Code 335 : 2 แนวทาง / เกิน 1035 หรือ ต่ำกว่า 1026

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554

ATT Code : 2 แนวทาง / เกิน 1035 หรือ ต่ำกว่า 1026
1 ถ้าเกิน 1035.44 จุดสูงสุดเช้านี้ ขึ้นต่อได้แถว 1040 - 45ก่อนที่จะปรับตัวลง 1020 - 30 ต่อไป
2 ถ้าต่ำกว่า 1025.97 ปรับตัวลง 1008 - 11

----------------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
14 มค. 54 ( +15.57 จุด) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

1 ถ้าเกิน 1035.44 จุดสูงสุดเช้านี้ ขึ้นต่อได้แถว 1040 - 45
ก่อนที่จะปรับตัวลง 1020 - 30 ต่อไป
2 ถ้าต่ำกว่า 1025.97 ปรับตัวลง 1008 - 11

STEC
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะเดือน รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 14.60 กรอบบนของสามเหลี่ยม เป้าหมายระยะสัปดาห์ 15.60 – 17.60
( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 13.80 )
-------------------------------------------
ต่ำกว่า 1025.97 ปรับตัวลง 1008 - 11จุด
แนวโน้มในวันพฤหัสนี้ ในกรณีปรับตัวขึ้นต่อ ดัชนียังไม่น่าจะไปได้เกิน 1045 – 55จุดสูงสุดเดิมของเดือนนี้

ขณะเดียวกันการปรับตัวลง ต่ำกว่า1025.97 จุดต่ำสุดของวันพฤหัสและเส้นค่าเฉลี่ย25 วัน ดัชนีมีแนวโน้มที่จะปรับตัวกลับลงไปบริเวณ 1008 – 11 ใกล้จุดต่ำสุดของสัปดาห์นี้อีกครั้ง

ขณะที่การปรับตัวลง ต่ำกว่า 1000 จุด จะถือเป็นการเกิด “สัญญาณขาย” ในเครื่องมือPoint & Figure และ ดัชนีจะมีเป้าหมายในการปรับตัวลงต่อแถว 920 – 950 จุด สำหรับ
ภาพไตรมาสหนึ่ง ปีนี้

หุ้นเด่น
PTTEP
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะชั่วโมง ทยอยซื้อแถว 162.00 – 163.00 หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 163.50 จุดสูงสุดวันพฤหัส เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 166.50 –168.50( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 161.50 )166.50 – 168.50

PTTCH
กำลังปรับตัวในกรอบสามเหลี่ยม ภาพระยะชั่วโมง ทยอยซื้อแถว 148.00 – 148.50 หรือรอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 149.00 จุดสูงสุดวันพฤหัส เป้าหมายหนึ่งถึงสองวัน 152.00 –153.00( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 148.00 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
SCB ไม่ต่ำกว่า 100 ขึ้น 102 - 103
BBL ต่ำกว่า 168 ลง 158 - 161
STA แกว่งตัว 37.50 – 39.50
PTT เกิน 333 ขึ้น 336 - 338
IVL เกิน 47.50 ขึ้น 48.50 – 49.50
TOP เกิน 76.25 ขึ้น 76.50 - 77
PTTCH รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
BANPU ต่ำกว่า 852 ลง 800 - 810
PTTEP รายละเอียดใน “หุ้นเด่น”
KBANK ต่ำกว่า 128 ลง 125 – 126

----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS : ตลาดขยับขึ้นเน้นหาจังหวะทำกำไร...จังหวะซื้อใหม่น่ารอรับช่วงพักตัว!!
แนวโน้ม: ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง แม้ว่าการประมูลพันธบัตรของสเปนและอิตาลีจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับโปรตุเกส ช่วยทำให้ความกังวลต่อปัญหาหนี้ในยุโรปลดทอนลงได้บ้างก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งตลาดหุ้นส่วนใหญ่ได้ขยับขึ้นมารับข่าวบวกจากทางยุโรปไปพอควรแล้วในรอบ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ FSS คาดว่า SET มีโอกาสที่จะเริ่มแกว่งตัวผันผวนและย้อนกลับไปเคลื่อนไหวในด้านลบได้อีกครั้ง ดังนั้นหลัง SET ขยับขึ้นมาสูงกว่า1030 จุดได้ตามคาดแล้ว ช่วงนี้จึงน่าแบ่งส่วนขายทำกำไรตามรอบบ้าง ส่วนจังหวะทยอยเข้ารับยังแนะนำให้รอช่วงปรับพักตัวลงของตลาดอีกครั้งก่อน
กลยุทธ์: ตลาดขยับขึ้นยังแนะนำให้แบ่งส่วนขายทำกำไรบ้าง ส่วนจังหวะกลับเข้าซื้อน่ารอช่วงปรับพักตัวลงของตลาดอยู่ โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ KTB, BAY,SCB, PTTCH, PTTAR, AMATA, CPALL, BGH, PTL, TVO และ TTW เป็นต้น

