Code 62 : วันฉัตรมงคล

วันพุธที่ 5 พฤษภาคม 2553
ATT-Code : วันฉัตรมงคล - "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
วันฉัตรมงคลนี้ ขอนำบทความของ ลมเปลี่ยนทิศ ในคอลัม หมายเหตุประเทศไทย ของไทยรัฐ ซึ่งได้กล่าวถึงประวัติของวันฉัตรมงคล และยกตัวอย่างพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เป็น ข้อคิด และให้ นำไปคิด แล้วลงมือปฎิบัติ ด้วยความจริงใจ ก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาและอุปสรรค์ สามารถผ่านไปได้ด้วยดี


วันนี้ "วันฉัตรมงคล" วันที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์ตามโบราณราชประเพณี เป็น พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 ในโอกาสนี้ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์ต่อจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นเสด็จไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จนทรงบรรลุนิติภาวะแล้วจึงเสด็จนิวัติกลับประเทศไทย รัฐบาลจึงได้จัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นถวาย และถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคมทุกปีเป็น วันฉัตรมงคลรำลึก

ในการเสด็จขึ้นครองราชสมบัติตามโบราณราชประเพณี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" ซึ่งยังตราตรึงอยู่ในหัวใจของพสกนิกรทุกคนตราบทุกวันนี้

ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ทรงครองแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริและพระราชกรณียกิจต่างๆ เพื่อแผ่นดินและประโยชน์สุขของประชาชนหลายพันโครงการ ซึ่งไม่มีใครคิดออกว่า ในชีวิตของคนคนหนึ่งจะสามารถคิดโครงการต่างๆ เพื่อประโยชน์สุขของสังคมและประชาชนได้มากมายขนาดนี้

นอกจากนี้ยังทรงมี "พระราชดำรัส" ในที่ต่างๆมากมาย เพื่อเป็น "ข้อคิด" ให้รัฐบาล ข้าราชการและประชาชน "นำไปคิด" เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง

อย่างเช่นเรื่อง "ประชาธิปไตย" พระองค์เคยรับสั่งว่า

"ประชาธิปไตยไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ หากแต่อยู่ที่ประชาชนจะต้องไปใช้สิทธิใช้เสียงของตนเองให้มากที่สุด"

ในเรื่อง "ความสงบสุขของบ้านเมือง" พระองค์ก็ทรงรับสั่งว่า

"การอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนโดยเสมอหน้ากันตามกฎหมาย และโดยถูกต้องตามหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด เป็นหัวใจของการรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง"

ในเรื่องของ "กฎหมาย" และ "ความยุติธรรม" ทรงรับสั่งว่า

"ผู้ที่ต้องการใช้กฎหมายสร้างสรรค์ความผาสุกสงบ และความเป็นปึกแผ่นก้าวหน้าของประชาชนและบ้านเมือง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาวัตถุประสงค์อันแท้จริงของกฎหมายแต่ละฉบับไว้ให้แน่นอนเสมอไป อย่างไม่มีข้อแม้ประการใดๆ พร้อมต้องรักษาอุดมคติ จรรยา ความสุจริต และมโนธรรมของนักกฎหมายไว้โดยรอบคอบ เคร่งครัด เสมอด้วยรักษาชีวิตของตนเอง กฎหมายไทยจึงจะทรงคุณค่าอันสมบูรณ์"

แม้กระทั่งเรื่อง "ความขัดแย้งในบ้านเมือง" ทรงรับสั่งว่า

"...หันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคนสองคน เป็นประเทศของทุกคน ต้องเข้าหากัน ไม่ใช่เผชิญหน้าแก้ปัญหา เพราะว่าอันตรายมีอยู่ เวลาคนเราเกิดความบ้าเลือดปฏิบัติการรุนแรงต่อกัน มันลืมตัว ลงท้ายก็ไม่รู้ตีกันเพราะอะไร แล้วก็จะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครชนะ ไม่มีทางชนะ อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดคือประเทศชาติ..."

ผมคิดว่าเพียงไม่กี่เรื่องที่ทรงรับสั่ง ไม่ว่าจะเป็น ประชาธิปไตย, ความสงบสุขในบ้านเมือง, กฎหมาย, ความยุติธรรม และ ความขัดแย้งในบ้านเมือง ล้วนเป็น "ทางออก" ในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในปัจจุบันทั้งสิ้น

ขอเพียงทุกฝ่ายทุกคนนำพระราชดำรัสนี้ไป "คิด" แล้วลงมือ "ปฏิบัติ" ด้วยความ "จริงใจ" ผมเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างในบ้านเมืองวันนี้ แก้ไขได้แน่นอน.

