Code 341 : สุดยอด ทำ New low @963 ลบไป 43 จุด

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2554

ATT Code : สุดยอด ทำ New low @963 ลบไป 43 จุด

10....20....30....40 จุด SET ลบไป 43 จุด ทำ New Low ไปเลย ที่ 963 จุด

-----------------------------------------------------------------------------
Short News :
ข่าวดีต่อหุ้นกลุ่มไก่ : เกิดไข้หวัดนกระบาดในพื้นที่เลี้ยงไก่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น เตรียมฆ่าไก่ 410,000 ตัว แนะนำเก็งกำไร CPF และ GFPT
- เกิดโรคไข้หวัดนกระบาดในจังหวัดมิยาซากิ ประเทศญี่ปุ่น (เป็นศูนย์กลางเลี้ยงไก่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น) โดยเตรียมฆ่าไก่ราว 410,000 ตัว เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค หลังจากที่พบในจังหวัดชิมาเนะ เมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นจะประชุมวาระฉุกเฉินวันนี้
- เป็นบวกต่อ CPF เนื่องจากมีสัดส่วนขายไก่ปรุงสุกไปญี่ปุ่นราว 30% ของรายได้ไก่ส่งออกทั้งหมด
- เป็นบวกต่อ GFPT เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นลูกค้าหลัก ด้วยสัดส่วน 52% ของรายได้ไก่ส่งออกทั้งหมด
- จากข่าวบวกนี้เราแนะนำเก็งกำไร CPF (ราคาเป้าหมาย 25 บาท) และ GFPT (ราคาเป้าหมาย 9 บาท)

Weekly Report : คลื่นลมยังไม่สงบ...สัปดาห์นี้มีรายงานเศรษฐกิจสำคัญค่อนข้างมาก
สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ รวมทั้งตลาดหุ้นยังไม่ปลอดภัยในสัปดาห์นี้ ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อยังอยู่ในตลาด เพราะมีหลายประเทศรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ ตามมาด้วยการประชุมของธนาคารกลาง 5 แห่ง คืออินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ นิวซีแลนด์ มาเลเซีย และมีรายงาน GDP 4Q10 ของอังกฤษ เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังมีรายงานตัวเลขเกี่ยวกับบ้าน ค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสผันผวนเช่นเดียวกับตลาดหุ้น กรอบแกว่งดัชนีสัปดาห์นี้ 1,000 – 1,030 จุด ยังต้องระวังหุ้น Big cap ที่เป็นเป้าหมายในการขายของต่างชาติ หันมาเน้นเป็นรายตัวที่คาดว่าจะประกาศกำไรดี PTTCH, PTTAR, IRPC, IVL, TOP, ESSO, BANPU, LANNA, AGE, STA, TVO, HMPRO, BIGC, MAKRO, BEC, BGH ส่วนกลุ่มที่คาดว่ากำไรจะลดลง Q-Q ได้แก่กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ (ยกเว้น SVI ที่คาดว่ากำไรจะดีที่สุดของปี), CPF, GFPT, TSTH

หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
· 24 ม.ค.--ข่าวหุ้น
· หึ่งปูนใหญ่สนซื้อ IRPC ปตท.ไม่ปฏิเสธขายทิ้ง วงการหุ้นเชื่อราคาดีปล่อยแน่ ฟันกำไรกว่า 6 พันล้านบาท
· หึ่งปูนใหญ่สนใจซื้อ IRPC จากปตท. เพื่อปิดช่องโหว่ปิโตรเคมีต้นน้ำ หลังที่ผ่านมามีแต่ปลายน้ำ
· ฝั่ง "ประเสริฐ" ไม่ยอมรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธเรื่องดังกล่าว วงการหุ้นเชื่อ ปตท. อาจขายหากได้ราคาดี
· เหตุต้นทุนซื้อมาแค่ 6 พันกว่าล้านบาท หากขายตอนนี้อาจได้เงินกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ฟันกำไรไปเท่าตัว
· หลังถือ IRPC มาร่วม 5 ปี และขจัดปัญหาการปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีในเครือ ปตท. ไปด้วย