ประเด็นสำคัญวันนี้
• (+) การขายพันธบัตรของสเปนผ่านไปด้วยดี มี demand มากกว่าอุปทาน2.1 เท่า สูงกว่าประมูลเมื่อ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่รมว.คลังระบุว่าสถานะของแบงก์ในสเปนแข็งแกร่งมากพอที่จะไม่ต้องรับความช่วยเหลือจาก EU แต่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบเฉลี่ย 0.5% เพราะกังวลเงินเฟ้อเดือนที่แล้วที่พุ่งสูง 2.2%เกินเป้าที่ 2% (2 วันนี้หลายประเทศจะทยอยประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ) อาจทำให้
การตรึงดอกเบี้ยต่ำทำได้ยาก ค่าเงินยูโรกลับมาอ่อนลงอีก ส่งผลให้ตลาดเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดลบ การปรับพอร์ตของต่างชาติยังคงดำเนินต่อไป
• (+) KBANK, SCB ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก-กู้ตาม BBL มีผลวันนี้ การขึ้นดอกเบี้ยทั้ง 2 ขาเป็นบวกกับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของแบงก์ หลังจากนี้จะมีแบงก์อื่นๆ ขึ้นดอกเบี้ยตามมา เรายังคง Overweight กลุ่มแบงก์ หุ้นเด่น: KBANK,SCB, KTB, BAY
• (+) TOP รัฐปรับราคารับซื้อ LPG หน้าโรงกลั่นตามคาด จาก 10.069 เป็น13.6863 บาท/กก. และให้เงินชดเชยโรงกลั่นที่ผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าอีก13.7095 บาท/กก. มีผลทันทีวันนี้ TOP ได้ประโยชน์สูงสุด โดยจะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.9 พันลบ./ปีตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้าน้าและรวมอยู่ในประมาณการของเราแล้ว ยังคงแนะนำซื้อ เป้าหมาย 85 บาท
• (0) STA จะกำหนดราคา IPO วันที่ 24 ม.ค. และเริ่มซื้อขายในตลาดสิงคโปร์ 28ม.ค. เราคาด EPS ปีนี้ 3.20 - 3.40 บาท/หุ้น (รวมหุ้นเพิ่มทุนแล้ว) ที่ราคาตลาดปัจจุบัน 39.25 บาท คิดเป็น PE 11 - 12 เท่า เทียบกับหุ้น commodity ในตลาดสิงคโปร์ถือว่าไม่แพง เพราะส่วนใหญ่ซื้อขายที่ PE 14 - 15 เท่า ภาพในระยะกลาง-ยาวยังคงดีตามราคายางที่มีแนวโน้มขึ้นต่อตลอด 1Q11 ถือต่อได้ แต่ระยะสั้น ราคา IPO จะมีผลต่อ sentiment ค่อนข้างมาก ถ้าลงทุนสั้น ขายเมื่อรีบาวนด์
• (-) GFPT ปรับลดคำแนะนำเป็น ‘ขาย’ ปรับเป้าหมายลงเหลือ 9 บาท โรงงานใหม่มีโอกาสขาดทุนนานกว่าที่เราเคยคาดอีก 1 ไตรมาส โดยโอกาสที่จะขาดทุนถึง 3 ไตรมาสแรกและเริ่มกำไรใน 4Q11 เหตุเพราะขยายฟาร์มไก่ไม่ทันกับจุดคุ้มทุนและขาดแคลนแรงงาน นอกเหนือไปจากราคาวัตถุดิบ (กากถั่วเหลืองและข้าวโพด) ที่มีแนวโน้มสูงกว่าคาด
• Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน แรงขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาด TIP เบาบางและมีบางส่วนกลับเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอินโดนีเชีย ปัญหาหนี้ยุโรปเริ่มคลี่คลาย แนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติในวันนี้น่าจะยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องแต่ปริมาณไม่มาก เพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเอเชียเป็นขาขึ้นและเริ่มทะยอยปรับต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรในตลาด TIP อยู่ ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าเช้านี้มาอยู่ที่ 30.55 บาท/ดอลลาร์