"ลม เปลี่ยนทิศ"

--------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
ไทยรัฐ - By...อินเด็กซ์ 51 : เงาหุ้น-อารมณ์ดี...มีความสุข!!
ดัชนีหุ้นวันที่ 4 พ.ค.53 ปิดที่ 796.86 จุด เพิ่มขึ้น 33.35 จุด หรือ 4.37% มีมูลค่าการซื้อขาย 41,708.01 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,525.68 ล้านบาท

หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด นำโดย PTT ปิดที่ 269 บาท เพิ่มขึ้น 12 บาท, PTTEP ปิดที่ 157.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท, SCB ปิดที่ 88.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท, KBANK ปิดที่ 97.25 บาท เพิ่มขึ้น 7 บาท และ BANPU ปิดที่ 682 บาท เพิ่มขึ้น 40 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป มองแนวโน้มตลาดวันที่ 6 พ.ค.ว่า อยู่ในแนวโน้มเชิงบวกหลังสถานการณ์การเมืองดูคลี่คลายและชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะล่าสุดแกนนำคนเสื้อแดงยอมรับข้อเสนอแนวทางปรองดองของนายกรัฐมนตรีแล้ว

ทั้งนี้ มองว่าตลาดรอบนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นแตะระดับ 820 จุดซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมก่อนที่ดัชนีจะปรับตัวลดลง และอาจได้เห็นการปรับเพิ่มเป้าหมายของดัชนีหุ้นไทยของบรรดาโบรกเกอร์สำนักต่างๆด้วย แต่ตลาดอาจกลับมาให้น้ำหนักกับปัญหาเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น ทั้งปัญหาของกรีซ และแผนปฏิรูปการเงินของสหรัฐฯ

แนะกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้สามารถซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้น หรือ "เทรดดิ้ง" ได้เพิ่มขึ้นเป็น 75% ของพอร์ต จากเดิม 30% ขณะที่ประเมินแนวต้านไว้ที่ 820 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 785 จุด

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย คาดดัชนีมีโอกาสทะลุ 800 จุดมาที่ 820 จุดได้ แนะนำให้ซื้อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการเมืองก่อนหน้านี้ซึ่งราคาปรับตัวลงแรง เช่น กลุ่มโรงแรม นิคมอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกัน ยังสามารถเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงานและปิโตรเคมีได้

ปิดท้าย บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ที่เคยแนะให้ซื้อหุ้น LANNA, KCE, TUF, SMT, SSI, RCL, TTA และ PTTEP ยังให้ถือกันต่อไปได้ และอาจเพิ่มหุ้น KBANK, KTB, BAY, SCB และ TOP

เท่านั้นยังไม่พอ ยังสามารถเลือกเล่นสั้นได้ในหุ้น CPN ERAWAN IVL TCAP ได้อีก!!
--------------------------------------------------------
สรุปภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ตปท.
ไทยรัฐ : ดาวโจนส์ร่วงกว่า200จุดกังวลวิกฤติกรีซ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งฮวบกว่า 200 จุด หลังนักลงทุนไม่วางใจว่ากรีซและยุโรปจะพ้นวิกฤติการเงิน ด้านราคาน้ำมันลดลงอยู่ที่ระดับ 82.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ว่า การซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดตลาดวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุด เพราะนักลงทุนกังวลว่าเงินช่วยเหลือรัฐบาลกรีซมูลค่าถึง 146,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,700 ล้านล้านบาท ในช่วง 3 ปีข้างหน้า อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยยื้อเศรษฐกิจของกรีซให้พ้นจากภาวะล้มละลายได้ ทั้งยังจะทำให้ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรอื่น ๆ ได้รับผลกระทบไปด้วย ส่งผลดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,926.77 ร่วงลง 225.06 จุด หรือ 2.02% จุด ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,424.25 จุด ลดลง 74.49 จุด หรือ 2.98% ดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,173.60 จุด ลดลง 28.66 จุด หรือ 2.38%

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ร่วงลง 3.45 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 82.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 5,411.11 จุด ลดลง 142.18 จุด หรือ 2.56% ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 6,006.86 จุด ลดลง 160.06 จุด หรือ 2.60% ดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 3,689.29 จุด ลดลง 139.17 จุด หรือ 3.64% ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ลดลง 3.27 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 85.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 1,168.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง 14.10 ดอลลาร์สหรัฐ จากเมื่อวันจันทร์ ซึ่งปิดที่ 1,182.70 ดอลลาร์สหรัฐ.

--------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น