BAY (BUY) - คงมุมมองการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นในปี 2011-12
กำไรปี 2010 ที่ 8.8 พันลบ. ดีกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย ผู้บริหารให้เป้าหมายการเติบโตของปี 2011 แบบปานกลาง แต่โดยรวมทำให้ประมาณการกำไรปี 2011 ยังคงเดิม (+12%Y-Y) และเรายังคงมุมมองแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งใน 2-3 ปีข้างหน้าที่ราว 20% ต่อปี จากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญจะลดลงตั้งแต่ 2H11 และค่าใช้จ่ายในการควบรวมจะสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ในราว 1Q12 คงราคาเหมาะสมปี 2011 เป็น 30 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ โดยคาดการณ์ เงินปันผลจากกำไร 2H10 อีกหุ้นละ 0.28 บาท (Yield ~ 1.1%)

-----------------------------------------------------------------------------
MARKET WAVE Analysis
24 มค. 54 ( -15.59 จุด ) โกมล พงศ์วิญญู เลขทะเบียน 18338

ไม่ต่ำกว่า 1000.96 ปรับตัวขึ้น 1014 –24 จุด
แนวโน้มในวันจันทร์นี้ตราบใด ไม่ต่ำกว่า 1000.96 จุดต่ำสุดของวันศุกร์ ดัชนีมีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไปแถว 1014 – 24 จุด ใกล้
แนวต้านตามธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มหลักของตลาดยังคงเป็น “ขาลง” โดยเฉพาะถ้า ต่ำกว่า 990 จุด
จะทำให้เกิด “สัญญาณขาย” อีกครั้งในเครื่องมือ Point & Figure และ ดัชนีมีเป้าหมายในการปรับตัวลงต่อแถว 900 – 940 จุดสำหรับภาพไตรมาสหนึ่ง ปีนี้

หุ้นเด่น
LPN
ปรับตัวลงมาแถวเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันพอดี รอซื้อตามเมื่อปรับตัวเกิน 8.75 จุดสูงสุดเวลา15.00 น. วันศุกร์ เป้าหมายสองสามวัน8.95 – 9.05 / ระยะสัปดาห์ 9.75 - 9.95 ?( ตัดขาดทุนถ้าต่ำกว่า 8.60 )

10 อันดับซื้อขายสูงสุด
BANPU ไม่น่าเกิน 800 - 810
KBANK ไม่น่าเกิน 118 - 119
PTT แกว่งตัว 334 - 342
IVL เกิน 43.50 ขึ้น 45 – 47
SCB เกิน 98.25 ขึ้น 100 - 101
BBL เกิน 160 ขึ้น 161 – 162
KTB เกิน 17.80 ขึ้น 18 – 18.20
TRUE ต่ำกว่า 6.65 ลง 6.30 – 6.40
PTTCH ต่ำกว่า 145 ลง 142 - 143
TOP ต่ำกว่า 72.25 ลง 70.50 – 71.50


-----------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
FSS : จังหวะตลาดดีดขึ้นไม่ควรซื้อไล่ราคา แต่น่าจะแบ่งส่วนขายทำกำไรบ้าง...
แนวโน้ม: หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วความวิตกว่าทางการจีนจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในท้ายสัปดาห์กดดันให้ตลาดหุ้นทั่วเอเชียปรับตัวลดลงค่อนข้างมากรวมถึง SET ด้วย แต่หลังจากผ่านสุดสัปดาห์มายังไม่มีการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากทางจีน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีของบริษัทเอกชนด้วย ทำให้ FSS คาดว่าสัปดาห์นี้ SET มีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นไปเคลื่อนไหวในด้านบวกได้ อย่างไรก็ตามความกังวลต่อแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีนหลังตัวเลขเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงนั้น น่าจะยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนอยู่พอสมควร ดังนั้นเราคาดว่า SET จะยังดีดตัวขึ้นได้ไม่ไกลนัก และมีแนวโน้มที่จะอยู่ในลักษณะแกว่งตัวในกรอบ 1000-1030 จุดมากกว่า และมีสิทธิที่จะหลุดลงไปหาจุดต่ำเดิมแถว 980 จุดได้ด้วย

กลยุทธ์: จึงยังแนะนำให้รอทยอยตั้งรับเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลงเท่านั้น ส่วนจังหวะรีบาวด์ขึ้นไป แนะนำให้แบ่งส่วนขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงลงบ้าง