ข่าวภายในประเทศ
โลเฮียขาย IVL ตามลือ ล๊อตแรก120 ล้านหุ้น! สำรองรอขายอีก 30 ล้านหุ้น หึ่งเป้าหมายขายออก 10% วันนี้กลุ่ม "อาลก โลเฮีย" เตรียมขายหุ้น 120 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.8% ของทุนจดทะเบียน ราคา 44-46.25บาท พร้อมมีหุ้นสำรองรอขายเพิ่มเติม 30 ล้านหุ้น หึ่งมีแผนขายออกถึง 10%งานนี้"เครดิต สวิส"หัวเรือใหญ่ดูแลการซื้อขายหุ้น วงในระบุเคาะราคาขายเสร็จช่วงค่ำวานนี้ โบรกยันพื้นฐาน IVL ไม่เปลี่ยนแปลง แม้หุ้นใหญ่ลดสัดส่วนถือหุ้น (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 14-01-2011)
DTAC ยกเครื่องหมื่นสถานี รองรับตลาดสมาร์ทโฟนคึก DTAC ยกเครื่องโครงข่ายใหม่ 10,000 สถานีฐานทั่วประเทศ แง้มงบลงทุนเกินกว่า1,000 ล้านบาทแน่ ทยอยโละทิ้งของเก่าไตรมาสแรก คาดภายใน 2 ปี ลูกค้าได้ใช้ของใหม่ทั่วประเทศ พร้อมเปิดทดลองให้บริการ 3G แบบไม่เชิงพาณิชย์ รวม 1,220 สถานี (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 14-01-2011)
TOP ข่าวดีท่วมบริษัทเป้าหมายเกิน 90 บาท TOP ราคา 76.25 บาทเด็กๆ ปัจจัยบวกจ่อดันหุ้น 5 ประการ กบง. ไฟเขียวขึ้นราคาแอลพีจีตามตลาดโลก กำไรไตรมาส 4/53 ขั้นต่ำ 2,300 ล้านบาท ปันผลครึ่งหลัง 1 บาท ส่วนปี'54 ยอดขายพุ่งรับข่าวแอลพีจีแตะ 350,000 ล้านบาท กำไรบานสะพรั่ง 12,000 ล้านบาท ราคาเป้าหมายสูงลิ่ว 90 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 14-01-2011)
CPALL ปีนี้ทะลุ 6.2 พันสาขา ดันยอดขายโต 14% ลงทุนสร้างโรงงานอาหารเพิ่ม CPALL ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 13-14% ทั้งจากสาขาเดิมและสาขาใหม่ที่จะเพิ่ม 500 สาขา คาดปีนี้ทะลุ 6,200 สาขา จากปีก่อนที่ 5,790 สาขา ยืนอันดับ 3 รองจากญี่ปุ่นและสหรัฐฯ รวมถึงเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เหตุมาร์จิ้นดี พร้อมเผยแผนการลงทุนสร้างโรงงานอาหารสำเร็จรูปแช่เย็น (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 14-01-2011)
----------------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มกลับมาแกว่งพักตัวในด้านลบอีกครั้ง โดยปิดลดลง 23.54 จุด หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปก็เริ่มปรับพักตัวลงด้วยเช่นกัน แม้ว่าสเปนและอิตาลีจะประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตรเช่นเดียวกับโปรตุเกสก็ตาม โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อในยูโรโซนที่อาจส่งผลให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
ส่งผลให้ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้เปิดในลักษณะพักตัวลงด้วยเช่นกัน แต่ยังเป็นการลบในกรอบจำกัดเท่านั้น
ราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับตัวลดลง 0.46ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 91.40 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้ว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าลงอีกครั้ง แต่ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐยังกดดันความมั่นใจของนักลงทุน
ราคาทองคำล่วงหน้าในตลาด COMEX บวกอีก 1.20ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1387.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยกลับมาอีกครั้ง


ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป: ยูโรสแตทเผยผลผลิตอุตสาหกรรมเขตยูโรโซนขยายตัว 1.2% ในเดือนพ.ย. ยูโรสแตท ซึ่งเป็นสำนักงานด้านสถิติของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของ 16 ประเทศเขตยูโรโซนขยายตัว 1.2% ในเดือนพฤศจิกายน 2553 เมื่อเทียบรายเดือน โดยผลผลิตสินค้าขั้นกลางขยายตัวมากที่สุด 1.6% ขณะที่ผลผลิตด้านพลังงานเพิ่มขึ้น 1.5% ส่วนผลผลิตสินค้าทุนเพิ่มขึ้น 1.4% ด้านผลผลิตสินค้าคงทนสำหรับผู้บริโภคขยับขึ้น 0.1% แต่ผลผลิตสินค้าไม่คงทนสำหรับผู้บริโภคยังทรงตัว ส่วนเมื่อเทียบรายปีผลผลิตอุตสาหกรรมในเขตยูโรโซนทะยาน 7.4% ในเดือนพฤศจิกายน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 13-01-2011)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 35,000 ราย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 8 ม.ค. พุ่งขึ้น 35,000 ราย แตะระดับ 445,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6เดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 405,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น5,500 ราย แตะระดับ 416,500 ราย สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ แม้เศรษฐกิจส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวแล้วก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนของปี 2552 แต่จังหวะของการขยายตัวยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้อัตราว่างงานลดลงได้ โดยปัจจุบันอัตราว่างงานของสหรัฐยืนอยู่ที่ระดับ 9.4% (ที่มา: อินโฟเควสท์ 14-01-2011)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.1% หลังราคาอาหาร-พลังงานพุ่ง กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี เนื่องจากต้นทุนราคาพลังงานและอาหารเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตาม ดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้นเพียง 0.2% น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐยังไม่ลุกลามในระบบเศรษฐกิจ ราคาอาหารในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนธ.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 1% ในเดือน.ย. เนื่องจากราคาผักและผลไม้ปรับตัวสูงขึ้น โดยรายงานระบุว่า บริษัทผู้ผลิตของสหรัฐยังคงผลิตสินค้าต่ำกว่าเป้าและถูกกดดันจากภาวะการแข่งขันที่สูงมากในตลาด(ที่มา: อินโฟเควสท์ 14-01-2011)
สหรัฐอเมริกา: สหรัฐเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี หลังยอดส่งออกพุ่ง กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.83 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 3.84 หมื่นล้านดอลลาร์ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.05 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี
เพราะได้แรงหนุนจากยอดการส่งออกที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี (ที่มา: อินโฟเควสท์ 14-01-2011)
จีน: ธนาคารโลกเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจีนมีส่วนหนุนจีดีพีจีนโต 1% ในปี 53 นายฮานส์ ทิมเมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายแนวโน้มการพัฒนาของธนาคารโลกกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนส่งผลคิดเป็น 1 % ในการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีนในปี 2553 โดยธนาคารโลกคาดว่า จีดีพีของจีนจะขยายตัว 10% ในปี 2553 (ที่มา: อินโฟเควสท์ 13-01-2011)
เอเชีย: รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศนโยบายสกัดเงินเฟ้อ พุ่งเป้าตรึงราคาสาธารณูปโภค รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศมาตรการลดแรงกดดันของเงินเฟ้อในวันนี้ ซึ่งครอบคลุมถึงการตรึงราคาสาธารณูปโภค พร้อมกับย้ำคำมั่นสัญญาว่าจะรักษาเสถียรภาพราคา รายงานของรัฐบาลเกาหลีใต้ระบุว่ารัฐบาลจะตรึงราคาสาธารณูปโภคในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ รวมทั้งสนับสนุนให้วิทยาลัยต่างๆตรึงค่าเล่าเรียน และใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเรื่องการกำหนดราคาที่ผิดปรกติ เช่น การรวมตัวกันกำหนดราคา (ที่มา: อินโฟเควสท์ 13-01-2011)

----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น