ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 91.86 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยยังได้รับแรงหนุนจากปัญหาขัดข้องด้านการผลิตน้ำมันในช่วงนี้ รวมถึงการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐ และคาดการณ์เรื่องการเติบโตของอุปสงค์ หลังคลายกังวลต่อปัญหายุโรป
ราคาทองคำล่วงหน้าในตลาด COMEX บวกอีก 1.50ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1385.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยหลังสินทรัพย์เสี่ยงกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

ข่าวต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วร่วงเกินคาด 2.2 ล้านบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 33.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 400,000บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล แตะที่ 164.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 5.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 223.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.6% เหลือเพียง 86.4% สวนทางกับที่คาดว่าจะทรงตัว (ที่มา: อินโฟเควสท์ 13-01-2011)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยรัฐบาลมียอดขาดดุลงบประมาณทั้งสิ้น 8 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเดือนธ.ค.ปี 2553 ของสหรัฐ อยู่ที่ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดขาดดุลงบประมาณโดยรวมในปี 2553 มีอยู่มากกว่า 1 ล้นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ยอดขาดดุลงบของเดือนธ.ค.ปี 2553 ยังต่ำกว่าระดับ 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์ของยอดขาดดุลในเดือนธ.ค.ปี 2552 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 13-01-2011)
สหรัฐอเมริกา: ราคาธัญญพืชพุ่งหลังสหรัฐลดคาดการณ์สต๊อก ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 ม.ค.)สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองทะยานแตะสถิติสูงสุดในรอบ 29 เดือนรอบใหม่ ส่วนสัญญาข้าวสาลีก็พุ่งขึ้นเช่นเดียวกัน หลังสหรัฐปรับลดประมาณการณ์ยอดสต๊อกธัญญพืชลง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปทานอาจตึงตัวขึ้น ขณะที่ยังมีอุปสงค์อีกจำนวนมาก สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนมีนาคมทะยาน 24เซนต์ หรือ 4% แตะที่ 6.31 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมีนาคมพุ่ง 11 เซนต์ หรือ 1.45% แตะ 7.705 ดอลลาร์ต่อบุชเชลและสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมีนาคมทะยาน 58 เซนต์ หรือ 4.27% แตะ 14.15 ดอลลาร์ต่อบุชเชล (ที่มา: อินโฟเควสท์ 13-01-2011)
เอเชีย: ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%เป็น 2.75% ในการประชุมวันนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 13-01-2011)
----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น