ประเด็นสำคัญวันนี้
• (-) สัปดาห์นี้สินทรัพย์เสี่ยงรวมทั้งหุ้นยังไม่ปลอดภัย ความกลัวเรื่องเงินเฟ้อจะยังอยู่ในตลาดเพราะมีรายงานเงินเฟ้อของหลายประเทศ มีการประชุมธนาคารกลาง 5 แห่ง (อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ นิวซีแลนด์ มาเลเซีย) แม้ว่า Consensus จะคาดว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่ก็ทำให้ตลาดผันผวนได้ นอกจากนี้ มีรายงาน GDP 4Q10 ของอังกฤษ เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสผันผวนเช่นเดียวกับตลาดหุ้น กรอบแกว่งดัชนีสัปดาห์นี้ 1,000 – 1,030 จุด ยังต้องระวังหุ้น Big cap ที่เป็นเป้าหมายในการขายของต่างชาติ หันมาเน้นเป็นรายตัวที่คาดว่าจะประกาศกำไรดี PTTCH, PTTAR, IRPC, IVL, TOP, ESSO,BANPU, LANNA, AGE, STA, TVO HMPRO, BIGC, MAKRO, BEC ส่วนกลุ่มที่คาดว่ากำไรจะลดลง Q-Q ได้แก่กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ (ยกเว้น SVI ที่จะมีกำไรดีที่สุดของปี), CPF, GFPT, TSTH

• (+) กลุ่มแบงก์กำไรดีกว่าคาด กลุ่มแบงก์ประกาศกำไรครบแล้ว ทั้งกลุ่มมีกำไรเพิ่มขึ้น 22% Y-Y แต่ลดลง 10% Q-Q ดีกว่าเราคาด 3% KBANK มีกำไรโดดเด่นและเหนือความคาดหมายมากที่สุด รองลงมาเป็น KTB, BAY, TMB ขณะที่ KK น่าผิดหวังที่สุด เรามีการปรับประมาณการและราคาเป้าหมายขึ้นดังนี้ BBL ปรับจาก185 บาทเป็น 195 บาท KTB ปรับจาก 19.50 บาทเป็น 20.40 บาท KBANK ปรับจาก 150 บาทเป็น 155 บาท แนวโน้มกำไร 1Q11 และทั้งปี 2011 ยังโดดเด่นต่อเนื่องจากสินเชื่อที่เร่งตัวมากขึ้นในช่วงปลายปี ขณะที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น การถูกขายทำกำไรทันทีหลังประกาศผลประกอบการโดยกลุ่มแบงก์ปรับลง 4.8% ใน2 วันที่ผ่านมา ลงมากกว่า SET ที่ -1.5% เปิดโอกาสในการเลือกหุ้นดีสะสมในระยะยาว หุ้นเด่นได้แก่ KBANK, SCB

• (0) กลุ่มที่อยู่อาศัย แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ปี 2011 ยังสามารถเติบโตได้ แต่ชะลอจากปี 2010 ที่เติบโตร้อนแรงจากอานิสงส์ของมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ โดยมีปัจจัยลบจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและมาตรการ LTV ที่ทำให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยชะลอบ้าง แต่คาดว่าระยะยาว จะเกิดการปรับตัวได้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เรายังคงมุมมอง “Neutral” แนะนำ “ซื้อ” SPALI และ APซึ่งเป็นตัวเลือกสำหรับบ้านและคอนโดฯ ราคาระดับกลาง เพราะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นมีผู้รายได้ระดับกลางขึ้นไป ซึ่งยังมีความสามารถในการซื้อและการขอสินเชื่อที่อยู่ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มขาขึ้นได้

• Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมาไหลออกมากจากตลาดภูมิภาค โดยเฉพาะวันศุกร์ที่ผ่านมาขายสุทธิหนักเกือบทุกตลาด แม้กระทั่งตลาดหุ้นไต้หวันที่ฝรั่งซื้อสุทธิมาตลอดกับขายมากกกว่าปกติ แรงขายน่าจะเป็นผลจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ บวกกับความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นสูงกว่าคาดในภูมิภาคนี้ ที่สำคัญคือ อัตราเงินเฟ้อที่รายงานล่าสุดของเดือนธันวาคมของจีนที่สูงถึง 4.6% ทำให้กลายเป็นปัจจัยกดดันตลาดว่าจีนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ข่าวล่าสุดน่าจะมีการปรับในช่วงก่อนตรุษจีนนี้ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ได้สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนบาง แต่เช้านี้ค่าเงินอินโด และฟิลิปปินส์ทรงตัวหรือแข็งค่าเล็กน้อย ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยหนุนเล็กน้อยว่าแต่ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่องมาอยู่ที่ 30.74 บาท/ดอลลาร์ ดังนั้นแนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติอาจจะไม่ขายหนักเหมือนวันศุกร์ เรายังมองว่านักลงทุนต่างชาติยังขายปรับพอร์ตอยู่


ข่าวภายในประเทศ
หึ่งปูนใหญ่สนซื้อ IRPC ปตท.ไม่ปฏิเสธขายทิ้ง วงการหุ้นเชื่อราคาดีปล่อยแน่ ฟันกำไรกว่า 6 พันล้านบาท หึ่งปูนใหญ่สนใจซื้อ IRPC จากปตท. เพื่อปิดช่องโหว่ปิโตรเคมีต้นน้ำ หลังที่ผ่านมามีแต่ปลายน้ำ ฝั่ง “ประเสริฐ” ไม่ยอมรับแต่ก็ไม่ปฏิเสธเรื่องดังกล่าว วงการหุ้นเชื่อ ปตท. อาจขายหากได้ราคาดี เหตุต้นทุนซื้อมาแค่ 6 พันกว่าล้านบาท หากขายตอนนี้อาจได้เงินกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ฟันกำไรไปเท่าตัว หลังถือ IRPC มาร่วม 5 ปีและขจัดปัญหาการปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีในเครือ ปตท. ไปด้วย (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 24-01-2011)

SAT หุ้นสวยปีนี้โต 45% คว้าออเดอร์คูโบต้าเพิ่ม SAT หุ้นสวยรวยแน่ถ้าซื้อเก็บ “วีระยุทธ” การันตีปี'53 ยอดขายโตตามนัดเกิน 45%อุตสาหกรรมยานยนต์สวมบทป๋าดัน เปรยปันผลครึ่งหลังสวยหรูแน่ มั่นใจปีนี้โตไม่หยุด “คูโบต้า” เทออเดอร์อีก 20% ฟากวงการชี้กำไรปี'53 ปรี๊ด 790ล้านบาท ปันผลครึ่งหลัง 0.42 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 24-01-2011)

TPOLY ลุ้นได้งาน 1.2 พันล้านเข้า Q1 รายได้ปีนี้โต 25% TPOLY ลุ้นชนะประมูลงานใหม่ 1,200 ล้านบาท จากงานทั้งหมด 5,000 ล้านบาท ที่เข้าประมูลใ นQ1/54 ดันแบ็กล็อกเพิ่มขึ้นกว่า 3,000 ล้านบาท หนุนรายได้ปีนี้โตตามเป้า 25% โบรกฯ เชียร์ซื้อ เชื่อหุ้นเหลืออัพไซด์กว่า 20% จากราคาเป้าหมาย 3.10 บาท คาดกำไร Q4/53 โต 40% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 24-01-2011)

DTAC เล่นได้ไม่เจ็บตัวจ่ายปันผลงามยีลด์ 6% หุ้นสื่อสารสวย แม้ติดปมสัมปทานมือถือ เชื่อลากยาวกว่า 3 ปี แนะนำเล่น DTAC เหตุกำไรปีที่ผ่านมาสวย แม้ว่าปีนี้ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้เพิ่ม 30% จากรายได้รวมก็ตาม พบว่าผลการดำเนินธุรกิจด้านดาต้าและการขายโทรศัพท์มือถือรุ่ง นำมาหักล้างกันได้ (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 24-01-2011)

ROBINS กำไรเพิ่มปีละ 15% ลุ้นปันผลปี 53 อีก 55 สตางค์ ROBINS มีสัญญาณดีกำไรพุ่งปีละ 15% จากเศรษฐกิจที่ขยายตัวการเมืองที่คลี่คลายและการขยายสาขาเพิ่มอีก 3 แห่งในปีนี้ โบรกฯมอง PER ต่ำ แต่อัพไซด์สูงกว่า 40% จึงแนะเข้าซื้อลงทุน ราคาเป้าหมาย 30.70 บาท พร้อมลุ้นรับเงินปันผลสำหรับปี 2553 อีก 0.55 บาท (ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น 24-01-2011)

-----------------------------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ตลาดหุ้นสหรัฐดีดกลับขึ้นปิดบวก 49.04 จุด แต่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง โดยผลประกอบการของ GE แข็งแกร่งเกินคาด ช่วยบ่งชี้แนวโน้มเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นด้วย หลังหุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลสเปนวางแผนที่จะเข้าถือครองหุ้นบางส่วนในธนาคารออมทรัพย์ที่มีหนี้สินสูง

ส่วนตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้เริ่มรีบาวด์กลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเป็นบวกได้บ้าง หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทางการจีนยังไม่ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดวิตก

ดัชนี VIX Index ดีดตัวขึ้น 2.67% มาเคลื่อนไหวแถว18.47 หลังผลประกอบการของแบงก์หลายแห่งในสหรัฐยังกดดันความมั่นใจของนักลงทุน

ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ปิดที่ 89.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.48 ดอลลาร์ โดยการเปิดทำการของท่อส่งน้ำมันทรานส์ อลาสกายังคงกดดันราคาน้ำมัน

ราคาทองคำล่วงหน้าในตลาด COMEX ปิดที่ 1341.00ดอลลาร์/ออนซ์ ยังลงต่ออีก 5.50 ดอลลาร์ หลังความต้องการซื้อในสินทรัพย์เสี่ยงยังสูง จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ดูดีขึ้น

ข่าวต่างประเทศ
ยุโรป: เงินยูโรพุ่งสูงสุดในรอบ 2 เดือนเช้านี้ หลังมีสัญญาณบ่งชี้เศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวเร็วขึ้น ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในยุโรปเริ่มฟื้นตัวในอัตราที่รวดเร็วขึ้น และจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการระยะยาวเพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะ ทั้งนี้ ณ เวลา 08.19 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้ ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3611 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ 1.3621 ดอลลาร์สหรัฐ และหากเทียบกับเงินเยน ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 112.45 เยน จากระดับ 112.48 เยน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 24-01-2011)

จีน: จีนเผยยอดนำเข้าน้ำตาลเดือนธ.ค.พุ่ง 515% ต่อปี แตะ 124,988 ตัน ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานศุลกากรจีนระบุว่า จีนมียอดนำเข้าน้ำตาลทั้งสิ้น 124,988 ตันในเดือนธันวาคม พุ่งสูงขึ้น 515% จากปีก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้น 443% จากเดือนก่อน ยอดนำเข้าน้ำตาลในเดือนที่ผ่านมาได้รับปัจจัยหนุนหลักจากกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับลดผลผลิตในฤดูหีบอ้อยปี 2553/2554 โดยสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยวอ้อยราว 13% ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกอ้อยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สำหรับยอดนำเข้าน้ำตาลของจีนตลอดทั้งปี 2553 อยู่ที่ระดับ 1.77 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 66% เมื่อเทียบเป็นรายปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 21-01-2011)

จีน: จีนเผยยอดนำเข้าสินค้าจากอาเซียนเพิ่มขึ้น 44.8% ในปี 2553 กรมศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า มูลค่าการนำเข้าสินค้าจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เพิ่มขึ้น 44.8% แตะระดับ 1.5456 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2553 โดยข้อมูลสถิติของกรมศุลกากรระบุว่า การค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายขยายตัว 37.5% เมื่อเทียบปีต่อปี แตะระดับ 2.9278 แสนล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่การจัดตั้งเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเมื่อต้นปี 2553 ทั้งนี้ อาเซียนเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 4 ของจีนรองจาก สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และ ญี่ปุ่น โดยการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้ามีสัดส่วน 53.7%ของการนำเข้าทั้งหมด (ที่มา: อินโฟเควสท์ 21-01-2011)

จีน: จีนเผยยอดนำเข้ายางธรรมชาติเดือนธ.ค.ลดลง 0.2% เทียบรายปี กรมศุลกากรจีนเปิดเผยว่า จีนนำเข้ายางธรรมชาติ 181,542 ตันในเดือนธันวาคม 2553 หรือลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับตลอดปี 2553 จีนนำเข้ายางธรรมชาติรวม 1.86 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 8.8% จากปีก่อนหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน (ที่มา: อินโฟเควสท์ 21-01-2011)

จีน: จีนเผยยอดนำเข้าน้ำตาลเดือนธ.ค.พุ่ง 515% ต่อปี แตะ 124,988 ตัน ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานศุลกากรจีนระบุว่า จีนมียอดนำเข้าน้ำตาลทั้งสิ้น 124,988 ตันในเดือนธันวาคม พุ่งสูงขึ้น 515% จากปีก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้น 443% จากเดือนก่อน ยอดนำเข้าน้ำตาลในเดือนที่ผ่านมาได้รับปัจจัยหนุนหลักจากกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับลดผลผลิตในฤดูหีบอ้อยปี 2553/2554 โดยสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยวอ้อยราว 13% ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกอ้อยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ (ที่มา: อินโฟเควสท์ 21-01-2011)
-----------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น